สัญญาณไฟที่แสดงบนแผงหน้าปัด หลายคนคิดว่ารู้ความหมายดีแล้ว แต่นั่นอาจไม่ใช่ความหมายที่แท้จริง
บทความนี้เรามาดูกันครับ ว่าสัญญาณไฟเตือนบนแผงหน้าปัดมีความหมายว่าอะไร
ก่อนอื่น เรามาดูความหมายของสีกันก่อนครับ
- สัญลักษณ์ไฟเตือน สีแดง หมายถึง การเตือนการเกิดปัญหาของระบบหรืออุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายหากยังใช้งานอุปกรณ์นั้นอยู่ ควรหยุดรถเพื่อตรวจสอบปัญหาหรือนำรถเข้าศูนย์บริการ
- สัญลักษณ์ไฟเตือน สีเหลืองหรือสีส้ม หมายถึง การเตือนการเกิดปัญหาของระบบหรืออุปกรณ์ เตือนให้ระวังแต่ยังสามารถใช้งานได้อยู่ เมื่อมีเวลาควรนำรถเข้าไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการ
- สัญลักษณ์ไฟเตือน สีเขียวหรือสีฟ้า หมายถึง การเตือนสถานะการทำงานของระบบหรืออุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ สามารถใช้งานได้ปกติ
สัญญาณไฟเตือนระดับน้ำมัน
ก่อนออกเดินทางสิ่งสำคัญคือการเติมน้ำมันให้ดพียงพอต่อการใช้งาน เพื่อให้การเดินทางนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะในเส้นทางที่ไม่ชำนาญ ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง ในกรณีที่สัญญาณไฟเตือนระดับน้ำมันแสดงขึ้นบนแผงหน้าปัด สามารถขับต่อไปได้ในระยะ 20-30 กิโลเมตร ระหว่างนั้นควรหาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด
สัญญาณไฟเตือนระบบเบรก
หากสัญญาณไฟเตือนระบบเบรกแสดงขึ้นที่แผงหน้าปัด มีได้สองกรณี ในกรณีแรก คุณลืมปลดเบรกมือ ในกรณีที่สอง อาจเกิดจากการที่น้ำมันเบรกอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่าปกติแต่สำหรับบางรุ่นสัญญาณไฟเตือนเบรกกับสัญญาณไฟเตือนเบรกมืออยู่แยกกัน โดยระบบเบรกจะเป็นเครื่องหมายตกใจ ส่วนเบรกมือ จะเป็นตัว P สามารถเช็กได้จากคู่มือรถของคุณ
สัญญาณไฟเตือนความร้อนของเครื่องยนต์
สัญญาณไฟเตือนความร้อนของเครื่องยนต์มีทั้งหมดสองแบบ แบบแรกคือดิจิตอล และแบบที่สองแบบเข็ม หากชี้มาทาง H ( Hot = ร้อน ) เกินกว่าปกติ หมายความว่าอุณหภูมิของเครื่องยนต์สูง ให้จอดรถในที่ปลอดภัย เพื่อพักเครื่องยนต์ เปิดฝากระโปรงรถช่วยระบายความร้อน เมื่อความร้อนของเครื่องลดลง ให้เช็กระดับน้ำในหม้อน้ำ หรือควรหาศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุดเพราะหากฝืนใช้รถต่อ อาจทำให้อุณหภูมิในเครื่องยนต์ร้อนสูงเกินขีดจำกัด ซึ่งสร้างความเสียหายกับเครื่องยนต์อย่างหนัก ดังนั้นก่อนออกเดินทางไม่ควรละเลยการเช็กน้ำในหม้อน้ำเด็ดขาด
สัญญาณไฟเตือนแบตเตอรี่
หากมีสัญญาณไฟเตือนแบตเตอรี่แสดงขึ้นบนแผงหน้าปัด หลายคนมักเข้าใจว่าเป็นการเตือนแบตเตอรี่ใกล้หมดเพียงอย่างเดียว แต่ความหมายที่แท้จริง คือ เกิดจากระบบไฟฟ้ามีปัญหาหรือไดร์ชาร์จเกิดความผิดปกติ ซึ่งไดร์ชาร์จนี้จะส่งผลต่อระบบการทำงานของแบตเตอรี่โดยตรง ทั้งสายพานไดร์ชาร์จหย่อน ไปจนถึงไดร์ชาร์จเสื่อมสภาพ สิ่งที่ต้องทำคือ ปิดวิทยุ แอร์ และระบบไฟฟ้าต่างๆ เพื่อให้แบตเตอรี่ยังพอมีไฟฟ้าอยู่ และหาศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด
สัญญาณไฟเตือน ABS
ขณะเบรกกระทันหัน รถอาจเสียการทรงตัว ไถลไปตามพื้นถนน เพื่อลดโอกาสรถพลิกคว่ำหรือไถลตกข้างทาง ระบบ ABS จึงช่วยไม่ให้ล้อล็อก หากสัญญาณไฟเตือน ABS แสดงขึ้น หมายความว่าระบบมีปัญหา อาจไม่ทำงานขณะเกิดเหตุ ดังนั้นควรขับด้วยความระมัดระวัง และควรเอารถเข้าอู่หรือศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบการทำงานให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
สัญญาณไฟเตือนรูปกาน้ำมันเครื่อง
เมื่อสัญญาณไฟกาน้ำมันเครื่องเตือนจะต้องจอดรถดับเครื่องยนต์ทันที เพราะน้ำมันเครื่องไม่สามารถหมุนเวียนได้ในระบบ มีหลายสาเหตุ เบื้องต้นอาจตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง หากพบว่าระดับน้ำมันเครื่องต่ำกว่าปกติ ต้องเติมให้อยู่ในระดับปกติ และเช็กดูอีกครั้งว่าสัญญาณไฟยังคงขึ้นอยู่หรือไม่ หากยังขึ้นอยู่อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น มีการรั่วซึม ปั๊มน้ำมันเครื่องเสีย อ่างน้ำมันเครื่องทะลุ ซีลน้ำมันรั่ว หรือเซ็นเซอร์แรงดันเสีย ควรเอารถเข้าอู่หรือศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบการทำงาน
สัญญาณไฟเตือนถุงลมนิรภัย
ถุงลมนิรภัยเป็นสิ่งสำคัญมากในการใช้รถ ถุงลมนิรภัยควรพร้อมในการทำงานทุกเมื่อที่เกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร แต่ถ้าสัญญาณไฟเตือนนี้แสดงขึ้นควรนำรถไปตรวจเช็กให้เร็วที่สุด
สัญญาณไฟเตือนแต่ละตัว มีหน้าที่ที่สำคัญและทำงานแตกต่างกัน ทั้งหมดเตือนเพื่อให้เราทราบว่าการทำงานของเครื่องยนต์ผิดปกติ เมื่อรู้ความหมายแล้ว ควรเช็กรถก่อนออกเดินทางทุกครั้งเพื่อให้การเดินทางของคุณราบรื่น
ที่มา : idemitsu
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น