MG HS PHEV รุ่นใหม่ที่หลายท่านให้ความสนใจ รถยนต์ในรูปแบบ SUV ระบบ ปลั๊กอิน ไฮบริด ให้ทั้งความทันสมัย ขนาดใหญ่ครอบคุมการใช้งาน อัตราการประหยัดน้ำมันที่สุดยอด พร้อมราคาค่าตัว 1.359 ล้านบาท
MG HS PHEV
MG HS PHEV เป็นรถคันแรกจากค่าย MG ที่เป็นระบบ PHEV ตอนนี้กระแสรถไฟฟ้ามาแรงมาก แต่ว่าในช่วงเปลี่ยนถ่ายระบบจากรถน้ำมันเป็นรถไฟฟ้า รถที่เหมาะสมมากที่สุดคือ Plug-in Hybrid นั้นเองเพราะสามารถเลือกที่จะใช้งานในระบบไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็น ไฟฟ้า เครื่องยนต์ หรือ แบบผสมผสาน
และเพื่อให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ดีของรถ MG HS PHEV ทาง MG ก็ได้จัดทดสอบในรูปแบบ วันเดย์ทริป เพื่อให้ได้เห็นถึงความสามารถของตัวรถว่ามีดีอะไรบ้าง ร่วมถึงสัมผัสว่ารถในรูปแบบ ปลั๊กอินโฮบริด นั้น จะสามารถวิ่งแบบใช้ไฟฟ้าอย่างเดียวได้หรือไม่ตามที่เคลมไว้ ว่าสามารถวิ่งได้ถึง 60 กม. เลยทีเดียว
ภายนอก MG HS PHEV
การออกแบบภายนอก เรียกว่าแทบไม่แตกต่างจากตัว HS ปกติ มีเพียงอย่างเดียวที่ชัดเจนที่สุดคือ ลวดลายของล้อขนาด 18 นิ้ว Thunder Wing Blade เท่านั้น
โดยการออกแบบ HS PHEV ดูมีความหรูหราและความสปอร์ตได้อย่างลงตัว มีการใช้เส้นสายตัวถังที่โค้งมน ในรูปแบบ British Shoulder Line กระจังหน้าเอกลักษณ์เฉพาะของเอ็มจีแบบ Stellar Magnetic Field ไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ด้านท้ายมาพร้อม ไฟท้าย LED Space Light Field ที่มีความโฉบเฉี่ยวและไฟเลี้ยวแบบ Sequential
มิติตัวถัง MG HS PHEV
กว้าง 1,876 มิลลิเมตร
ยาว 4,574 มิลลิเมตร
สูง 1,664 มิลลิเมตร
ฐานล้อ 2,720 มิลลิเมตร
ภายใน MG HS PHEV
การตกแต่งแบบหรูหราเกินราคา สิ่งที่แตกต่างอีกหนึ่งอย่างจาก HS รุ่นปกติคือ เบาะนั่งตกแต่งด้วยสี 2-Tone Monaco Blue วัสดุ Soft Touch เบาะหนังคู่หน้าแบบ Sport Bucket Seat ตกแต่งด้วยวัสดุ Alcantara เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง มาพร้อม Ambient Light ที่สามารถปรับเฉดสีได้มากถึง 64 เฉดสี
จอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว และจอควบคุมกลางแบบทัชกรีนขนาด 10 นิ้ว ระบบเสียง BOSE 8.1 Sound System พร้อมสร้างบรรยากาศและสีสันให้กับ การขับขี่ด้วย Interactive เพิ่มความเป็นส่วนตัวภายในห้องโดยสารด้วย NVH Luxury Silence Space เพิ่มฟิล์มกันเสียง และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร ที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก
นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกฝั่ง Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสาร ตอนหลัง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบกรองอากาศ PM 2.5 ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start และฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้าเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน พร้อมหลังคาซันรูฟที่เปิดกว้างแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) บนพื้นที่เกือบ 90% ของพื้นที่หลังคา
เครื่องยนต์ MG HS PHEV
HS PHEV ขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid มีพละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร จากขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร
มีระบบเกียร์แบบ EDU II – 10 Speeds สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ภายในเวลา 7.5 วินาที มาพร้อมรูปแบบการขับขี่ถึง 5 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco โหมด EV และโหมด Sport เสริมด้วยปุ่ม Super Sport ที่สามารถเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
แบตเตอรี่ใน NEW MG HS PHEV เป็นแบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบ 6 โมดูล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูง โดยมีขนาดใหญ่ถึง 16.6 kWh ทำให้มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพในการสะสมพลังงานได้มากกว่าจึงวิ่งได้ นานขึ้น รวมถึงการทำระยะทางได้มากขึ้น โดยสามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% สูงสุดถึง 67 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
นอกจากนี้ ยังมีการใช้เทคโนโลยีในมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Hairpin Design ทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถดึงสมรรถนะของการส่งกำลังและลดอัตราการสูญเสียพลังงานได้ดียิ่งขึ้น พร้อมระบบระบาย ความร้อนแบบ Coolant ซึ่งดีกว่าระบบระบายความร้อนแบบปกติ ทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยในการขับขี่ด้วยแบตเตอรี่ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก AMERICAN UL2580 และผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
NEW MG HS PHEV มาพร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ที่สามารถชาร์จพลังงาน ในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) โดยเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 3 ระดับ และด้วยเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ทำให้ NEW MG HS PHEV มีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดอยู่ที่ 65 กิโลเมตรต่อลิตร* และมีการปล่อยค่าไอเสีย หรือคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 36 กรัมต่อกิโลเมตร
NEW MG HS PHEV ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ด้วยระบบกันสะเทือนของช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension เสริมด้วยระบบช่วงล่างหน้าแบบ MacPherson Strut และช่วงล่างหลังแบบ Multi-link ที่มาพร้อมเหล็กกันโคลงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้มั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่บนทุกสภาพถนน
ทดสอบ MG HS PHEV
MG HS PHEV มองจากภายนอกให้อารมณ์การออกแบบเหมือนรถยุโรป ดูสวยหรูเส้นสายต่างๆจุดเด่นคือไฟเลี้ยว แบบSequential เสริมตัวรถให้ดูโดดเด่นขึ้น เข้ามาภายในห้องโดยสาร สิ่งแรกคือเบาะนั่งแบบ ทูโทนสีขาวฟ้า ทำให้ภายในสวยขึ้นมาก ถัดมาที่หน้าจอเอาใจวัยรุ่นมากทั้งสีสันและรูปแบบการแสดงผลต่างๆ แต่สำหรับผู้ใหญ่อาจจะมองยาก
เข้าไปนั่งภายในรถออกวิ่งทดสอบรอบ กทม สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ MG HS PHEV เป็นรถที่เอาใจคนรุ่นใหม่มากๆเพราะด้วยอุปกรณ์ต่างๆ วัสดุต่างๆ แดชบอร์ด หน้าจอต่างๆ มีความทันสมัยมาก ในส่วนจอกลางนั้นเรียกว่าทำได้ทุกอย่าง ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากตั้งแต่ฟังเพลงที่ไม่ต้องต่อกับอะไรก็สามารถฟังได้เลย ผ่าน true music ก็มีให้เลือกฟังมากมาย แม้การจะปรับแอร์ จะปรับโหมดการชาร์จขณะวิ่ง ทำได้ที่หน้าจอได้ทั้งหมด เบาะนั่งทรงสปอร์ต สวยงามกระชับตัว พื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อม Panoramic Sunroof ยิ่งทำให้ห้องโดยสารกว้างขึ้นอีก
ออกเดินทางจาก CDC วิ่งเรียบทางด่วน เพื่อออกชานเมือง วิ่งแบบไฟฟ้า EV แน่นอนว่าเงียบสนิท แบบรถไฟฟ้า วิ่งออกชานเมืองมีโอกาสทดสอบกดคันเร่งดูจังหวะการทำงาน ของเครื่องยนต์กับไฟฟ้านั้น ตัวรถมีจังหวะที่หน่วงในบางช่วงในการตัดต่อระหว่างเครื่องยนต์และไฟฟ้า ทำให้รู้สึกเสียจังหวะไปบ้าง แต่ถ้าขับขี่แบบเรียบร้อยวิ่งให้ความเร็วขึ้นเองแบบต่อเนื่องนั้นถือว่าทำได้ดีกว่า ราบเรียบดี และถ้าใครคาดหวังกับความแรง เพราะถ้ามองจาก แรงม้าแรงบิด ที่ค่อนข้างเยอะ อาจจะทำให้รู้สึกว่า
แรงเท่ารถสปอร์ต บอกเลยว่าไม่ขนาดนั้น แต่ให้ความรู้สึกว่าเป็นรถที่มีกำลังเหลือมากกว่า แบบว่า ต้องการเร่งแซงเมื่อไหร เรียกว่า สบายหายห่วง และยิ่งในโหมด Super Sport ก็ทำให้หลังติดเบาะได้เล็กน้อย เหมือนเป็นปุ่มเพิ่มพลังก็ว่าได้ (ไฟฟ้าจาก แบตเตอรี่ ต้องพอ)
ในการทดสอบวิ่งโดยใช้ไฟฟ้า ตัวรถก็สามารถ ชาร์จไฟกลับได้ด้วย อย่างแรกอาจจะยุ่งยากนิดหน่อยเพราะต้องเข้าไปตั้งค่าภายในหน้าจอ จะมีให้เลือก 3 ระดับ ลองแล้วชาร์จไฟคืนแบตได้จริง และอีกแบบคือ ระบบหน่วงความเร็วของ MG ปรับได้ 3 ระดับ (แป้น - คือหน่วงน้อย ตบ + คือหน่วงมาก ) อันนี้ใช้งานง่ายตำแหน่องอยู่ที่หลังพวงมาลัย หน้าตาเหมือน Paddle shift ระบบนี้เหมือนกับคู่แข่งอย่าง Outlander
ในส่วนการเก็บเสียงนั้น เมื่อวิ่งในแบบไฟฟ้าหายห่วงเงียบแน่นอน แต่เมื่อเครื่องยนต์ทำงานรวมก็มีเสียงเข้ามาบ้างอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ไม่ได้รู้สึกว่าดังไปและในส่วนของช่วงล่าง ถ้าเทียบกับ MG HS ในรุ่นปกติ ค่อนข้างทำได้ดีกว่า อาจจะด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในด้านท้ายจึงทำให้การปรับแต่งช่วงล่างเปลี่ยนไป ท้ายมีอาการโยนในความเร็วสูง ในความเร็วต่ำแรงกระแทกเข้าตัวรถค่อนข้างเยอะ
ระบบความปลอดภัย MG HS PHEV
มีระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย (Full Space Frame) และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System กว่า 25 ระบบ โดยแบ่งออกเป็นระบบความปลอดภัย เชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรก และช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ จำนวน 14 ระบบ และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือระบบช่วยควบคุมการ ขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 11 ระบบ
สำหรับระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ถือเป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ระดับที่ 2 (Partial Automation) โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้
กลุ่มระบบที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา RDA (Rear Drive Assist)
ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
กลุ่มระบบเตือนและควบคุมให้รถอยู่ในเลน LAS (Lane Assist System)
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
กลุ่มระบบที่ช่วยในการขับขี่ FDA (Front Drive Assist)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
สรุป MG HS PHEV
สำหรับ MG HS PHEV เป็นรถเอาใจวัยรุ่น ตั้งแต่หน้าตา สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆภายในห้องโดยสาร ที่มีมาให้เพียบ ในส่วนเรื่องการขับขี่นั้น ถ้าคุณทำงานไปกลับที่ทำงานไม่เกิน 60 กม.คุณจะเติมน้ำมันเพียงเดือนละครั้งเท่านั้น เรียกว่าประหยัดเหมือนขี่มอเตอร์ไซร์ เพราะจากการทดสอบวิ่งในเมืองรถติด ใช้ EV วิ่งสามารถ ทำตัวเลยระยะทางวิ่งได้จริง
ใครต้องการรถไฟฟ้าแต่ก็กลัวในเรื่องออกเดินทางไกล รถในกลุ่มนี้ก็จะเป็นคำตอบในการเลือกเพราะคุณสามารถใช้งานได้ทั้ง ไฟฟ้า ไฮบริด แถมมีปลั๊กไฟมาให้ด้วย และถ้าใครกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
NEW MG HS PHEV ใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 16.6 kWh แบ่งแบตเตอรี่ออกเป็น 6 โมดูล หากใช้งานรถยนต์ไปจนถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนแบต เราสามารถเลือกเปลี่ยนแบตเฉพาะโมดูลที่เสื่อมหรือมีปัญหาได้ ราคาโดยประมาณของ 1 โมดูล จะอยู่ที่ราว ๆ 20,000 บาท เท่านั้น และที่สำคัญตอนนี้ MG รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี โดยที่ไม่จำกัดระยะทางเลยทีเดียว
และถ้ามองตัวเปรียบเทียบ อย่าง Outlander ชัดเจนเลยว่า บุคลิกของรถ แตกต่างกันมาก MG ออกแนวหรูหรา เครื่องยนต์ตอบสนองทันใจ ของเล่นเพียบอยู่กับรถ 1 วันไม่มีทางใช้งานได้ครบ ในส่วน Outlander แนวมีอายุขึ้นมาไม่ต้องการ ออฟชั่นมากมาย แต่สนใจในสมถรรนะ เรียบๆใจเย็นแต่มีพลัง
MG HS PHEV - 1,359,000 THB
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น