Maserati levante เอสยูวีรุ่นแรกของค่าย มาเซราติ ที่มาพร้อมกับความหรูหรา หากมองในด้านการออกแบบภายนอกแล้ว ต้องบอกว่า เลอวานเต้ คือรถเอสยูวีที่ดูสวย และมีความโดดเด่นเมื่ออยู่บนท้องถนน
แม้ในรุ่นนี้จะเป็นเอสยูวีรุ่นแรกของค่ายมาเซราติ แต่หากมองแบบจุดต่อจุด จะเห็นได้ว่าเลอวานเต้ได้รับดีเอ็นเอ มาจากรถยนต์รุ่นก่อน ๆ ของมาเซราติแบบเต็ม ๆ ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่นในทุกมุมมอง
ชมรีวิวรูปแบบวีดีโอได้ที่นี่
Maserati Levante ใช้โครงสร้างตัวถังเป็นเหล็กผสมอลูมิเนียม เพื่อให้ได้น้ำหนักตัวถังที่เบาลง การออกแบบเสาซีให้มีความลาดเอียง หลังคาช่วงท้ายลาด มาในลุคของความสปอร์ต โดยมีมิติตัวถัง ความยาว 5,003 มม. ความกว้างรวมกระจกมองข้าง 2,158 มม. และความสูง 1,679 มม.
ดีไซน์ภายนอก Maserati Levante
ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังขนาดใหญ่ ครีบเป็นสีเงินโครเมียมแนวตั้ง พร้อมโลโก้มาเซราติ สามง่ามตรีศูล ส่วนครีบที่อยู่ด้านในของตัวกระจัง สามารถเปิด-ปิด ได้ เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ และโคมไฟหน้า ที่ออกแบบมาให้รับเข้ากับชุดกระจังพร้อมไฟตัดหมอก มองเห็นแต่ไกลก็เดาออกได้ทันนี้ว่าคันนี้คือมาเซราติ
ที่แก้มข้างของ Maserati Levante จะมีช่องระบายอากาศสามช่อง ถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของมาเซราติที่มีช่องแบบนี้ในรถทุกคัน ในส่วนของล้อเป็นลาย NEREO ขนาด 20 นิ้ว สีทูโทน ล้อคู่หน้ารัดด้วยยางขนาด 265/45 R20 และล้อคู่หลังรัดด้วยยาง 295/40 R20 พร้อมชุดเบรกมาเซราติขนาดใหญ่สีแดง จะเห็นได้ว่ายางหลังมีหน้ากว้างที่มากกว่า เป็นเพราะการออกแบบช่วงท้าย ที่มีความโปร่งมากกว่าช่วงหน้าครับ ทำให้ตัวรถดูบึกบึน มีมัดกล้ามที่ชัดเจน และที่กรอบหน้าต่างทั้งสี่บาน ยังเป็นดีไซน์แบบไร้ขอบอีกด้วยครับ
ไฟท้ายลำแสงสีแดงสวยงาม เพิ่มความดุดันด้วยปลายท่อไอเสีย 4ท่อ พร้อมดิฟฟิวเซอร์ที่ดูลงตัวกับตัวถังขนาดใหญ่
สำหรับการเปิดฝากระโปรงท้าย เราสามารถเปิดได้หลากหลายช่องทาง และ สามารถเปิดได้โดยใช้เท้าแหย่ไปที่ใต้กันชนหลัง การปิดฝาท้าย ก็เช่นกัน เราสามารถใช้วิธีเดียวกันเหมือนตอนเปิดได้ และด้วยความใส่ใจในการออกแบบ คำนึงถึงการใช้งานที่สะดวกยิ่งขึ้น ได้มีการย้ายปุ่มปิดฝากระโปรงหลังมาไว้ที่ตำแหน่งด้านล่าง ซึ่งเหมาะสำหรับเด็ก และคนที่มีความสูงไม่มากนัก
Maserati Levante ใช้ช่วงล่างแบบลุงลม ระบบไฟฟ้า สามารถปรับระดับได้ถึง 5 ระดับ ตามโหมดการขับขี่ดังนี้
- Normal ความสูงจะอยู่ในระดับปกติ
- Off-Road 1 ตัวรถจะสูงขึ้นจากโหมด Normal 25 มม.
- Off-Road 2 ตัวรถจะสูงขึ้นจากโหมด Normal 40 มม.
- Aero 1 ตัวรถจะต่ำลงจากโหมด Normal 20 มม.
- Aero 2 ตัวรถจะต่ำลงจากโหมด Normal 35 มม.
และในขณะที่จอดรถ จะเป็นเหมือนระดับที่ 6 คือตัวรถจะต่ำลงจากโหมด Normal 45 มม. เพื่อช่วยให้การก้าวขึ้น-ลงรถสะดวกยิ่งขึ้น
ดีไซน์ภายใน Maserati Levante
ภายในเน้นการใช้หนังเกือบทั้งคัน งานประกอบละเอียด และเรียบร้อยทุกจุด แม้จะเป็นจุดเล็กๆที่อยู่ในซอก ก็ประกอบได้อย่างเรียบร้อย ไม่มีที่ติเลยครับ ในส่วนของเบาะคู่หน้า เป็นระบบไฟฟ้าพร้อมเมมโมรี่บันทึก ปุ่มต่าง ๆ บนพวงมาลัยมีอยู่มากมาย สำหรับควบคุมการตั้งค่าต่าง ๆ ที่เรือนไมล์ และสำหรับควบคุมจอกลาง อย่างง่ายดายด้วยแป้นหมุนที่มีชื่อเรียกว่าโรตารี คอนโทรล นอกจากนี้ Maserati Levante ยังมีระบบ Adaptive Cruise control มาให้ด้วยครับ
สำหรับจอกลาง เป็นระบบสัมผัสขนาด 8.4 นิ้ว รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ซึ่งจอกลางนี้ทำหน้าที่ได้หลายอย่างมากครับ ทั้งเล่นเพลง เปิดแผนที่นำทาง ตั้งค่าการเปิด-ปิดระบบต่างๆของตัวรถ ตั้งค่าแอร์ เป็นต้น แต่การใช้งานจะ งง ๆ หน่อยครับ ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกันพักใหญ่เลย
คอนโซลเกียร์อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ทำให้มีความรู้สึกเป็นส่วนตัวในการขับขี่ มีปุ่มต่าง ๆ มากมาย เช่นปุ่มปรับโหมดการขับขี่ ปุ่มปรับระดับความสูงของตัวรถ เป็นต้น
เครื่องยนต์ Maserati Levante
Maserati Levante ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ วี 6 ขนาด 3.0 ลิตร 2,987 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 275 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตรที่ 2,000-2,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 8 สปีด ผ่านระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Q4 ความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลา 6.9 วินาที พร้อมด้วยความเร็วสูงสุดที่ทำได้ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากดูสเปกคร่าวๆแล้ว ก็ถือว่าแรงพอตัวเลยล่ะ
ทดลองขับ Maserati Levante
การออกตัวในโหมดธรรมดาถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานบนท้องถนน เครื่องยนต์มีกำลังเหลือเฟือพร้อมที่จะแบกตัวถังขนาดใหญ่ให้โลดแล่นออกไปโดยไม่มีอาการหน่วง แต่ถ้าอยากซิ่งมากกว่านี้ ให้ปรับไปที่โหมดสปอร์ต รับรองได้ซิ่งสมใจอยาก เพราะกำลังของเครื่องยนต์จะถูกรีดออกมาจนหลังติดเบาะ พร้อมกับเสียงท่อไอเสียในโหมดสปอร์ต จะเปลี่ยนเสียงจากเดิมที่เงียบๆ กลายเป็นเสียงดังทุ้มกระหึ่มได้อารมณ์ที่เร้าใจในการขับขี่ พร้อมกับเข็มไมล์ที่กวาดขึ้นไปแตะ 200 กม./ชม.แบบรวดเร็ว โดยไม่ทันตั้งตัว
ในขณะที่ขับด้วยความเร็วสูง ผมได้ทดสอบระบบสปอร์ตโหมด 2 ความสูงของตัวรถถูกลดระดับลง พร้อมกับช่วงล่างที่ตึงขึ้น แต่ยังให้ความรู้สึกนุ่มนวล เสียงภายในห้องโดยสารเงียบมาก ภาพวิวทิวทัศน์ภายนอกเคลื่อนที่ผ่านไปแบบช้า ๆ แต่พอเหลือบมามองที่เข็มไมล์เท่านั้นแหละ !!! พุ่งทะลุไปเกือบถึงจุดท็อปสปีด โดยที่ช่วงล่างแน่นหนึบ ไม่มีร่อนเลยแม้แต่น้อย ระบบช่วยเหลือที่ติดตั้งมา ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกจากเลน หรือระบบเตือนเมื่อมีรถในมุมอับสายตา ทำงานได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกปลอดภัยเมื่อต้องสาดโค้งแรงๆ ซึ่งผมประทับใจจุดนี้มากๆครับ ไร้ที่ติจริงๆ
โดยรวมแล้ว Maserati Levante เป็นรถเอสยูวี ที่น่าสนใจครับ ได้ภาพลักษณ์ความหรูหราของแบรนด์ มีความโดดเด่นเมื่อวิ่งอยู่บนท้องถนน ออกแบบทั้งภายนอกและภายในดูลงตัว หรูหรา กำลังของเครื่องยนต์ ถ้าเน้นใช้งานผมว่าเครื่องยนต์ตัวนี้ใช้ได้เลยครับ ไม่อืด แรงพอประมาณให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในเมืองประมาณ 10 กม./ล. นอกเมือง 13.69-14.70 กม./ล. รวมแล้วอยู่ที่ประมาณ 12.0-12.6 กม./ล. เป็นรถที่น่าใช้งานมาก ๆ รุ่นนึงเลยทีเดียว แต่ก็มีจุดด้อยตรงที่ยังมีศูนย์บริการน้อยครับ
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น