รีวิว Kawasaki Ninja ZX-25R สปอร์ต 4 สูบเสียงหวาน Redline 17,000 RPM

Kawasaki Ninja ZX-25R รถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Sport เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง หนึ่งเดียวในพิกัดเดียวกัน โดดเด่นด้วยออปชั่นจัดเต็มระดับเดียวกับ SuperBike รุ่นใหญ่ ในขนาดพิกัดเริ่มต้น

ZX-25R รถ 4 สูบที่เล็กที่สุด

รถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียงส่วนใหญ่ในตลาดประเทศไทย ล้วนแล้วแต่มีขนาดเครื่องยนต์เริ่มต้นที่ 600cc ขึ้นไปแทบจะทั้งสิ้น นั่นหมายความว่าตัวรถย่อมมากับพละกำลังความแรงที่ล้นเหลือเป็นเงาตามตัว และแน่นอนว่าผู้ขับขี่รถพิกัดนี้ควรจะมีทักษะการขับขี่มอเตอร์ไซค์ในระดับหนึ่งมาก่อนแล้ว

ทว่า การมาถึงของ Kawasaki Ninja ZX-25R รถมอเตอร์ไซค์ตระกูลสปอร์ตรหัส ZX ที่พร้อมสำหรับการขับขี่ในสนามแข่งขันด้วยพิกัดขนาดเครื่องยนต์ที่ 250 ซีซี กับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ดูออกจะเซอไพรซ์ใครหลายๆ คนที่เป็นคนรุ่นใหม่ เพราะอาจจะไม่ค่อยคุ้นชินกับจำนวนลูกสูบที่มากขนาดนี้ในพิกัดเครื่องยนต์ระดับนี้ เพราะรถมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่ในพิกัดเครื่องยนต์ราวๆ นี้ มักจะให้เครื่องยนต์ 1 - 2 สูบแทบจะทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Honda CBR250RR อันเป็นคู่แข่งโดยตรง, Yamaha YZF-R3, Honda CBR300R กระทั่ง Kawasaki Ninja 300 และ Kawasaki Ninja 400

Kawasaki Ninja ZX-25R หนึ่งในรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Ninja ZX ของ Kawasaki อันเป็นรหัสที่สื่อถึงความเป็น Sport Replica หรือรถสปอร์ตที่รองรับสำหรับการใช้งานในสนามแข่งนั่นเอง โดยรถในตระกูลนี้ประกอบด้วย Kawasaki Ninja ZX-6R, Kawasaki Ninja ZX-10R และ Kawasaki Ninja ZX-10RR นั่นเอง โดยเจ้า Kawasaki Ninja ZX-25R จัดเป็นรุ่นเล็กที่สุดในตระกูลนี้

ความแตกต่างของ Kawasaki Ninja ZX-25R ที่ไม่เหมือนกับรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Ninja อื่นๆ ในพิกัด 300-400cc นั้นคืองานดีไซน์ของตัวรถทั้งคันนั้นเอง ที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับการขับขี่ในสนามด้วย แตกต่างกับตระกูล Ninja ปกติ ที่จะออกแบบมาให้สำหรับขับขี่บนถนนมากกว่า

Kawasaki Ninja ZX-25R การออกแบบ

รูปลักษณ์ภายนอกของ Kawasaki Ninja ZX-25R โดดเด่นด้วยไฟหน้าคู่แบบ LED ทั้งไฟสูงและไฟต่ำ ดีไซน์ถอดแบบจากรุ่นพี่ในตระกูลมาโดยตรง และมาพร้อมกับช่องแรมแอร์ สำหรับรับอากาศส่งตรงเข้าสู่เครื่องยนต์บริเวณกึ่งกลางของหน้ารถ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดักอากาศและเสริมสมรรถนะให้กับเครื่องยนต์

ส่วนวินชิวของรถรุ่นนี้จะออกแนวสูงโด่งขึ้นไป รีดอากาศได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับกระจกมองข้างแบบพับได้

โช๊คอัพหัวกลับจาก Showa ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 37 มม. ส่วนระบบเบรกให้เป็นดิสก์เบรกเดี่ยว พร้อมปั้มเบรก 4 พอตสุดทรงพลัง และระบบ ABS ป้องกันล้อล็อก

ล้อหน้า เป็นล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว รัดยาง 110/70 R17

หน้าจอเรือนไมล์แบบผสมผสานระหว่างมาตรวัดรอบเครื่องยนต์แบบเข็มที่บอก Redline ไว้สูงถึง 17,000 รอบ/นาที พร้อมไฟชิพไลท์ เตือนการเปลี่ยนเกียร์ และหน้าจอดิจิตอล บกอข้อมูลการขับขี่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดความเร็ว, ตำแหน่งเกียร์, นาฬิกา, จับทริป, ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง, วัดอุณหภูมิหม้อน้ำ, วัดอุณหภูมิอากาศที่เข้า Ram air, อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, โหมดการขับขี่, ระดับการทำงานของ Traction Control และสถานะระบบ Quick Shifter

กุญแจรถเป็นกุญแจชิพ หายห่วงเรื่องโดนจารกรรม

แฮนด์ของตัวรถ เป็นแบบจับโช๊ค ลักษณะค่อนข้างหมอบต่ำ แต่ก็มีการยกขึ้นมาเล็กน้อยให้เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองด้วย จะไม่หมอบต่ำระดับ ZX-6R ที่หมอบจัดจนขี่ในเมืองได้ไม่สบายนัก เจ้า ZX-25R จะวางในตำแหน่งที่ขับขี่ได้สบายมากกว่า

คันเร่งของ ZX-25R เป็นคันเร่งไฟฟ้า ส่วนประกับแฮนด์ฝั่งขวามีเฉพาะปุ่ม Off/Run และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ส่วนก้านเบรกสามารถปรับระยะห่างได้ โดยสัมผัสของเบรกรุ่นนี้ให้มาค่อนข้างนุ่มนวลมากๆ

ประกับแฮนด์ฝั่งซ้าย ประกอบด้วยปุ่มควบคุมเมนูบนหน้าจอ, สวิชท์ควบคุมระบบไฟส่องสว่าง, ไฟเลี้ยว, แตร และไฟฉุกเฉิน ส่วนก้านคลัทช์ฝั่งซ้ายสามารถปรับระยะห่างได้

ถังน้ำมันของตัวรถเป็นดีไซน์ที่รองรับการใช้งานในสนามแข่ง โดดเด่นด้วยรูปทรงแบนราบ และมีที่เว้าคางมาให้ด้านบนถังน้ำมัน ความจุของถังอยู่ที่ 15 ลิตร กับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงจากที่เราทดสอบขับขี่มาอยู่ราวๆ 20 กม./ลิตร เท่ากับว่าน้ำมัน 1 ถังขับขี่ได้เกือบ 300 กม.

เบาะนั่ง 2 ตอน แยกส่วนของผู้ขับขี่และผู้ซ้อน โดยเบาะของผู้ขับขี่มีความสูงเพียง 785 มม. ทดสอบจากผมเองสูง 168 ซม. วางเท้าถึงพื้นแบบเต็มๆ ทั้ง 2 ข้าง

ไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์เดียวกับ ZX-10R

ไฮไลท์ใน Kawasaki Ninja ZX-25R

- เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 250cc
- รอบเครื่องสูงถึง 17,000 รอบ/นาที
- Quick Shifter Up / Down
- Traction Control ปรับระดับได้
- คันเร่งไฟฟ้า
- โช๊คอัพหัวกลับ
- ระบบเบรกอันทรงพลัง

โช๊คอัพด้านหลัง เป็นแบบสปริงเดี่ยวปรับพรีโหลดได้

สวิงอาร์มอลูมิเนียม สไตล์สปอร์ต ส่วนล้อหลังเป็นล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วเช่นกัน รัดยาง 150/60 R17

ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกเดี่ยว พร้อมปั้มเบรก 1 พอต

เครื่องยนต์ Kawasaki Ninja ZX-25R

เครื่องยนต์ของ Kawasaki Ninja ZX-25R ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 4 จังหวะ 4 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุกระบอกสูบรวมอยู่ที่ 249.8 cc มอบพละกำลังสูงสุด 51 แรงม้า ที่ 15,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 22.9 นิวตันเมตร ที่ 14,500 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยเกียร์แมนนวล 6 สปีด พร้อมสลิปเปอร์คลัทช์ และรถคันนี้มาพร้อมกับ Quick Shifter เปลี่ยนเกียร์ได้ ไม่ต้องกำคลัทช์ ทั้งเพิ่ม และลดเกียร์ ส่วนท่อไอเสีย ติดตั้งอยู่ที่ท้องรถ ตามสไตล์รถสปอร์ต

ข้อมูลทางเทคนิค Kawasaki Ninja ZX-25R

ตัวรถ

มิติรถ

ลองขับ Kawasaki Ninja ZX-25R

ในส่วนของการทดสอบขับขี่ Kawasaki Ninja ZX-25R สัมผัสแรกที่คร่อมรถนั่นคือตัวรถมีน้ำหนักเบามากๆ แม้ว่าจากสเป็กจะเขียนไว้ที่ 184 กก. ทว่าสัมผัสที่ได้รับกลับรู้สึกว่ารถคันนี้น่าจะหนักราวๆ 150-160 กก. เท่านั้นเอง ณ จุดนี้เป็นผลพวงมาจากเฟรมถักแบบใหม่ ที่มีน้ำหนักเบา ให้สมดุลที่ยอดเยี่ยมระหว่างความแข็งแรงและความสามารถในการให้ตัว เพื่อให้ Ninja ZX-25R มีศักยภาพการควบคุมที่คล่องแคล่ว ฉับไว สไตล์ซูเปอร์สปอร์ต ทำให้รถคันนี้สัมผัสได้ถึงความเบามากๆ นั่นเอง

จุดศูนย์ถ่วงของตัวรถที่วางอยู่บริเวณขาของผู้ขับพอดี ทำให้การพลิกรถเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงนั้นทำได้ง่ายมากๆ แทบจะไม่ต้องออกแรงใดๆ เพื่อพารถเข้าโค้งเลยแม้แต่น้อยนิด

พละกำลังจากเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 250 ซีซี เรียกได้ว่ามาแบบนุ่มๆ โดยพละกำลังของตัวรถจะเริ่มเบ่งบานมาที่รอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ 10,000 รอบขึ้นไป อัตราเร่งจึงจะเริ่มจี้ดจ้าดประดุจรถ BigBike ในคลาส 500 ซีซี ทว่าหากท่านต้องการความนุ่มนวลกับเสียงเครื่องยนต์อันไพเราะ แม้ว่าท่านจะขับขี่ในความเร็วระดับรถจ่ายกับข้าว ท่านควรใช้รอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ 4,000-10,000 รอบ กำลังขี่สบาย ควบคุมง่ายกำลังดี เปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลด้วย Quick Shifter

โดยเจ้า Quick Shifter ติดรถ Kawasaki Ninja ZX-25R บอกเลยว่า "ของ โครต ดี" เปลี่ยนเกียร์นุ่ม สับเกียร์ไว ไม่มีอาการหน่วงแม้แต่น้อยเหมือนในรถบิ๊กไบค์แบรนด์ยุโรปบางเจ้า บอกเลยว่าตัว Quick Shifter ทำมาได้ดีมากๆ เกินราคาค่าตัวรถไปไกล

แต่ถ้าหากต้องการความจี้ดจ้าด อยากเปลี่ยนจากรถจ่ายกับข้าว เปิดขึ้นรอบสูงตั้งแต่ 12,000 รอบขึ้นไป ท่านจะได้สัมผัสประดุจขี่ Bigbike เลยทีเดียว

ตำแหน่งท่านั่งของตัวรถ ถูกเซ็ตมาเป็นท่าสปอร์ตมากกว่าตระกูล Ninja ปกติ แต่จะไม่สปอร์ตจ๋าจนปวดหลังแบบ ZX-6R โดยตำแหน่งท่านั่งการขับขี่ของ ZX-25R เรียกได้ว่าเหมาะสมกับการขับขี่ในชีวิตประจำวันด้วย โดยไม่ได้ทำให้เกิดการปวดเมื่อยมากนัก จุดนี้นับว่าตอบโจทย์กับผู้ใช้งานทั่วไปค่อนข้างมาก

ช่วงล่างติดรถ จัดว่าดีงามสำหรับการขับขี่ในเมืองเป็นอย่างยิ่ง ช่วงล่างซับแรงกระแทกได้กำลังดี ไม่แข็งมากจนเกินไป จัดว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการใช้งานในเมือง และในสนามแข่งขัน แต่ถ้าจะนำไปขี่ทางไกล ก็ยังพอไหวอยู่ แต่ก็อย่ารูดเพลินนัก เพราะมันก็คือรถสปอร์ตอยู่ดี

ระบบเบรกติดรถ บอกเลยว่าดีงามมากๆ ครั้งแรกที่ผมรับรถออกมา ขับขี่ไปด้วยความเร็วราวๆ 100 กม./ชม. แล้วทดลองเบรกดู พบว่ารถให้ระยะเบรกที่สั้นและนุ่มนวลมากๆ ประดุจรถที่ใช้ดิสก์เบรกคู่ บอกเลยว่าชุดเบรกเดิมๆ ติดรถนั้นเพียงพอมากๆ สำหรับกำลังของตัวรถแล้ว แทบจะไม่จำเป็นต้องนำไปปรับแต่งเลย ยกเว้นเพื่อความสวยงาม หรือใช้งานอย่างหนักในสนามแข่งขัน

ZX-25R ขี่แล้วไม่เหนื่อย

ใครที่เคยขี่รถ SuperBike คลาส 1000cc มักจะคุ้นเคยกันดีกับความเหนื่อยล้าจากการขับขี่มอเตอร์ไซค์ รวมไปถึงความร้อนจากเครื่องยนต์อันมหาศาลจากเครื่องยนต์อันทรงพลัง ความเร็ว ความแรงของตัวรถที่สูง ทำให้ต้องใช้สติในการควบคุมมากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้เกิดความเครียดในการขับขี่ นำไปสู่ความเหนื่อยล้าจากการใช้งาน

ทว่าสิ่งเหล่านั้นกลับหาไม่ได้จากรถคันนี้ ด้วยความที่ตัวรถมีพิกัดเครื่องยนต์เพียง 250 cc เท่านั้น ทำให้ความร้อนของเครื่องยนต์, แรง G ที่เกิดขึ้นจากรถนั้น ค่อนข้างน้อยมากๆ ทำให้รถคันนี้เหมาะสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันด้วย เพราะด้วยการที่รถไม่กินแรงผู้ขับขี่นี่แหละ ทำให้เราอยากจะนำรถไปขี่ทุกวัน ไม่เหมือนกับรถที่มีพิกัดใหญ่ มีน้ำหนักมาก เพียงแค่คิดจะขี่ไปใกล้ๆ บางทีก็ท้อแล้ว และมองหาตัวเลือกอื่นแทนที่ไปได้ง่ายกว่า ทว่าความท้อเหล่านั้นท่านจะสัมผัสจาก Kawasaki Ninja ZX-25R ไม่ได้แน่ๆ

ตำแหน่งท่านั่งขับขี่ทั่วไป เห็นได้ว่าจะไม่ได้หมอบมากนักเหมือนกับรุ่นพี่ในตระกูลเดียวกัน

สรุป Kawasaki Ninja ZX-25R เหมาะกับ?

โดยสรุปแล้ว สำหรับ Kawasaki Ninja ZX-25R เป็นรถมอเตอร์ไซค์สายสปอร์ตที่ตอบโจทย์ไบเกอร์ที่ต้องการรถทรงสปอร์ตที่ให้เสียงเครื่องยนต์หวานเจี้ยบ ลากรอบสูงๆ โดยไม่ได้ต้องการความเร็วที่เว่อร์วังอะไรมากมาย เหมาะสำหรับการขับขี่ทั้งในเมือง และใช้ลงสนามแข่ง ไม่ว่าผู้ขับขี่จะเป็นมือใหม่กับมอเตอร์ไซค์มีคลัทช์ หรือมือเก่าที่เบื่อรถใหญ่แล้ว ก็ตอบโจทย์กับรถคันนี้ กับราคา 269,000 บาท และสิ่งที่ให้มาในรถคันนี้ บอกเลยว่าคุ้มค่าคุ้มราคาเป็นอย่างยิ่ง

อ่าน รีวิว Kawasaki Ninja 400
อ่าน เปิดสเป็ก Kawasaki Z H2
อ่าน รีวิว Honda CBR250RR

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car