BMW ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ ยานยนต์ไฟฟ้าในระบบปลั๊กอินไฮบริดที่ประกอบขึ้นในประเทศ และพร้อมตอบโจทย์การขับขี่แบบรอบด้านสำหรับนักขับที่รักการผจญภัย นอกจากนี้ยังมี บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport และ X5 xDrive30d M Sport และ 320d GT Sport เปิดในงานด้วย
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ ผสมผสานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ xDrive และระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า eDrive ของบีเอ็มดับเบิลยูเข้ากันอย่างลงตัว เพื่อมอบความเพลิดเพลินในการขับขี่ควบคู่ความยั่งยืนอย่างสมบูรณ์ บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ มาพร้อมกับระบบปลั๊กอินไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร มอบกำลังสูงสุดที่ 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Sport Steptronic มอบกำลังขับจากระบบไฟฟ้าสูงสุดที่ 80 กิโลวัตต์ / 109 แรงม้า โดยส่งพลังลงสู่ล้อทั้งสี่อย่างเต็มพิกัดเพื่อตอบทุกโจทย์การขับขี่อย่างแท้จริง รวมถึงการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ การประหยัดน้ำมัน และการลดมลภาวะ
เมื่อนับรวมกันแล้ว เครื่องยนต์ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ และมอเตอร์ไฟฟ้าของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นนี้สามารถส่งกำลังรวมสูงสุดได้ถึง 215 กิโลวัตต์ / 292 แรงม้า และยังช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้ลงมาที่ระดับ 35.7 กิโลเมตรต่อลิตร ขณะที่อัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 64 กรัมต่อกิโลเมตร และหากนับรวมการใช้พลังงานทั้งสองรูปแบบแล้ว บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ จะมีอัตราการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 17.92 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมาพร้อมกับเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ใหม่ล่าสุด ส่งกำลังให้สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ในระยะทางสูงสุดถึง 47 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมในด้านการใช้พลังงานนี้ ยังมาพร้อมกับสมรรถนะที่เป็นเลิศ ด้วยแรงบิดรวมสูงสุดที่ 420 นิวตันเมตร ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 6.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มอเตอร์ไฟฟ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ สามารถทำงานทั้งในรูปแบบการขับขี่พลังงานไฟฟ้าล้วน หรือเพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของเครื่องยนต์สันดาป ตามแต่โหมดการทำงานและสถานการณ์บนท้องถนนอีกด้วย โดยในโหมด MAX eDrive ซึ่งเปิดใช้งานได้ด้วยปุ่ม eDrive บริเวณคอนโซลหลัก บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ จะสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยปราศจากการปล่อยมลพิษ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบเชียบ ไร้เสียงรบกวน ด้านโหมด Auto eDrive แบบมาตรฐานสามารถทำความเร็วสูงสุดด้วยการขับขี่แบบไฟฟ้าล้วนได้ที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะเดียวกัน เครื่องยนต์สันดาปยังสามารถสลับมาทำหน้าที่แทนเมื่อเร่งความเร็วสูงขึ้น หรือเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์เพิ่มเติม เมื่อระบบเครื่องยนต์และมอเตอร์ทำงานประสานกัน บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ จะแสดงประสิทธิภาพและพลังการขับขี่ให้สัมผัสได้ถึงขีดสุด โดยในขณะที่เร่งความเร็ว มอเตอร์ไฟฟ้าจะมอบการตอบสนองที่ทันใจกว่าอย่างชัดเจน และในการขับขี่ด้วยความเร็วคงที่ มอเตอร์ไฟฟ้าก็จะช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและการปล่อยมลภาวะลง
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกใช้คุณสมบัติ BATTERY CONTROL เพื่อกำหนดสถานะการชาร์จของแบตเตอรี่แรงดันสูงให้อยู่ในระดับที่ผู้ขับขี่ต้องการ จึงสามารถกักเก็บพลังงานเพื่อสลับมาเลือกขับขี่แบบ ไร้มลภาวะได้ ขณะเดินทางผ่านบริเวณเมืองเป็นต้น
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ ตั้งอยู่บริเวณใต้เบาะผู้โดยสารด้านหลังจึงช่วยประหยัดพื้นที่ ในขณะที่ถังน้ำมันตั้งอยู่เหนือบริเวณเพลาหลังของตัวรถ รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันนี้จึงสามารถบรรจุสัมภาระได้โดยแทบไม่ถูกจำกัดพื้นที่ ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระที่มีความจุถึง 450 ลิตร เทียบได้กับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปรุ่นอื่น ๆ และเมื่อพับพนักพิงเบาะหลังแบบ 40:20:40 ก็สามารถเพิ่มความจุได้สูงสุดถึง 1,500 ลิตร
ด้วยเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล้ำสมัยที่มีความจุรวม 12.0 กิโลวัตต์-ชั่วโมง แบตเตอรี่แรงดันสูงของบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ จึงมอบทั้งประสิทธิภาพที่โดดเด่นและระยะทางการขับขี่แบบไฟฟ้าล้วนที่ยาวไกลกว่า จึงใช้ขับขี่เดินทางในแต่ละวันได้โดยปราศจากมลภาวะ แม้จะต้องเดินทางออกนอกเมืองก็ตาม แบตเตอรี่แรงดันสูงชุดนี้รองรับการชาร์จผ่านเต้าเสียบปลั๊กไฟทั่วไปภายในบ้านด้วยอุปกรณ์สายชาร์จมาตรฐาน โดยสามารถชาร์จจนเต็มได้ภายเวลาไม่เกิน 6 ชั่วโมงด้วยวิธีนี้ ในขณะที่การชาร์จแบตเตอรี่ผ่านแท่นชาร์จ BMW i Wallbox จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ภายในเวลาเพียง 3.5 ชั่วโมง
รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e ใหม่ ในแพ็คเกจชุดแต่ง M Sport มาพร้อมกับล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้วในลาย Double-Spoke ระบบไฟหน้า LED ปรับตามทิศทางหมุุนของพวงมาลัย ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ คาลิเปอร์เบรกดีไซน์ M Sport ระบบช่วยการขับขี่ ระบบช่วยจอดรถ ระบบแสดงผล BMW Head-Up Display ชุดเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman/Kardon และราวหลังคาอลูมิเนียมแบบด้าน สำหรับอุปกรณ์พื้นฐานอื่น ๆ ยังรวมถึงระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง โดยเมื่อขับขี่ในระบบไฟฟ้าด้วยความเร็วต่ำ บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ จะส่งเสียงอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรถยนต์ไฟฟ้าบีเอ็มดับเบิลยูเพื่อเตือนผู้ใช้ถนนให้ทราบถึงตัวรถที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ โดยไม่รบกวนความสงบเงียบของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
นอกจากนี้ รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ ยังมาพร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติเป็นอุปกรณ์มาตรฐานซึ่งควบคุมได้ในระยะไกลด้วยสมาร์ทโฟนผ่าน BMW Connected App ผู้ขับขี่จึงสามารถไปถึงรถยนต์ที่ปรับอากาศเย็นสบายได้ในฤดูร้อน ส่วนบริการดิจิทัลอื่น ๆ ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการชาร์จแบตเตอรี่ขณะเดินทางได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเหลือในการค้นหาสถานีชาร์จสาธารณะ การควบคุมระบบชาร์จแบตเตอรี่จากทางไกล หรือการตรวจสอบข้อมูลสถานะการชาร์จ และระยะการขับขี่ทั้งในแบบไฟฟ้าล้วนและผสม ผ่านทางสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่หรืออุปกรณ์ส่วนตัวอื่น ๆ ได้
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ (รุ่นประกอบในประเทศ)
ราคาจำหน่าย: 3,659,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport
เจเนอเรชั่นที่ 4 ของบีเอ็มดับเบิลยู X5 ทั้งในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริดและเครื่องยนต์ดีเซล โดดเด่นด้วยการผสมผสานสมรรถนะและความสะดวกสบายอย่างเหนือระดับ โดยไม่ทิ้งรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ในตระกูล SAV นอกจากนี้ ทั้ง 2 รุ่นของบีเอ็มดับเบิลยู X5 ในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริดและเครื่องยนต์ดีเซล ยังเป็นรุ่นที่ประกอบในประเทศและมาพร้อมราคาที่เร้าใจยิ่งขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport ผสานขุมพลังการขับเคลื่อนระบบไฟฟ้าเข้ากับความคล่องตัวในแบบฉบับรถยนต์ Sports Activity Vehicle (SAV) มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 43.5 กิโลเมตรต่อลิตร ตาม ECO Sticker โดยเมื่อขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว จะสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากเดิมสูงสุดที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และวิ่งด้วยไฟฟ้าได้ไกลสูงสุด 80 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC และผล Eco Sticker
บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 3.0 ลิตร BMW TwinPower Turbo ที่มอบพลังถึง 210 กิโลวัตต์ / 286 แรงม้า ควบคู่ไปกับความปราดเปรียวที่ได้จากเทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู EfficientDynamics และเจเนอเรชั่นที่ 4 ของเทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู eDrive สุดล้ำ มอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังสูงสุดที่ 83 กิโลวัตต์ / 113 แรงม้า ตัวแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจุพลังงานไฟฟ้าได้กว่า 24 กิโลวัตต์-ชั่วโมง โดยระบบไฟฟ้าทั้งหมดได้รับการพัฒนาเพื่อให้จัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลให้ระบบปลั๊กอินไฮบริดของบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport มอบความประหยัดพลังงานที่เหนือกว่า
เมื่อมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ทำงานร่วมกัน จะมอบพละกำลังสูงสุดที่ 290 กิโลวัตต์ / 394 แรงม้า พร้อมแรงบิด 600 นิวตันเมตร ส่งกำลังโดยตรงไปที่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic เจเนอเรชั่นล่าสุดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ที่มอบสมรรถนะบนถนนในสไตล์สปอร์ต พร้อมกับสมรรถนะแบบออฟโรดที่เหนือชั้น ให้อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรภายใน 5.6 วินาที ทำความเร็วได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้ากว่า 1.2 วินาที ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport
ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Steptronic ทำงานคู่กับเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ส่งกำลังสูงสุด 195 กิโลวัตต์ / 265 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตรที่ 2,000-2,500 รอบต่อนาที ส่งพลังให้เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อบีเอ็มดับเบิลยู xDrive เจเนอเรชั่นล่าสุด ที่ได้รับการพัฒนากำลังขับเคลื่อนและควบคุมการทรงตัวได้อย่างดีเยี่ยม ยังมอบความมั่นใจด้วยการถ่ายแรงขับเคลื่อนอย่างนุ่มนวลระหว่างล้อหลังทั้งสองข้าง ไม่ว่าบนเส้นทางออนโรดหรือออฟโรดในด้านระบบช่วงล่าง บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport มาพร้อมช่วงล่างแบบ Adaptive ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport มาพร้อมช่วงล่างแบบถุงลมที่สามารถปรับระดับอัตโนมัติและระบบควบคุมความนุ่มนวลโช้กอัพแบบแปรผัน ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Dynamic Traction Control) ระบบ Driving Experience Control สำหรับเลือกรูปแบบการขับขี่พร้อมโหมด ECO PRO และระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (Dynamic Stability Control) เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด พร้อมมอบความสปอร์ตคล่องตัวและความสะดวกสบายได้ตลอดเส้นทาง
บีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ ปราดเปรียวยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics เสริมลุคสปอร์ตด้วยขอบหน้าต่างและราวหลังคาสีดำเงา กระจังหน้าทรงไตคู่ที่มีผิวอลูมิเนียมแบบด้าน พร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ลาย Star-spoke สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport และล้ออัลลอย M ขนาด 21 นิ้ว ลาย Y-spoke สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport
ภายในห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ มอบความรู้สึกหรูหราและมีระดับ ด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม ดีไซน์ที่ลงตัว และระบบการควบคุมที่ล้ำสมัย แผงหน้าปัดดิจิทัลและจอ Control Display ได้รับการออกแบบทั้งกราฟฟิคและดีไซน์มาให้สอดรับกัน พร้อมด้วยเบาะนั่งหนังแท้ Vernasca และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ M Sport
ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่โดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ ยังมีหลังคากระจกแบบ Panorama ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 30% ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ล้ำสมัย เช่น ระบบ Parking Assistant Plus สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport มาพร้อมระบบ Reversing Assistant กล้องมองรอบทิศทาง Surround View Camera รวมทั้งวิวด้านบน วิวพาโนรามิค และรีโมท 3D วิวที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อเพื่อดูภาพของรถที่จอดทางโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้ผ่านระบบ BMW ConnectedDrive นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบ Driving Experience Control เลือกรูปแบบการขับขี่พร้อม ECO PRO ที่ได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์พื้นฐานในบีเอ็มดับเบิลยู X5 ใหม่ เสริมความทันสมัยและสะดวกสบายด้วยระบบ BMW Live Cockpit Professional ที่โดดเด่นด้วยจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อที่ครบครัน ขณะที่ระบบควบคุมผ่าน iDrive, BMW Gesture Control และจอ Control Display ระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ก็ยังเป็นทางเลือกเพื่อมอบที่สุดแห่งความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู X5 ยังมาพร้อม BMW ConnectedDrive มอบบริการการเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัดระหว่างยานยนต์และผู้ขับขี่
บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport
ราคาจำหน่าย: 4,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport
ราคาจำหน่าย: 4,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT Sport
ราคาจำหน่าย: 2,299,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT Sport
บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT Sport ผสมผสานพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางของรถยนต์สปอร์ตซีดานและความจุสัมภาระของรถยนต์อเนกประสงค์ไว้ได้อย่างลงตัว เพลิดเพลินในการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที สามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.7 วินาที ด้วยความเร็วสูงสุด 226 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำงานคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 27.0 กิโลเมตรต่อลิตร ขณะที่ระดับการปล่อยก๊าซ CO2 อยู่ที่ 99 กรัมต่อกิโลเมตร
ด้วยความยาวของตัวรถ 4,824 มิลลิเมตร บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT Sport จึงมีมิติความยาวของตัวถังที่ยาวกว่าบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 รุ่นอื่น ๆ ราว 200 มิลลิเมตร นอกจากนี้ช่องเก็บสัมภาระอเนกประสงค์ท้ายรถยังมีความจุสูงสุดถึง 1,600 ลิตร
บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT Sport มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว ระบบ iDrive Touch Controller และระบบ BMW ConnectedDrive ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมระบบบันเทิงและการติดต่อสื่อสารต่างๆ ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT Sport ยังมีอุปกรณ์มาตรฐานอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Servotronic ระบบไฟหน้า LED ปรับอัตโนมัติ และโหมดการขับขี่ Driving Experience Control ต่างๆ
บีเอ็มดับเบิลยู 320d GT Sport
ราคาจำหน่าย: 2,299,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard)
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น