ผ่านวิกฤติมาอย่างหนักหน่วงไม่แพ้ใครสำหรับรอยัล เอนฟิลด์ แต่ยังคงสร้างยอดขายในไทยได้เป็นดี หลังจบงาน มอเตอร์โชว์ ที่ผ่านมา สร้างยอดขายได้มากกว่า 300 คัน และยังเดินหน้าขยายสโตร์เพิ่มขึ้นให้ครอบคลุมการบริการ พร้อมแผนดำเนินงานของโรงงานประกอบหรือ CKD ในประเทศไทย ปี 2564
วิมัล ซุมบ์ลี หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก รอยัล เอนฟิลด์ เปิดเผยว่า “รอยัล เอนฟิลด์เข้ามาในตลาดประเทศไทย ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2559 เราดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์หัวเมืองสำคัญ เพื่อเข้าถึงลูกค้าและเข้าใจวัฒนธรรมการขับขี่มอเตอร์ไซค์ในประเทศไทย สโตร์แห่งแรกของรอยัล เอนฟิลด์ ตั้งอยู่ที่ทองหล่อ และขณะนี้เรามีสโตร์ทั้งหมด 26 แห่ง และภายในสิ้นปีงบประมาณ 2563 เราจะมีสโตร์ทั้งหมด 36 แห่งในประเทศไทย”
“แบรนด์รอยัล เอนฟิลด์ ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีในตลาดประเทศไทย ในปีแรกยอดขายอยู่ที่ 889 คัน และในปีที่ 4 ยอดขายโตขึ้นเป็น 3,146 คัน ขณะนี้เรามีผู้ขับขี่ รอยัล เอนฟิลด์ กว่า 7,000 คัน ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย ทำให้สังคมนักขับขี่รอยัล เอนฟิลด์เติบโตอย่างต่อเนื่อง
รอยัล เอนฟิลด์ใช้ความพยายามในการสร้างแบรนด์ในทุกตลาด ใช้ความต่อเนื่องเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงง่ายและโดนใจกลุ่มชาวไทยยุคใหม่ จึงเป็นเหตุให้รอยัล เอนฟิลด์ให้ความสำคัญกับดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งเป็นอันดับแรก มีการนำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มการเข้าถึงและการรับรู้ถึงแบรนด์ เช่น เฟซบุ๊ก อิสตราแกรม ไลน์ หรือการนำเสนอบนเว็บไซต์หลัก มีการทำการโฆษณาแบรนด์และผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ โปรแกรมการดูแลหลังการขาย กิจกรรมการขับขี่รายสัปดาห์ รวมถึงการจัดฝึกอบรมการขับขี่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจและแฟนของแบรนด์ได้ทดสอบรถมอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์
มร.วิมัลกล่าวว่า “จากการระบาดของโรคโควิด-19 ตลาดรถสองล้อโดยรวมได้ลดลง 22% ในช่วงเดือนเมษายน – กรกฎาคม 2563 ตลาดได้เริ่มฟื้นตัวแบบเดือนต่อเดือนในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม เราคาดการณ์ว่าแนวโน้มจะดีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าและคาดว่าอุตสาหกรรมนี้จะมีปริมาณการขายใกล้เคียงกับผลดำเนินงานของปีที่แล้วด้วย
รอยัล เอนฟิลด์ มียอดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ในปี 2019 จำนวน 3,146 คัน ถือว่าเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มียอดขายที่ 1,487 คัน จากปีงบประมาณ 2018 – 2019 จนถึงปีงบประมาณ 2019 – 2020 เราเติบโตเพิ่มขึ้น 112% ในขณะที่รอยัล เอนฟิลด์มียอดจอง 321 คัน ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 5.5% ในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง (เครื่องยนต์ 250-750 ซีซี)
ปีนี้ถือเป็นปีที่คาดไม่ถึง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม เรากำลังมุ่งเน้นไปที่การขยายเครือข่าย และการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของเราอย่างต่อเนื่องผ่านการส่งเสริมการตลาดด้วยการประชาสัมพันธ์ผ่านทั้งแบบ Above The Line และ Below the Line ตลอดจนมุ่งเสริมสร้างการบริการหลังการขายและกระบวนการทางธุรกิจของเราให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ ในงานมอเตอร์โชว์ ที่ผ่านมาเราได้เปิดตัวรอยัล เอนฟิลด์ คลาสสิก 500 สเตลท์ แบล็ค สีใหม่ มาตรฐานไอเสียยูโร 4 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกัน สำหรับรุ่นที่ได้รับความนิยมที่มีการจองมาที่สุด คือรุ่น อินเตอร์เซปเตอร์ รองลงมาคือรุ่นคลาสสิก และหิมาลายัน
สำหรับกลยุทธ์ในการทำตลาดในประเทศไทยในปีต่อ ๆ ไป เรามีเป้าหมายหลักคือ การขยายตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง และเราก็เริ่มเห็นความสนใจของลูกค้าที่ต้องการจะอัพเกรดมาใช้มอเตอร์ไซค์ของเรา ในขณะเดียวกันรอยัล เอนฟิลด์ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักขี่มอเตอร์ไซค์ที่นิยมเครื่องยนต์ซีซีสูง สำหรับแผนดำเนินงานของโรงงานประกอบหรือ CKD ในประเทศไทย ของเราจะเริ่มตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณหน้า คือระหว่างเดือนเมษายน - มิถุนายน ปี 2564 แน่นอนว่าเราเล็งเห็นว่าประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการมีส่วนร่วมในความสำเร็จระดับภูมิภาคอาเซียน” มร.วิมัลกล่าว
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น