Rolls-Royce Ghost 2020 ‘New Ghost’ ความสมบูรณ์แบบในความเรียบง่าย Share this
รถเปิดตัวใหม่
โหมดการอ่าน

Rolls-Royce Ghost 2020 ‘New Ghost’ ความสมบูรณ์แบบในความเรียบง่าย

วรัญญู ยอดพรหม
โพสต์เมื่อ 02 September 2563

         Rolls-Royce เปิดตัว New Ghost ที่รวมทุกความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงสุดเท่าที่เคยมีมา พัฒนาจากสถาปัตยกรรมอลูมิเนียมสเปซเฟรมที่แข็งแกร่ง ครั้งแรกของโลกกับระบบช่วงล่าง Planar เพิ่มความคล่องตัว และการขับขี่ที่นุ่มนวลดุจพรมวิเศษ มาพร้อม พละกำลัง 571 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตันเมตร แผงหน้าปัด Illuminated Fasciaพร้อมแผ่นป้ายชื่อ ‘Ghost’ ที่รายล้อมไปด้วยดาวกว่า 850 ดวง


Rolls-Royce Ghost 2020

 

    การออกแบบ Rolls-Royce Ghost โครงตัวถังที่โค้งดั่งคันธนูลงมาจรดกับไฟแบบเหลี่ยมซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรลส์-รอยซ์ ทำให้หน้ารถดูแข็งกร้าวแต่งดงาม นอกจากนี้ หน้ารถของ ‘นิว โกสต์’ ยังดูงดงามราวต้องมนต์ เป็นเพราะแสงไฟ LED 20 ดวงที่อยู่ซ่อนอยู่ตรงส่วนบนของกระจังหน้าช่วยส่องแสงให้รายละเอียดปรากฏชัด
    ด้วยจิตวิญญาณแห่งสุนทรียศาสตร์แบบ ‘โพสต์ ออปพิวเลนซ์’ ทีมวิศวกรของแบรนด์ได้ตบแต่งด้านหลังของแถบกระจังโลหะ เพื่อลดการสะท้อนแสง ทำให้เอฟเฟกต์อ่อนลง และได้แสงที่นุ่มนวลตามที่ต้องการ และนี่เป็นครั้งแรกที่สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี ไม่ได้ถูกล้อมรอบด้วยเส้นขอบฐาน ทำให้รูปปั้นปรากฏกายอย่างโดดเด่นบนฝากระโปรง ดุจยืนอยู่กลาง “ทะเลสาบ”

   เมื่อมองจากด้านข้างของตัวรถ จะเห็นลายเส้นเดี่ยวหนึ่งเส้นที่ลากยาวไปตามตัวรถเพื่อเน้นให้เห็นความยาว เส้นโค้ง “waft line” ด้านล่างถูกหยิบยืมมาจากการออกแบบเรือ และใช้การสะท้อนแสงเพื่อทำให้พื้นผิวดูสว่างขึ้น
สร้างความรู้สึกที่บริสุทธิ์และง่ายดายของการเคลื่อนไหว สำหรับการออกแบบกลาสเฮาส์ (glasshouse) ซึ่งหมายรวมถึงกระจกหน้า กระจกหลัง หน้าต่างรถ เสา และหลังคานั้น เจตนาให้มีความสมดุล ประตูทั้งส่วนของคนขับและผู้โดยสารด้านหลังจะได้รับสัดส่วนของหน้าต่างที่เท่ากัน


    แสดงให้เห็นว่า ‘นิว โกสต์’ นั้นต้องการให้เกิดความสมดุลทั้งในฐานะยนตรกรรมสำหรับให้พนักงานขับและยนตรกรรมที่เจ้าของขับเอง แนวหลังคาโค้งอย่างประณีตบ่งบอกถึงเจตจำนงอันทรงพลัง ส่วนท้ายรถสานต่อความรู้สึกของการเคลื่อนไหวนี้ และจบด้วยแนวเส้นที่ลาดลงในที่สุด รูปทรงของไฟท้ายที่แทบจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสได้กลายเป็นหลักของการออกแบบร่วมสมัยของโรลส์-รอยซ์ ซึ่งรูปทรงนี้ยังคงอยู่ แต่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยด้วยการเอียงมาข้างหน้าเล็กน้อยและเนื่องจากรอยต่อรอบไฟได้หายไป จึงทำให้ไฟท้ายดูเหมือนเป็นเกาะที่ได้รับการแต่งแต้มสีลอยเด่นอยู่บนผิวรถ

ภายใน

    การตกแต่งภายในยนตรกรรมหันมาใช้รูปแบบที่เรียบง่ายเช่นเดียวกับภายนอกตัวรถ รายละเอียดที่ยุ่งเหยิงและการตกแต่งแบบผิวเผินถูกตัดออก เน้นความเรียบง่าย และความสง่างาม ถือเป็นความพยายามที่ยากยิ่ง และต้องจัดหาวัสดุที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหนัง ไม้ และโลหะ ซึ่งไม่มีทางรอดพ้นสายตาของลูกค้าที่มีความรู้กลุ่มนี้ไปได้หากไม่ได้รับการตกแต่งให้สวยงาม


   ดังนั้นหนังสัตว์ครึ่งแผ่นทั้งหมด 20 ชิ้น ที่นำมาใช้ในการตกแต่งภายในของ ‘นิว โกสต์’จะถูกควบคุมคุณภาพอย่างละเอียดที่สุดเท่าที่ทำกันในอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นผิวหุ้มหนังทั้งหมด 338 จุด ไม่ว่าจะอยู่ในที่ลับสายตามากแค่ไหนจะมีคุณภาพดีที่สุด การทำเช่นนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถของแบรนด์เรื่องงานเครื่องหนัง
ส่วนงานปักที่ซับซ้อนและยุ่งเหยิงได้ถูกตัดออก แล้วแทนที่ด้วยฝีเย็บเส้นเดี่ยวบางๆแต่ยาวอย่างไม่น่าเชื่อและตรงอย่างสมบูรณ์แบบ

   ชุดไม้สำหรับ ‘นิว โกสต์’ เป็นแบบเปิดผิวไม้ที่เผยให้เห็นวัสดุอันเปลือยเปล่าอย่างไม่เหนียมอายแท้จริงแล้วมีการพัฒนาสีเคลือบ 2 สีใหม่โดยเฉพาะ สีแรกชื่อว่า Obsidian Ayousซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความหลากหลายของสีที่พบในหินลาวา สีที่สองชื่อ Dark Amberซึ่งมอบเสน่ห์เย้ายวนให้กับชุดห้องโดยสารด้วยการผสานแนวเส้นของอนุภาคอลูมิเนียมละเอียดเข้ากับไม้สีเข้ม การเคลือบหนังก็เช่นเดียวกันผิววัสดุจะถูกเผยให้เห็นได้ชัดเจน แผ่นหนังจะเป็นแผ่นยาวแผ่นเดียว และจะถูกแบ่งออกเป็น 2ส่วน ด้วยช่องระบายอากาศที่ทำจากโลหะแท้เพียงเท่านั้น และช่องระบายเหล่านี้เองเป็นจุดที่อากาศจากระบบฟอกอากาศ MEPS จะผ่านเข้ามา

   บีสโป๊กแผงหน้าปัดเรืองแสง ‘Illuminated Fascia’ทีมออกแบบ Bespoke Collective ที่ประกอบด้วยนักออกแบบ วิศวกรและช่างศิลป์ได้สร้างแผงหน้าปัดเรืองแสง ‘Illuminated Fascia’ สำหรับ ‘นิว โกสต์’ซึ่งเป็นนวัตกรรมชิ้นแรกของโลกที่สอดคล้องไปกับเพดานห้องโดยสาร ‘สตาร์ไลท์ เฮดไลเนอร์’ที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์เฉพาะตัวของโรลส์-รอยซ์ เช่นเดียวกับสัญลักษณ์สปิริต ออฟเอ็กสตาซี แผงกระจังหน้าทรงแพนธีออน และโมโนแกรมตัว “R” คู่หลังจากใช้เวลาพัฒนากว่า 10,000 ชั่วโมง ตลอด 2 ปี แผงหน้าปัด ‘Illuminated Fascia’ ที่มาพร้อมชื่อยนตรกรรมโกสต์แบบเรืองแสง รายล้อมด้วยดาวมากกว่า 850 ดวงก็ถูกนำมาประดับไว้ภายในห้องโดยสารของ ‘นิว โกสต์’
กลุ่มดาวและข้อความบริเวณแผงหน้าปัดจะถูกซ่อนจนแทบมองไม่เห็นเมื่อเครื่องยนต์ดับอยู่


เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการออกแบบ ‘โพสต์ ออฟพิวเลนซ์’ ของ ‘นิว โกสต์’ ทีมออกแบบBespoke Collective เลือกที่จะไม่ใช้หน้าจอแบบปกติเพื่อสร้างเอฟเฟกต์ที่น่าหลงใหลนี้ในทางกลับกันพวกเขาสร้างนวัตกรรมขึ้นใหม่อันเป็นแก่นแท้ของความหรูหราและซับซ้อนอย่างแท้จริง การเรืองแสงเป็นผลมาจากการติดไฟ LED 152ดวงไว้ทั้งด้านบนและด้านล่างของแผงหน้าปัดสีที่นำมาใช้ได้รับการเลือกอย่างพิถีพิถันให้เข้ากับนาฬิกาของห้องโดยสารและไฟที่หน้าปัดบอกข้อมูลการขับขี่ และเพื่อให้แน่ใจว่าข้อความ ’Ghost’ จะสว่างสม่ำเสมอเท่ากันหมด มีการสลักจุดกว่า
90,000 จุดลงบนพื้นผิวของเส้นนำแสงความหนา 2 มิลลิเมตรเพื่อช่วยให้แสงกระจายตัวได้ทั่วถึงกันพร้อมกับสร้างเอฟเฟกต์ที่ระยิบระยับเมื่อทอดสายตาผ่านแผงหน้าปัดเข้ากับประกายที่นุ่มนวลของเพดานสตาร์ไลท์ เฮดไลเนอร์
งานวิศวกรรมขนานใหญ่ถูกนำมาใช้เพื่อให้แน่ใจว่าแผงหน้าปัด ‘Illuminated Fascia’จะไม่มีทางมองเห็นได้เลยในขณะที่ยังไม่ได้เดินเครื่องยนต์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ทีมวิศวกรได้ใช้วัสดุคอมโพสิต 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นพื้นผิวสีดำ Piano Blackซึ่งฉลุด้วยเลเซอร์เพื่อลบสีดำออกบางส่วนและปล่อยให้แสงส่องผ่านคำว่า ‘Ghost’ และกลุ่มดาว
พื้นผิวนี้ถูกทับด้วยชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นแลคเกอร์สีเข้มเข้ามาช่วยซ่อนตัวอักษรเอาไว้เมื่อยังไม่ติดเครื่องยนต์
ชั้นสุดท้ายถูกทาทับด้วยแลคเกอร์ในเฉดสีที่กลมกลืน และขัดด้วยมือเพื่อให้ได้ผิวเคลือบหนา 0.5มิลลิเมตรที่มีความมันเงาเสมอกันและสอดคล้องกับการตกแต่งในส่วนอื่นของตัวรถที่เน้นบางจุดให้เด่นขึ้นด้วยเทคนิคไฮกลอส

ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร

New Ghost ติดตั้งระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร (Micro-Environment Purification System หรือ MEPS) เทคโนโลยีการกรองอากาศที่มีอยู่ของแบรนด์ได้ถูกพัฒนาเพิ่มเติมด้วยฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ที่ดีขึ้นแบบครบวงจร เซนเซอร์ตรวจจับสิ่งปนเปื้อนที่มีความไวสูงถูกนำมาใช้วัดคุณภาพอากาศโดยรอบและจะเปลี่ยนโหมดการทำงานโดยอัตโนมัติจากโหมดรับอากาศภายนอกเป็นโหมดหมุนเวียนอากาศภายใน (Recirculation Mode) หากพบว่าระดับของการปนเปื้อนในอากาศสูงเกินไป ระบบนี้จะผันอากาศทั้งหมดในห้องโดยสารไปที่ตัวกรองนาโนฟลีซ ซึ่งสามารถกำจัดสิ่งปนเปื้อนอนุภาคขนาดเล็กพิเศษออกจากห้องโดยสารของ Rolls-Royce ได้เกือบทั้งหมด ภายในเวลาไม่ถึง 2 นาที

New Ghost มีความสมบูรณ์แบบในความเรียบง่าย แต่การสร้างสภาพแวดล้อมในห้องโดยสารที่บริสุทธิ์และปลอดสารพิษนี้เป็นหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ อันที่จริง New Ghost เป็นรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่สุดที่ Rolls-Royce เคยผลิตมา ได้แก่ ไฟหน้า LED และเลเซอร์ที่มีระยะส่องสว่างไกลกว่า 600 เมตร ระบบเสริมทัศนวิสัย รวมถึงระบบแจ้งเตือนให้ระวังสัตว์ป่า และคนเดินเท้าในเวลากลางวัน และกลางคืน, ระบบกระตุ้นผู้ขับ (Alertness Assistant), ระบบกล้อง 4 ตัวพร้อมมุมมองแบบพาโนรามา มุมมองแบบรอบตัวรถและมุมมองแบบเฮลิคอปเตอร์, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบเตือนก่อนการชน, ระบบเตือนการจราจรด้านหลังขณะถอยรถ, ระบบเตือนเมื่อออก และเปลี่ยนเลน, จอแสดงผลบนหน้ากระจก (Head-up Display) ความละเอียดสูง 7×3 นิ้วที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์, ไว-ไฟ ฮอตสปอต, ระบบจอดด้วยตนเอง และระบบนำทางและความบันเทิงล่าสุด

ประตูเปิดง่ายขึ้น Rolls-Royce 

ลูกค้าของ Rolls-Royce ชอบประตูที่ปิดเองได้ตั้งแต่ Goodwood Phantom รุ่นแรกที่ควบคุมโดยปุ่มบนแผงหน้าปัด และบนเสาซี (C-Pillar) สำหรับรถยนต์ที่มีประตูท้าย นวัตกรรมนี้ได้รับการกล่าวถึงอย่างมากในหมู่ลูกค้า สำหรับ New Ghost วิศวกรของแบรนด์เลือกที่จะพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นจุดเด่นนี้ให้ก้าวหน้าขึ้นอีก และเป็นครั้งแรกที่ผู้ใช้งานสามารถเปิดประตูได้โดยมีระบบไฟฟ้าคอยช่วยเหลือ

ขั้นแรกในการเปิดประตูคือผู้โดยสารจะดึงที่จับด้านใน 1 ครั้ง จากนั้นปล่อยให้ที่จับกลับสู่ตำแหน่งเดิม ระหว่างนั้นระบบจะตรวจสอบอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อม แล้วให้ผู้โดยสารดึงด้ามประตูค้างไว้เพื่อให้ระบบไฟฟ้าเข้ามาเลี้ยงและประตูเริ่มเปิดออก เมื่อประตูเปิดกว้างพอแล้ว ให้หยุดดึงที่จับซึ่งเป็นการหยุดประตูไม่ให้เปิดกว้างมากกว่านั้น

เมื่อลงจากรถพวกเขาสามารถปิดประตูได้โดยอัตโนมัติโดยกดปุ่มที่มือจับประตูด้านนอก หากต้องการปิดประตูด้วยตนเองก็สามารถทำได้ด้วยการช่วยเหลือจากไฟฟ้าอีกเช่นเคย เซ็นเซอร์ตามแนวยาวและตามขวางในตัวรถ ตลอดจนเซ็นเซอร์ G-force ที่ติดอยู่ที่ประตูแต่ละบานจะช่วยให้การเปิด-ปิดประตูทำงานได้เร็วเท่ากัน ไม่ว่ารถจะจอดอยู่บนเนินหรือมุมถนนในซอยแคบก็ตาม

เครื่องยนต์ Rolls-Royce Ghost

   จากการศึกษาความต้องการของลูกค้า พบว่าลูกค้าต้องการแรงบิดที่ตอบสนองได้แทบจะในทันทีและการวิ่งที่เงียบสนิททำให้แบรนด์พัฒนาเครื่องยนต์เบนซิน V12 ทวินเทอร์โบ สูบ 6.75 ลิตร พละกำลัง 571 แรงม้า และแรงบิด 850 นิวตันเมตร ส่งตรงสู่ระบบขับเคลื่อนทุกล้อ และระบบบังคับเลี้ยวทุกล้อ สอดคล้องกับความคาดหวังของลูกค้า แรงบิดสูงสุดมีให้ตั้งแต่ 1600 รอบ/นาทีจนถึงเพียง 600 รอบ/นาที และเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติด้านเสียงที่โดดเด่นให้ดียิ่งขึ้น ได้มีการการปรับแต่งระบบท่อนำอากาศเพื่อลดเสียงเครื่องยนต์ภายในตัวรถ

ระบบช่วงล่าง Planar

ประสบการณ์ขับขี่แบบพรมวิเศษอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้พัฒนาไปอีกขั้น สำหรับ New Ghost ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมได้ออกแบบระบบช่วงล่างใหม่ทั้งหมด เพื่อมอบสิ่งที่เรียกว่าระบบช่วงล่าง Planar ระบบนี้ได้รับการตั้งชื่อตามแนวระนาบทางเรขาคณิตซึ่งเรียบ และราบเสมอกันตลอดแนวอย่างสมบูรณ์ ระบบนี้เป็นผลมาจากการทดสอบและพัฒนาร่วม 10 ปี เพื่อให้เกิดความรู้สึกเสมือนบินแม้จะอยู่บนพื้นดิน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในยานยนต์ใดๆ

ระบบช่วงล่างนี้อาศัยการพัฒนาทางวิศวกรรม ตลอดจนเทคโนโลยีการสแกนและซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อน โดยรวมเอาตัวซับแรงกระแทกปีกนกชิ้นบน (Upper Wishbone Damper) ตัวแรกของโลกไว้เหนือระบบกันสะเทือนล้อหน้า ทำให้การขับขี่มีความมั่นคง และง่ายดายยิ่งขึ้น โดยทำงานร่วมกับระบบกล้องสเตอริโอ Flagbearer ในการอ่านสภาพเส้นทางข้างหน้า เพื่อเตรียมระบบช่วงล่างให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงของพื้นผิวถนน ระบบสัญญาณดาวเทียมของแบรนด์ (Satellite Aided Transmission) เทคโนโลยีเหล่านี้ประสานงานเป็นหนึ่งเดียวกันผ่านระบบซอฟต์แวร์ Planar ที่ออกแบบมาเฉพาะทำให้ New Ghost สามารถคาดการณ์และตอบสนองได้ดี แม้จะเผชิญกับพื้นผิวถนนที่โหดร้ายมากที่สุดก็ตาม

ในส่วนของ Upper Wishbone Damper เพียงจุดเดียวต้องใช้เวลาในการทดสอบบนถนนจริง และซอฟต์แวร์ถึง 5 ปี เทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะสำหรับ Rolls-Royce ถือเป็นการต่อยอดระบบช่วงล่างที่นุ่มนวลดุจพรมวิเศษแบบปีกนกสองชั้น (Double-wishbone Magic Carpet Ride) ของแบรนด์ จิตวิญญาณของเซอร์ Henry Royce ผู้ก่อตั้งแบรนด์คือการ “ดึงเอาด้านที่ดีที่สุดของสิ่งที่มีอยู่ออกมา แล้วทำให้ดียิ่งขึ้น” (Take the Best that Exists and Make it Better) และด้วยหลักการนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านแชสซีก็ได้พัฒนา Upper Wishbone Damper เพื่อปรับปรุงระบบรองกับการกระแทกแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการผันแปรอย่างต่อเนื่อง และชุดโช้คถุงลม (Air Strut) ที่ปรับระดับได้เอง ซึ่งไม่เคยถูกนำมาใช้ในรถยนต์ที่มีขายอยู่ในปัจจุบัน

ระบบเพลาหลังแบบไฟว์ลิงค์ และพวงมาลัยล้อหลังยังได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีช่วงล่างถุงลมตัวนี้ด้วย เพลาทั้งสองได้รับการจัดการผ่านซอฟต์แวร์ Planar ซึ่งควบคุมเทคโนโลยีแชสซีอื่นๆ ของ Ghost เช่นกันัจจุบันแปลงของพื้นผิวถนน และระบบขับเคลื่อนทุกล้อ, ระบบบังคับเลี้ยวทุกล้อ, ระบบควบคุมการทรงตัว และระบบเบรกแบบ Self-drying เพื่อให้แน่ใจว่าทุกส่วนจะสนองตอบต่อการเปลี่ยนแปลงของพื้นผิว และระดับการยึดเกาะอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในขณะที่ยังรักษาบุคลิกที่มีชีวิตชีวา และทรงพลังของรถไว้ได้อย่างครบถ้วน

ซอฟต์แวร์ Planar ยังจัดการข้อมูลที่จำเป็นต่อ Ghost ในการปรับตัวเชิงรุกให้พร้อมรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนผิวทางข้างหน้า เทคโนโลยีแรกคือระบบกล้อง Flagbearer ซึ่งชวนให้นึกถึงผู้ถือธงแดงนำหน้ายานยนต์ในอดีต เทคโนโลยีนี้ประกอบด้วยระบบกล้องสเตอริโอที่ผนึกอยู่กับกระจกหน้าเพื่อช่วยดูเส้นทางจราจรข้างหน้า และระบบช่วงล่างที่ปรับตัวเชิงรุกได้ถึง 100 กม. / ชม. เทคโนโลยีที่ 2 คือระบบสัญญาณดาวเทียมของแบรนด์ ซึ่งจะดึงข้อมูล GPS เพื่อเลือกเกียร์ที่เหมาะสมล่วงหน้าสำหรับการเข้าโค้ง ผลลัพธ์ที่ได้คือความสะดวกสบายในการขับขี่และการควบคุมในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับรถยนต์

สำหรับประเทศไทยต้องรอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการจากโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก ผู้นำเข้า-จำหน่ายรถยนต์ Rolls-Royce แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ภายใต้บริษัทมาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือเอ็มจีซี-เอเชีย โดยคาดว่าจะเป็นในช่วงต้นปี 2021

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ