รีวิว Honda CBR500R รถสปอร์ต ที่เหมาะเป็น BigBike คันแรก Share this
รีวิวมอเตอร์ไซค์
โหมดการอ่าน

รีวิว Honda CBR500R รถสปอร์ต ที่เหมาะเป็น BigBike คันแรก

Paknam536
โดย Paknam536
โพสต์เมื่อ 17 September 2563

เมื่อพูดถึง Honda CBR500R หลายๆ คนอาจจะเลือกให้มันเป็นรถบิ๊กไบค์ขนาดเริ่มต้น ที่มีราคาค่าตัวไม่สูงมากนัก กับเครื่องยนต์ 2 สูบ 471 ซีซี แรงกำลังดีสำหรับชาวบิ๊กไบค์มือใหม่


Honda CBR500R บิ๊กไบค์รุ่นเริ่มต้น

Honda CBR500R รถสปอร์ตไบค์ขนาดกลางจากฮอนด้า อันมีฐานการผลิตอยู่ในประเทศไทยของเรานี่เอง รถรุ่นนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของพละกำลังที่แรงกำลังดี ควบคุมรถได้ง่าย และที่สำคัญคือ ตัวเครื่องยนต์บล็อกนี้ เมื่อใช้งานบนท้องถนนทั่วไป มันให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำมากๆ แทบจะไม่แตกต่างกับรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์คลาส 300 ซีซีเลยทีเดียว แถมมีความทนทานสูง และค่าบำรุงรักษาที่ต่ำมากๆ ประกอบกับด้วยความเป็นรถสัญชาติไทยแท้ ทำให้อะไหล่ของรถรุ่นนี้หลายชิ้น ใช้ร่วมกับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นอื่นๆ ของฮอนด้าได้หลายส่วน ทำให้ค่าบำรุงรักษา และค่าอะไหล่ค่อนข้างต่ำมาก

 

 

Honda CBR500R โมเดลปัจจุบัน ได้มีการอัพเกรดเครื่องยนต์ใหม่ ให้เหนือกว่ารุ่นก่อนๆ เป็นอย่างมากด้วยการติดตั้งสลิปเปอร์คลัทช์ ทำให้การใช้คลัทช์นุ่มนวลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และแก้อาการล้อหลังล็อก เมื่อผู้ขับขี่รวบเกียร์ลงอย่างรุนแรง ทำให้รถคันนี้ควบคุมได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ขี่ง่ายกว่าเดิม และปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งยังให้หน้าจอเรือนไมล์แบบใหม่ ที่ดูได้ง่ายกว่าเดิม พร้อมไฟบอกเกียร์

และยังมีระบบเตือนการเบรคฉุกเฉิน Emergency Stop Signal ให้รถคันหลังได้ทราบด้วยว่าเราเบรคด้วยความรุนแรง โดยเมื่อผู้ขับขี่เบรคด้วยความรุนแรง ระบบจะเปิดไฟฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ เพื่อให้รถคันหลังทราบทันที

 

Honda CBR500R x กี้เก้า

 

Honda CBR500R โมเดลปัจจุบัน ใช้เครื่องยนต์รหัส PC62E แบบ 2 สูบเรียง 4 จังหวะ 4 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ มอบพละกำลังสูงสุดที่ 47 แรงม้า ที่ 8,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 43 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที โดยรายละเอียดเชิงเทคนิคของรถ เป็นดังนี้

ข้อมูลทางเทคนิค CBR500R

ประเภท 2 สูบเรียง DOHC 4 จังหวะ 4 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ปริมาตรกระบอกสูบ 471 ซีซี
พละกำลังสูงสุด 47 แรงม้า ที่ 8,600 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 43 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 28 กม./ลิตร

 

ตัวรถ CBR650R

เฟรม ไดม่อน สตีล
โช๊คหน้า โช๊คอัพเทเลสโกปิค ขนาดแกน 41 มม.
โช๊คหลัง โช๊คอัพสปริงเดี่ยว พร้อมปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ
เบรคหน้า ดิสเบรคเดี่ยว ขนาด 320 มม. พร้อมปั้มเบรค 2 พอต ABS
เบรคหลัง ดิสเบรคเดี่ยว ขนาด 240 มม. พร้อมปั้มเบรค 1 พอต ABS
ยางหน้า 120/70 ZR17
ยางหลัง 160/60 ZR17

 

มิติรถ

ขนาด ยาว x กว้าง x สูง (มม.) 2,080 x 755 x 1,145
ความสูงเบาะ 785 มม.
ระยะฐานล้อ 1,410 มม.
ระยะห่างจากพื้นถึงเครื่อง 130 มม.
น้ำหนักตัวพร้อมใช้งาน 192 กก.
ความจุถังน้ำมัน 17.1 ลิตร

 

Honda Track Xperience

 

Honda Track Xperience เปิดประสบการสนามแข่ง MotoGP

สำหรับการทดสอบรถในครั้งนี้ ผมได้ทดสอบในกิจกรรม Honda Track Xperience เมื่อวันที่ 12- 13 กันยนยน 2563 ที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ อันเป็นสังเวียนหวดรถแข่ง MotoGP

โดยในกิจกรรมนี้ ทางฮอนด้าใจป๋า จัดให้เจ้าของรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ตระกูล CBR Series สามารถเข้าร่วมขับขี่ในกิจกรรมครั้งนี้ได้ทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่นเล็กสุดอย่าง CBR150R ไปจนถึงรุ่นสปอร์ตเรพลิก้าตัวจริงอย่าง CBR250RR และกองทัพรถบิ๊กไบค์ ก็เข้าร่วมกิจกรรมกันทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น CBR500R, CBR650R, CB650R และ CBR1000RR ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของกิจกรรมนี้ โดยมีรถเข้าร่วมขับขี่ในสนามมากกว่า 100 คันในวันเดียว

แต่ ทุกท่านไม่ต้องกังวลไป ทางฮอนด้าได้จัดระดับความเร็วของผู้ขับขี่ให้เป็น 4 ระดับ ไล่จากเร็วสุด ไปจนถึงมือใหม่ ให้ทุกท่านมั่นใจได้ว่า จะต้องได้รับประสบการณ์ขับขี่ดีๆ พร้อมความรู้และทักษะการขับขี่อย่างรวดเร็วและปลอดภัยไปด้วยพร้อมๆ กัน กับทีมงานครูฝึกระดับนักแข่งสังกัด AP Honda Racing Thailand ที่มาประกบสอนนักเรียนกันถึงบนรถมอเตอร์ไซค์เลยทีเดียวเชียวล่ะ

 

Honda CBR500R

 

Honda CBR500R เพราะความแรงไม่ใช่ทุกสิ่ง

กลับเข้าสู่เรื่องหลักของเรากับรถ Honda CBR500R บนสนามแข่ง MotoGP มันจะเป็นอย่างไร ผมขอแบ่งเป็นข้อๆ เพื่อให้ง่ายต่อการอ่าน และเริ่มไล่จากโค้ง 1 ถึงโค้ง 12

1. พละกำลัง Honda CBR500R เป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง รีดแรงม้าสูงสุดได้ 47 ม้า ความเร็วสูงสุดทำได้ที่ 188 กม./ชม. (กล่องตัด) สัมผัสที่ได้รับคือ ท่านสามารถรีดความเร็ว Top Speed ได้อยู่ 2 จุดหลักๆ ได้แก่ช่วงทางตรงจากโค้ง 1 ถึงโค้ง 3 และช่วงทางตรงจากโค้ง 3 ถึงโค้ง 5 ซึ่งความสนุกด้านความเร็วจะอยู่ตรงโค้ง 3 ที่ท่านสามารถล็อกคันเร่ง ทะยานเข้าโค้งด้วยความเร็วมากกว่า 170 กม./ชม. ได้แบบสบายๆ

แต่ เมื่อขับขี่บนสนามแข่งรถขนาดใหญ่แบบนี้ เรื่องพละกำลังอาจจะ "น้อย" ไปสักนิดหน่อย แต่ก็แก้ได้ด้วยการประคองความเร็วที่รีดออกมาได้ให้สูงไว้ตลอดเส้นทาง ซึ่งช่วยให้ท่านลดความคิดที่ต้องคอยพะวงเรื่องการใช้เบรค จุดเบรค ตำแหน่งเกียร์ ท่านสามารถวางเรื่องเหล่านั้นไว้ได้ เพราะกว่าที่ท่านจะปั้นความเร็วให้ได้ที่ต้องการ มันใช้ระยะทางมากพอสมควร ท่านควรรักษาความเร็วที่ถูกต้อง เข้าไลน์การขับขี่ที่ถูกต้องดีกว่าจะมาคอยพะวงเรื่องเบรค เรื่องเกียร์ เพราะรถคันนี้มันทำความเร็วได้ไม่ทะลุแทรคสนามช้างทุกจุดแน่นอน (โค้ง 3 กับโค้ง 12 ควรเบรคหน่อยก็ดีนะ)

 

Honda CBR500R Left corner

 

ข้อดีของการที่รถมีพละกำลังไม่สูงมากนัก นั่นคือท่านสามารถขับขี่มันได้ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานกว่า ใช้แรงน้อยกว่า เหนื่อยน้อยกว่า ใช้ความคิดน้อยกว่า สามารถฝึกฝนเรื่องไลน์การขับขี่ให้แม่นยำขึ้นได้ง่ายกว่าการขี่รถที่มีกำลังสูงๆ

เพราะรถที่มีกำลังสูงๆ หากท่านมาเร็ว ท่านต้องเบรคให้พอดี เพื่อเข้าไลน์ที่ถูกต้อง อีกทั้งรถแรงๆ มันจะมีแรง G ที่สูงกว่ารถที่มีพละกำลังน้อย ทำให้ท่านเหนื่อยจากการขับขี่ค่อนข้างมาก แต่ถ้าท่านใช้เพียง CBR500R ที่มีพละกำลังความแรงน้อยกว่ามาก ท่านจะสามารถโฟกัสไปกับการฝึกฝนทักษะการขับขี่ให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ลดความคิดที่จะต้องทำเรื่องอื่นๆ ไปได้เยอะ ส่งผลให้ท่านเพิ่มทักษะการขับขี่รถได้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อรู้สึกว่าทุกอย่างมันช้ากว่าที่เราทำได้ การอัพเกรดขึ้นไปใช้ CBR1000RR SP คือคำตอบ

และถ้าหากท่านคุ้นชินกับเจ้า 500R คันนี้แล้ว ท่านก็สามารถขี่ไล่แซงรถคลาสที่สูงกว่า ที่มีทักษะการขับขี่น้อยกว่าผู้ขับขี่ที่เชี่ยวชาญรถ 500R คันนี้ได้อย่างสบายๆ เมื่อมันไม่ค่อยพอมือ ค่อยอัพกระโดดขึ้นคลาส 1000 ซีซี รับรองว่าเฟี้ยวฟ้าว

 

 

2. การควบคุม Honda CBR500R คันนี้ รถที่ผมทดสอบเป็นรถเดิมๆ จากโรงงาน มีทั้งรุ่นที่เปลี่ยนใส่ยางสลิค Pirelli Diablo Superbike และรุ่นที่ใส่ยางเดิมโรงงาน ฟิลลิ่งของการยึดเกาะถนนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง รถที่ใส่ยางสนาม ย่อมให้ฟิลลิ่งการขับขี่ที่เหนือกว่ายางเดิมโรงงาน แต่ถ้าถามว่ายางเดิมโรงงาน ใช้ได้ไหม?

ตอบได้เลยว่า "ใช้ได้เลย สบายมากๆ"

สิ่งที่ชอบสำหรับรถคันนี้คือเรื่องของการควบคุม มันเป็นรถที่มีขนาดตัวไม่ได้ใหญ่มากจนเกินไปนัก ตัวผมสูงเพียง 168 ซม. สามารถคร่อมรถคันนี้ ควบคุมมันได้ตลอดรอดฝั่งอย่างสบายๆ ตำแหน่งท่านั่งการขับขี่ของรถ ถูกออกแบบมาให้ควบคุมบนสนามแข่งได้ค่อนข้างกระชับ

 

 

แต่สิ่งที่ขัดใจหลักๆ มี 2 จุด ได้แก่ แฮนด์บาร์ ที่สูงไปสักหน่อย และพักเท้า ที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้การพับรถด้วยองศามากๆ จะเกิดอาการ "พักเท้าครูดพื้น" ซึ่งแก้ได้ด้วยการใส่เกียร์โยง และแฮนด์บาร์ที่สูง ก็สามารถแก้ได้ด้วยการใส่แฮนหมอบซะ สิ้นเรื่องทั้งหมด พร้อมแข่งได้เลย

แต่...ถ้าท่านได้คร่อม Honda CBR250RR ท่านจะติดใจมันมากกว่ารถคันนี้จะบอกให้ เพราะลักษณะการออกแบบท่านั่งการขับขี่ของตัว 250RR ถูกออกแบบให้เป็น Sport Replica พร้อมลงสนามอยู่แล้ว เด่นกว่า 500R อย่างชัดเจนก็เรื่องของถังน้ำมันที่ตัว 250RR จะกระชับเข้ากับสรีระมากกว่า ในเวลาที่เราแบนรถเข้าโค้งด้วยองศามากๆ

แต่...(แต่อะไรเยอะแยะ) Honda CBR500R หากเอามาใช้ในชีวิตประจำวันด้วย ท่านแฮปปี้กว่าแน่นอน เพราะรถมันนั่งขับได้สบายกว่ามากโขเลยทีเดียวเชียว ทว่า หากท่านจะซื้อมาลงสนามอย่างเดียว ถนนไม่ขี่ เอามอไซขึ้นสไลด์ไปขี่สนามอย่างเดียวจริงๆ ผมแนะนำว่า Honda CBR250RR มันยอดเยี่ยมกว่ามากครับ

สรุป ถ้าจะขี่สนามกรุบกริบ ขี่ถนนบ่อยกว่า ยังไง CBR500R ตอบโจทย์กว่าแน่นอน

 

 

3. ระบบเบรค ระบบเบรคเดิมๆ ของรถคันนี้ บอกเลยว่าเหลือเฝือ ท่านสามารถกดเบรคจากความเร็วราวๆ 170 กม./ชม. ที่ระหว่างป้าย 150-100 เมตร ก่อนเข้าโค้งได้อย่างสบายๆ ตัวระบบเบรคเดิมๆ จัดว่าให้มาได้ดีเลยทีเดียวเชียว อันนี้สอบผ่าน

 

 

4. ช่วงล่าง ช่วงล่างเดิมๆ ของตัวรถ "ควรปรับให้แข็งสุด" เพราะของเดิมนั้น เน้นไปที่การขับขี่บนท้องถนนมากกว่า มันมีความนุ่มนวลที่ค่อนข้างมาก ก่อนขี่ในสนาม ควรปรับให้แข็งสุดไว้ก่อน จึงจะขับขี่ได้อย่างสนุก แต่ตัวรถก็จะมีอาการออกมาให้เห็นบ้างนิดหน่อย ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ไม่ยากนัก

 

 

Honda CBR500R เหมาะกับใครบ้าง

สรุป หากท่านกำลังมองหารถบิ๊กไบค์สักคัน สำหรับฝึกทักษะการขับขี่ให้กับตนเอง ทั้งเรื่องการใช้รถบิ๊กไบค์บนท้องถนน ยันไปถึงสนามแข่ง Honda CBR500R ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก ด้วยพละกำลังที่มีมาให้กำลังดี ไม่น้อยไป ไม่มากไป รถที่ควบคุมได้ง่าย อีกทั้งมีความทนทานสูงมาก บำรุงรักษาง่าย อะไหล่ไม่แพง และมีราคาค่าตัวที่ไม่สูงมากนัก ผมจึงขอแนะนำได้อย่างเต็มอกว่ารถคันนี้ เป็นรถบิ๊กไบค์ที่เหมาะสำหรับมือใหม่เป็นอย่างยิ่ง

แต่ สำหรับมือเก๋า ที่คุ้นชินกับรถบิ๊กไบค์นั้น อาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นัก เพราะหากท่านคุ้นชินกับความเร็วอยู่แล้ว พละกำลังที่รถคันนี้มอบให้มันจะรู้สึกว่าน้อยไปเลยในทันที แต่ด้วยกำลังที่มันให้มาแม้จะดูน้อย แต่ความเร็วที่มันทำได้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร แต่ก็จะใช้เวลาเรียกความเร็วนั้นสักหน่อย ก็เท่านั้นเอง

หรือถ้าหากอยากได้ที่เร็วทันใจด้วย Honda CBR650R ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย หรือถ้างบถึงหน่อย อยากเล่นตัวจบ Honda CBR1000RR SP คือคำตอบครับ

 

Honda CBR1000RR SP

 

สำหรับท่านที่สนใจ อยากขับขี่แบบนี้ กับกิจกรรม Honda Track Xperience ครั้งต่อไป จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 พฤศจิกายน 2563 ท่านที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่แฟนเพจ Facebook ของ Honda BigBike ครับ

รีวิว ยาง Pirelli Diablo SuperBike
รีวิว Honda CBR650R
รีวิว Honda CBR250RR

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ