จากสถานการณแพร่ระบาดของเชื่อโควิด-19 ระอลก 2 ทำให้ทั่วโลกอยู่ในสภาวะเฝ้าระวังและมีมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัดทั่วโลก ส่งผลให้การนำเข้า-ส่งออกต้องเฝ้าระวัง ไปจนถึงเดือนมีนาคม 2564
สำหรับ รายงานสถิติอุตสาหกรรมยานยนต์ ประจำเดือน พฤศจิกายน 2564 ศูนย์วิจัยอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ แจ้งว่า ปริมาณการผลิตรถยนต์รถยนต์ในเดือนพฤศจิกายน 2564 มีจำนวน 172,455 คัน สะสม 11 เดือน 1,284,202 คัน เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 19 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 เป็นต้นมา โดยเป็นผลจากการฟื้นตัวของตลาดในประเทศและตลาดส่งออก
ตลาดในประเทศโดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดต่ำกว่า 1,500 ซีซี รถกระบะ Single cap และ Double Cap ที่มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกว่า 77% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2 - 3%
ตลาดส่งออก โดยเฉพาะตลาดเอเชียมีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น 12% และตลาดโอเชียเนียเพิ่มขึ้น 35%
สำหรับรถจักรยานยนต์ มีการผลิตเพิ่มขึ้น 2% จากการเปิดตัวรุ่นใหม่ ซึ่งตลาดในประเทศมีการจำหน่ายลดลง ยกเว้นรถจักรยานยนต์ขนาด 251 - 399 ซีซี ซึ่งเป็นขนาดที่ได้รับความนิยมในกลุ่มที่ต้องการรถบิ๊กไบค์ที่มีขนาดและราคาไม่สูงมาก ส่วนตลาดส่งออกรถจักรยานยนต์ลดลงวเนื่องจากการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 ในหลายประเทศ โดยเฉพาะสหราชอาณาจักร
แต่อย่างไรก็ดีระบบเตือนภัยอุตสาหกรรมส่งสัญญาณเฝ้าระวังการผลิตผิดปกติระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2563 – มีนาคม 2564 เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในสหรัฐอเมริกาและสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ระลอกที่ 2 ในทวีปยุโรปและไทย ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดส่งออกและตลาดในประเทศ ถึงแม้ว่าตลาดในออสเตรเลียและไทยจะเริ่มฟื้นตัวแล้วก็ตาม ทำให้คาดว่าปริมาณการผลิตรถยนต์ทั้งปี 2564 อาจใกล้เคียงกับที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1,400,000 คัน
ทางด้านการส่งออกรถยนต์ นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า การส่งออกรถยนต์ไปประเทศฟิลิปปินส์ที่อาจต้องเผชิญกับ “มาตรการปกป้อง (Safeguard) การนำเข้ารถยนต์ของฟิลิปปินส์” ทั้งนี้ สืบเนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์นำเข้ารถยนต์นั่งและรถกระบะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลต่ออุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ ทำให้ Philippines Metalwork Alliance (PMA) เรียกร้องต่อรัฐบาลฟิลิปปินส์ให้ดำเนินมาตรการ Safeguard กับการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ และหลังจากการไต่สวนเบื้องต้น รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้กำหนดอากรป้องกันชั่วคราวสำหรับรถยนต์นั่งและรถกระบะมูลค่า 1,500 และ 2,300 เหรียญสหรัฐต่อคัน โดยคาดว่ามาตรการชั่วคราวดังกล่าวจะมีระยะเวลาดำเนินการถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2564 หลังจากนั้น อาจมีการบังคับใช้มาตรการอื่นเพิ่มเติม อาทิ การขึ้นภาษีศุลกากร อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนของฟิลิปปินส์มีความกังวลต่อมาตรการดังกล่าว ว่าจะส่งผลให้ผู้บริโภคต้องซื้อรถยนต์ในราคาที่สูงขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ของฟิลิปปินส์ในปัจจุบัน ยังมีปริมาณการผลิตน้อยกว่าความต้องการของตลาดในประเทศ ทั้งนี้ ไทยส่งออกรถยนต์นั่งและรถกระบะไปยังฟิลิปปินส์มากเป็นอันดับ 3 และ 2 ตามลำดับ ในขณะที่ฟิลิปปินส์พึ่งพาการนำเข้ารถยนต์นั่งและรถกระบะของไทยเป็นอันดับ 2 และ 1 ตามลำดับ
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น