รีวิว MINI JOHN COOPER WORKS 3-Dr HATCH สนุกทุกครั้งที่ได้ขับ

หนึ่งในรถที่มีประวัติ อันยาวนาน เป็นที่รู้จักกับ MINI และความพิเศษกับ MINI JOHN COOPER WORKS 3-Dr HATCH เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ มีความแรงถึง 231 แรงม้า

MINI JOHN COOPER WORKS 3-Dr HATCH

มินิ เป็นหนึ่งในรถที่ขับขี่สนุกสุด เพราะด้วยขนาดที่กระทัดรัด และยิ่งในรุ่นพิเศษอย่าง MINI JOHN COOPER WORKS … 2.0 ลิตร เทอร์โบ  231 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร  ช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่ง ระบบเบรกขนาดใหญ่ปรับแต่งใหม่โดยเฉพาะ พร้อมกับท่อไอเสียที่ให้เสียงคำราม ในโหมด สปอร์ต

และในครั้งนี้ทางทีมงานก็ได้มีโอกาสนำรถ MINI JOHN COOPER WORKS ตัวถังแบบ Hatchback นำมาทดสอบ ซึ่งในส่วนตัวผมมองว่า ตัวถังแบบ Hatchback นั้นคือ มินิ ที่มีความเป็นตัวตนมากที่สุดเพราะในช่วงหลังทาง มินิ ได้ออกแบบเพิ่มรุ่นขึ้นมา เช่น 5-DOOR HATCH , CLUBMAN, COUNTRYMAN  ซึ่งมองเป็นรถที่ตอบโจทย์ เพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้งานมากกว่า แต่ในแง่การขับขี่นั้น ตัวถังแบบ Hatchback มีการขับขี่ที่ดีที่สุด 

ภายนอก MINI JOHN COOPER WORKS

ถ้ามองรถวิ่งมาบนถนน คุณไม่ต้องบอกเลยว่ายี่ห้ออะไรวิ่งมา สำหรับ มินิ ด้วยตัวตนที่ชัดเจน ทรวดทรงรถที่ดูเป็นกล่องเหลี่ยมปุ๊กลุกน่ารักเหมือนเดิม ไฟฟ้าหน้าแบบ LED ไฟท้าย LED แบบใหม่ลายธงอังกฤษ สำหรับ รุ่นพิเศษอย่าง MINI JOHN COOPER WORKS นั้นก็จะมีโลโก้ตามจุดต่างๆ กระจังหน้า แก้มข้าง ด้านหลัง ล้อและยางที่ใช้ก็เป็นขนาด 205/40R18 ของ Pirelli รุ่น Cinturato P7  เบรกหน้า Brembo 4 Pot กับจานเบรก 330 มิลลิเมตร 

ภายใน MINI JOHN COOPER WORKS

MINI JOHN COOPER WORKS ยังคงเดิมในหลายจุด แต่สิ่งที่เด่นชัดสำหรับ มินิ คือปุ่มควบคุมต่างๆ นั้นจะออกแบบให้เหมือน สวิตช์คันโยกเล็กแบบเครื่องบินรบ ตั้งแต่ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์สีแดง สวิตช์สำหรับปรับเลือก Driving Mode ในการขับขี่ เกียร์ เป็นคันเกียร์แบบไฟฟ้าเหมือนพวก BMW เบาะนั่งเป็นแบบสปอร์ต ปรับได้ 6 ทิศทาง ใช้ผ้า Dinamica สลับกับหนังแท้

จอมอนิเตอร์และฟังก์ชั่นการใช้งาน จอภาพ HUD ตรงหน้าคนขับ รวมไปถึงการสั่งงานหน้าจอมอนิเตอร์ด้วยระบบสัมผัส หน้าปัดต่างๆดูทันสมัยในสไตล์ MINI เอาเข็มความเร็วและวัดรอบไว้ในตำแหน่งแบบรถปกติ  เรียบง่าย อ่านค่าได้เกือบจะง่าย  เครื่องเสียง Harman Kardon 12 ลำโพง 

เครื่องยนต์ MINI JOHN COOPER WORKS

ขุมพลังขับเคลื่อนของ JCW Hatch เป็นแบบ 4 สูบเทอร์โบชาร์จเจอร์ 16 วาล์ว รหัส B48A20B ความจุ 1,998 ซี.ซี. ควบคุมและจัดการเครื่องยนต์ด้วยสมองกล MEVD 17.2.3 ให้แรงม้าสูงสุด 231 แรงม้า ที่ 5,200-6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตรที่ 1,450-4,800 รอบต่อนาที

ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic Sport พร้อม Paddleshift ที่พวงมาลัย มี MINI Driving Modes ที่แบ่งออกเป็น Green (ECO)/MID และ Sport ส่วนช่วงล่างนั้น ด้านหน้าเป็นแบบ Single-joint strut (McPherson) และด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์ มาพร้อมโช้คอัพปรับความหนืดอัตโนมัติแปรผัน MINI Dynamic Damper ที่ยังสามารถล็อคให้นุ่มหรือแข็งได้ตาม Driving Mode ที่เลือก

ทดสอบ MINI JOHN COOPER WORKS

รับรถ MINI JOHN COOPER WORKS สิ่งแรกที่เห็นกับสีตัวรถที่เด่นชัดกับ สีเขียวแบบใหม่ “Rebel Green” (มีเฉพาะรุ่น JCW เท่านั้น) ภายในกับเบาะนั่นทรงสปอร์ต สีดำสลับแดง ปุ่มสตาร์ทสีแดง เหมือนเครื่องบินพร้อมรบตลอดเวลา เมื่อสตาร์ทพร้อมออกเสียงคำรามจากท่อไอเสียดังขึ้น ให้อารมณ์ดิบ ถ้าคุณคิดว่าเครื่องเล็กเสียงคำรามอาจจะไม่เท่าไหร่ คิดผิดครับ เพราะเสียงของ MINI JCW นั้นให้อารมณ์เสียงเหมือนเครื่องยนต์ 6 สูบ กันเลยทีเดียว

วิ่งอยู่ในเมือง รถมินิเป็นรถขนาดเล็ก เป็นเรื่องง่ายในการใช้งานในเมืองเป็นอย่างมาก ซอกแซกไปตามสภาพการจราจรได้เป็นอย่างดี มุมมองต่างๆก็ง่าย แต่ถ้าคุณชอบรถนุ่มสบายก็จะหาไม่ได้ใน มินิ เพราะเป็นที่รู้กันว่า มินิ นั้นจะมีอารมณ์ ฟีลลิ่งการขับขี่แบบ Go-Kart คือสิ่งที่ MINI ยึดมั่นมาโดยตลอด และยิ่งกับ JCW แล้วด้วยนั้น ยิ่งแข็งมากขึ้นแต่สิ่งที่ได้คือ การเกาะถนนที่เรียกว่า ตุ๊กแก กันเลย พวงมาลัยให้การตอบสนองที่ดีมาก ยิ่งรถมีความสั้น ยิ่งทำให้เลี้ยวได้เร็วขึ้นไปอีก 

ออกนอกเมือง กดคันเร่งแซง อืมมมมมมม รถเล็กเครื่องแรงมันดีอย่างนี้นี้เอง มันให้อารมณ์เดียวกับรถสปอร์ตคันใหญ่เลยทีเดียว และทุกครั้งที่เกียร์เปลี่ยนเสียงจากท่อไอเสีย ปุ้ง-ปั้ง ได้ทั้งอารมณ์ในการขับขี่ พร้อมกับความแรงนั้นหลังติดเบาะตลอดเวลา เข็มวัดความเร็วกวาดไปอย่างรวดเร็ว แป๊บเดียว 180 km เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะตัวรถนิ่งมากพวงมาลัยน้ำหนักเท่าเดิม เรียกว่าไม่รู้สึกอะไรนอกจากความเร็วที่เพิ่มขึ้น ถ้ากลับมาดูที่ สเปคเครื่องยนต์ จากโรงงาน สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 6.1 วินาที และเร่งจาก 80-120 กม./ชม. โดยใช้เวลาเพียง 5.6 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 246 กม./ชม. ก็เข้าใจได้ว่ารถในการตอบสนองที่ดีจริงๆ

และยิ่งในโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกใช้ เริ่มจากโหมด eco เป็นที่เข้าใจได้ว่าใช้ในเมืองเป็นหลัก เพราะจะช่วยในเรื่องการประหยัดน้ำมันแน่นอนรวมทั้ง คันเร่งที่ไม่ไว จนเกินไป เพราะถ้าปรับเปลี่ยนใช้ โหมด sport เมื่อไหร่ความบันเทิง มาเต็มตั้งแต่พวงมาลัยตอบสนองไวขึ้น ช่วงล่างที่แข็งขึ้น คันเร่งที่กดเบาๆ รถก็พร้อมที่จะทะยานออกตลอดเวลา รอบเครื่องที่สูงเพื่อความไวในการเรียกใช้พลัง และสิ่งสำคัญคือเสียงท่อที่คำรามตลอดเวลา 

หลายคนอาจจะสนใจในเรื่องความแรง รถแรงใครก็ทำได้แต่จะทำอย่างไรให้รถเกาะถนนนั้นยากกว่า แต่ MINI JCW ทำได้ ด้วย จุดศูนย์ถ่วงต่ำ, โอเวอร์แฮงค์สั้น, ฐานล้อกว้าง และโครงสร้างที่แข็งแกร่ง คือพื้นฐานอันยอดเยี่ยมที่มีติดตัว MINI Hatch มาตั้งแต่รุ่นมาตรฐาน ในเวอร์ชั่น JCW ถูกเติมแต่งให้เหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้นด้วยการลดน้ำหนัก พร้อมเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับช่วงล่างในเวลาเดียวกัน

แบริ่งที่ทำจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาถูกนำมาใช้กับเพลาขับหน้า ปีกนก และชุดรองรับเพลาขับผลิตจากโลหะที่มีความแข็งแกร่งสูงขึ้น เช่นเดียวกับช่วงล่างด้านหลังที่ได้รับการลดน้ำหนัก และเพิ่มความแข็งแกร่งเข้าไป ในขณะที่ช็อคอับ และสปริงก็ถูกปรับแต่งใหม่เพื่อรองรับการขับขี่แบบสปอร์ตโดยเฉพาะ จึงทำให้เหมือนคุณขับรถ Go-Kart ตลอดเวลา 

สรุปสำหรับ  MINI JOHN COOPER WORKS 3-Dr HATCH

ถ้าคุณอยากมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว MINI คือรถที่ชัดเจนในตัวตนมากที่สุด และยิ่งพิเศษขึ้นไปอีกกับ MINI JCW ที่สร้างจากโรงงาน ให้การขับขี่ที่สนุกตลอดเวลา

เมื่อคุณอยู่หลังพวงมาลัย อารมณ์เหมือนคุณ ขับขี่ Go-Kart อยู่ตลอด มันว่องไวและพร้อมที่จะทำให้คุณขับขี่ได้อย่างสนุกสนานตลอดเวลา แต่ถ้าคุณมองหารถที่มีขนาดเล็กพร้อมความสบายละก็ MINI ไม่ใช้คำตอบเพราะความกระด่างของรถจะทำให้คุณไม่สบายเท่าไหร่ แต่ถ้ารักในรถซิ่งขับสนุก คุณจะตกหลุมรัก MINI JCW อย่างถอนตัวไม่ขึ้น

MINI JOHN COOPER WORKS ราคาเท่าไหร่

MINI JOHN COOPER WORKS 3-Dr HATCH ราคา 3,418,000 บาท

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car