พาโก้ หรือ เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ เริ่มขยายธุรกิจ PACO Auto Hub เป็นการสร้างเครือข่าย ร้านอะไหล่แอร์รถยนต์ครบวงจร เผยรายได้ขายแอร์รถยนต์ ยังขยายตัวดี เติบโตสวนทางอุตสาหกรรมยานยนต์ซบเซา ฟันธงตลาดอะไหล่ทดแทนทั่วโลกปีหน้ากลับมาสดใส หลังโควิดคลี่คลาย
สมชาย เลิศขจรกิตติ ประธานเจ้าหน้าบริหาร เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PACOเปิดเผยว่า “PACO เป็น 1 ในผู้ผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ชั้นนำของไทยมากกว่า 30 ปี เราเป็นผู้นำในตลาดอะไหล่ทดแทน (อาฟเตอร์มาร์เก็ต) สำหรับรถยนต์หลากหลายประเภท ครอบคลุมทุกเซ็กม้นท์ มีสินค้ามากกว่า 2,600 รุ่น ครอบคลุม รุ่นรถยนต์ต่างๆทั่วโลก ซึ่งเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากบริษัทฯอื่น โดย PACO มีแผนกวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์แอร์รถยนต์รุ่นต่างๆ และสามารถพัฒนาคุณภาพสินค้าให้เป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติ ด้วยมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 และส่งออกผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายทั่วโลก ทั้งทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป อเมริกาใต้ เอเชียและออสเตรเลีย
“กลยุทธ์หลักของบริษัทฯคือ การผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ คือ คอยล์ร้อน (Condenser) และคอยล์เย็น (Evaporator) สำหรับรถที่มียอดจำหน่ายปานกลางถึงสูง ทั้งรถญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกัน และ วางตำแหน่งทางการตลาด เป็น High-Value Brand ที่มีคุณภาพทัดเทียม ในราคาที่คุ้มค่ากว่า จึงได้รับการตอบสนองที่ดีจากลูกค้าทั้งในต่างประเทศและในประเทศ โดยผลิตภัณฑ์ PACO ได้รับการยอมรับในคุณภาพมากกว่าสินค้าจากประเทศจีนซึ่งมีราคาถูกกว่า ทำให้ PACO สามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ และ บริษัทฯ เน้นการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) และ การดูแลหลังการขายอย่างมีประสิทธิภาพโดยในปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 694 ล้านบาท เติบโตจาก รายได้รวม 664 ล้านบาทในปี 2561 แบ่งเป็นรายได้จากการขายในประเทศ 43% และรายได้จากการส่งออก 57% ซึ่งรายได้รวมของ PACO เติบโตสวนทางกับอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยที่ถดถอยลงตามจำนวนการผลิตรถยนต์และยอดจำหน่ายรถใหม่ในประเทศที่ลดลง ตามสภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
ดังนั้นหากเปรียบเทียบธุรกิจของ PACO กับผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แบบ OEM ซึ่งอาจมีรายได้สูงกว่า แต่อาจได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมยานยนต์ซบเซาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาแล้ว ธุรกิจ Aftermarket ของ PACO จะเติบโตแบบมั่นคงในอัตราที่ไม่สูงมากคือ 5-10% ต่อปี แต่ข้อดีคือเราไม่ได้ผลกระทบจากปริมาณการผลิตรถใหม่ที่ลดลง ในทางตรงข้ามการที่ผู้บริโภคซื้อรถใหม่น้อยลง จะเพิ่มโอกาสการซื้ออะไหล่ทดแทนของทางบริษัทฯ”
นายธเนศ เลิศขจรกิตติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) (“PACO”) กล่าวเสริมว่า “ตลาดอาฟเตอร์มาร์เก็ต หรือ อะไหล่ทดแทน ของ PACO เป็นตลาดที่มีเสถียรภาพสูง เนื่องจากรถยนต์มีอายุการใช้งานที่ยาวประมาณ 15-20 ปี และ ผู้ใช้รถอายุเกิน 5 ปีค่อนข้างนิยมสินค้าทดแทน ที่มีคุณภาพทัดเทียม เนื่องจากมีความคุ้มค่าสูง ดังนั้นรายได้ของบริษัทฯจึงไม่ได้รับผลกระทบจากจำนวนการผลิตรถยนต์ที่ลดลงแต่อย่างใด สำหรับแผนการขยายธุรกิจในปีนี้ PACO ใช้กลยุทธ์การสร้างเครือข่าย ร้านอะไหล่แอร์รถยนต์ครบวงจร ภายใต้แบรนด์ PACO Auto Hub (พาโก้ ออโต้ ฮับ) เพื่อสร้างแบรนด์ PACO ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ในประเทศ เพื่อเพิ่มยอดขายในประเทศและเสริมความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจำหน่ายสินค้า และสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ แบรนด์ของคนไทย
โดยเราตั้งเป้าหมาย จะมีร้าน PACO Auto Hub จำนวน 200 สาขาภายในปีหน้า จากปัจจุบันได้เปิดไปแล้วกว่า 90 สาขา ในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล โดยในร้านจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ คอยล์ร้อนและคอยล์เย็นแบรนด์ PACO เป็นหลัก และมีสินค้าอื่นๆ อาทิเช่น ท่อน้ำยาแอร์ น้ำยาแอร์ เพื่อเป็นการให้บริการลุกค้าแบบครบวงจรในที่เดียว (One-Stop Solution) ”
PACO มีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท ก่อตั้งเมื่อประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา เป็น 1 ในผู้บุกเบิกการผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ของไทย และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ แอร์รถยนต์แบบครบวงจร ทั้ง คอยล์ร้อน และคอยล์เย็น สำหรับรถที่มียอดจำหน่ายปานกลางถึงสูง ทั้งรถญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกัน รวมกมากถึง 2,600 รุ่น โดยบริษัทฯ มี โรงงานผลิต 3 แห่งและ ศูนย์กระจายสินค้า 1 แห่ง โดยทั้งหมดอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 และได้จำหน่ายสินค้าภายในประเทศ และ ส่งออกไปทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป อเมริกาใต้ เอเชียและออสเตรเลีย
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น