งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 ภายในงานมีรถมากมาย หลากค่ายหล่ายรุ่นที่นำมาจัดแสดงและจำหน่าย และหนึ่งในรถที่คนไทยให้ความนิยม คือ รถกระบะ ที่ประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตในภูมิภาคนี้
รถกระบะในประเทศไทยถือว่าเป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงสุด และในช่วงปีหลังๆการเติบโตของกระบะราคาเกิน 1 ล้านบาทหรือกระบะพันธุ์พิเศษที่ได้รับการตกแต่งจากโรงงานนั้นได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และในงานมอเตอร์โชว์ ก็มีรถมาจัดแสดงหลากหลายรุ่น จะมีรุ่นอะไรกันบ้าง
FORD RAPTOR
ฟอร์ด แร็พเตอร์ ยังคงเป็นกระบะที่ราคาสูงที่สุดในตลาดแต่ก็มาพร้อมกับสมถรรนะที่ยังไม่มีใครเหมือน และในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ ก็ได้รับการตกแต่งแบบยกสูง ปรับช่วงล่างใหม่ยกขึ้น พร้อมกับการเปลี่ยนกันชนหน้า หลังใหม่ ล้อขนาดใหญ่ ดูดุดันมากยิงขึ้น
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ สุดยอดรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง อัดแน่นไปด้วยดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ที่มาพร้อมขุมพลังเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ปฏิวัติวงการรถกระบะด้วยฟีเจอร์ และเทคโนโลยีช่วยขับขี่ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกระดับอย่าง ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง เพิ่มช่องต่อ USB และไฟหน้าแอลอีดี พร้อมสีล่าสุด Performance Blue
Mitsubishi Triton Athlete
มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ชุดตกแต่งกันชนหน้าสีดำแบบสปอร์ต พร้อมไฟหน้า กระจังหน้า กันชนหน้า ตลอดจนเส้นสายดีไซน์ไดนามิกชิลด์ด้านหน้าพร้อมหลังคาสีดำและล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว
มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ยังโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยด้วยดีไซน์ของมือเปิดกระบะท้ายและกันชนหลังสีดำ พร้อมสัญลักษณ์ ‘ATHLETE’ บนฝากระบะท้าย พร้อมชุดพื้นปูกระบะที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรถรุ่นนี้ แกร่งขึ้นไปอีกขั้นด้วยกรอบกระจกมองข้างและสไตล์ลิ่งบาร์สีดำ พร้อมบันไดข้าง รวมถึงสัญลักษณ์ ‘ATHLETE’ บนแถบกราฟฟิกข้างตัวรถ ภายในห้องโดยสารเหนือระดับด้วยการตกแต่งในสไตล์ทูโทนสีส้มและสีดำ
MG EXTENDER
อีกหนึ่งค่ายกับกระบะน้องใหม่ MG EXTENDER ที่ได้รับการปรับแต่งแนวกู้ภัย ที่มาพร้อมกับชุดแต่งรอบคันกันชนหน้าเสริมเหล็กพร้อมไฟสปอร์ไลท์ ด้านบนมาพร้อมไฟฉุกเฉิน ท้ายรถถูกออกแบบให้ขนอุปกรณ์กู้ภัยในรูปแบบต่างๆ
NEW MG EXTENDER แตกต่างด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น พร้อมมิติตัวถังขนาดใหญ่โดยมีทั้งแบบกระบะตอนครึ่ง (Giant Cab) ที่มีความยาวกระบะท้ายถึง 1,900 มิลลิเมตร ซึ่งยาวที่สุดในรถระดับเดียวกันจึงช่วยเพิ่มปริมาณการบรรทุกได้มากยิ่งขึ้น และแบบ 4 ประตู (Double Cab) พร้อมช่วงล่างแบบ EUROPEAN TUNING SUSPENSION ระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone) ด้านหลังแหนบแบบซ้อนแผ่น (Leaf Spring Suspension) ทำงานควบคู่กับช่วงล่างแบบ BRIT Dynamic ซึ่งให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ในความเร็วต่ำ และให้ความมั่นคงในการขับขี่ที่ความเร็วสูง เพิ่มความปลอดภัยและมั่นใจในการใช้งาน ในขณะที่ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ (Projector) พร้อม Daytime Running Lights บันไดข้าง และกล้องมองหลังพร้อมเซนเซอร์ขณะถอย ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่ในรุ่น Giant Cab แบบยกสูง
NISSAN NAVARA
Nissan Navara N-Trek Warrior จะมาพร้อมชุดตกแต่งรอบคัน ด้านหน้ามาพร้อมกระจังหน้าสีดำ กันชนหน้าดีไซน์บึกบึน พร้อมกรอบไฟตัดหมอกสีส้ม ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลายพิเศษ พร้อมยาง All Terrain และซุ้มล้อด้านข้างสีดำ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวกรอบสีดำคาดส้ม ราวหลังคาสีดำ สติ๊กเกอร์ Navara N-Trek Warrior ที่ข้างประตู พร้อมบันไดข้างสีดำคาดส้ม โรลบาร์สีดำ พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 กันชนหลังสีดำ พร้อมสิต๊กเกอร์ NAVARA
ด้านภายในห้องโดยสารจะตกแต่งเป็นโทนสีพิเศษ ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ยกสูง (Calibre) จะได้โทนสีดำ-ส้ม ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมาพร้อมโทนสีดำล้วน และยังคงฟังก์ชั่นต่าง ๆ เหมือนกับ Navara รุ่นปกติ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียงแบบ Nissan Connect ที่รองรับการเชื่อมต่อระบบ Infortainment อย่าง Apple Car Play และ Android Auto พร้อมแสดงภาพรอบตัวรถผ่านกล้องรอบคัน
ด้านขุมพลังยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร YD25 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ และ 163 แรงม้า แรงบิด 403 นิวตันเมตร ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง ควบกับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ขณะที่ช่วงล่างได้รับการปรับแต่งพิเศษทั้งโช็คอัพ คอยสปริง และ แผ่นแหนบ เพื่อเอาใจขาลุยโดยเฉพาะ
TOYOTA REVO ROCCO
Hilux REVO Rocco 2020 กับมาอีกครั้ง กับการเปลี่ยนแปลงใหม่ เพื่อกลับมาทวงตำแหน่ง เบอร์หนึ่งยอดขายปิกอัพของไทย และกับปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
REVO Rocco มาพร้อมหน้าตาใหม่ที่โหดและดุดันกว่าเดิม เริ่มจากกระจังหน้า ดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าดูเล็กลงเพิ่มรายละเอียดมากขึ้น พร้อมไฟแบบ Bi-Beam LED ทั้งชุด โคมด้านในเป็นสีดำ ไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ โป่งล้อออกแบบใหม่ ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาดเป็น 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/65R18 แบบ All-Terrain ลายออฟโรดสีดำ พร้อมสัญลักษณ์ที่แก้มยางสีขาว ด้านท้ายมีการเปลี่ยนรายละเอียดโคมไฟท้ายใหม่ เปลี่ยนมาใช้แบบ LED พร้อมเส้นแบบ Light Guiding นอกจากนี้ยังได้ออกแบบสปอร์ตทรงใหม่ให้เข้ากับตัวรถมากขึ้น อีกทั้งยังติดตั้งไฟส่องสว่างด้านท้าย 3 จุด และฝากระบะท้ายตกแต่งพิเศษ พร้อมระบบผ่อนแรงที่สงวนไว้ให้รุ่น Rocco
เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ รหัส 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร 2,755 ซีซี. VN-Turbo กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ISUZU V-Cross
ISUZU D-MAX V-Cross เดิมๆดูสวยลงตัว ตั้งแต่กระจังหน้าที่ดูดุดัน ตั้งแต่ไฟหน้า Projector Bi-LED ปรับความสูง-ต่ำของไฟหน้าแบบ 4 ระดับ พร้อม Multifunctional Daylight รูปตัว V ในโคมเดียวกัน กันชนหน้าขนาดใหญ่ทรงขึ้นรูปสปอร์ตพร้อม ช่องระบายอากาศขนาดใหญ่เพิ่มประสิทธิภาพระบายอากาศได้ดีติดตั้งไฟเลี้ยวและไฟตัดหมอก LED พร้อมเซ็นแซอร์กะระยะการจอดรถ 4 จุด เพื่อความปลอดภัย ภายในห้องโดยสารด้วยกระจกหน้ารถแบบ IR Cut กรองรังสีอินฟราเรด ป้องกันรังสี UVA และ UVB
และสำหรับ ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์ วี-ครอส 4x4 ภายในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ พิเศษด้วยการตกแต่แบบพรีเมี่ยมสปอร์ตออฟโรดสีส้ม Valencia Topaz ดุดันกับชุดแต่งภายนอกรอบคัน ด้วยชุดเสริมกันชนหน้า ชุดเสริมกระจังหน้าพร้อมไฟสปอตไลท์แบบ LED จาก ARB ลุยได้เต็มที่กับชุดโช้กอัพและสปริงจาก Old Man Emu รุ่น BP-51 ล้อ Fuel รุ่น Sledge ขนาด 9x20 นิ้ว ยาง BF Goodrich KO2 รุ่น A/T ขนาด 285/55R20 เสริมการใช้งานด้วยชุดอุปกรณ์กล่องเอนกประสงค์หลังรถที่เพิ่มไลฟ์สไตล์การใช้รถให้หลากหลายจาก Decked USA พร้อมรถ ATV All-Terrain-Vehicle
สำหรับ รถทั้งหมดนี้จัดแสดงภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 ระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม – 26 กรกฎาคม 2563 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี ยังพอมีเวลาในการรับชมรถที่จัดแสดงภายในงาน
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น