การเดินทาง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบัน ไม่มีใครที่สามารถหลีกหนีการเดินทางออกไปได้ และยานพาหนะที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของมนุษย์หนีไม่พ้นรถยนต์
รถยนต์ ยานพาหนะอันดับ 1 ในการเดินทาง
รถยนต์ ปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการเดินทางยุคปัจจุบัน เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย และสามารถครอบครองเป็นของส่วนตัวได้ ซึ่งมนุษยชาติเรานั้นมีการใช้งานรถยนต์มานับหลายร้อยปีแล้ว
ทว่า การใช้งานรถยนต์มาตั้งแต่ยุคเริ่มต้นถึงยุคปัจจุบัน แม้ว่าจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวรถไปไกลมากเพียงใด มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากขนาดไหน มีระบบเสริมความปลอดภัยมากขนาดไหน สุดท้ายแล้วปัจจัยสำคัญที่สุดในการขับขี่ให้มีความปลอดภัยมากที่สุดนั่นคือผู้ที่ขับขี่อยู่นั่นเอง และนั่นก็เป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุดด้วยนั่นคือ ผู้ขับขี่
อุบัติเหตุมากกว่า 90% ทั่วทุกมุมโลก ล้วนแล้วเกิดจากตัวผู้ขับขี่ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งความประมาท หรือกระทั่งขาดสติจากการดื่มแอลกอฮอล (เมาแล้วขับ) หรือกระทั่งโรคประจำตัวกำเริบ เป็นต้น ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุแทบทั้งสิ้นทั่วทุกมุมโลก
แล้วจะดีกว่าไหม หากเราไม่ต้องขับรถเอง และจะดีกว่าไหมหากรถทุกคันบนถนนวิ่งไปเองได้โดยไม่ต้องใช้คนควบคุมรถ
และใช่ว่ารถยนต์ส่วนตัวเท่านั้นที่จะมีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ หากทุกสิ่งสามารถเคลื่อนที่เองได้โดยไม่ต้องมีคนขับ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์, รถบัส, รถบรรทุก, รถแท็กซี่, รถสาธารณะ, รถไปรษณีย์ กระทั่งรถส่งของ เป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมดแบบวิ่งไปส่งของให้เอง โลกของเราจะเป็นอย่างไร?
Nvidia ผู้พัฒนาเทคโนโลยีกราฟฟิกการ์ดระดับโลก เผยแพร่วิดีโอความยาว 2 นาที เผยให้เห็นไอเดียแห่งอนาคตว่า ถ้าหากทุกสิ่งอย่างบนโลกใบนี้ ที่ใช้การขนส่งเป็นหลักนั้นล้วนแล้วแต่ถูกขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยมีการควบคุมจากตัว AI จะช่วยทำให้ชีวิตของมนุษย์สะดวกสบายมากขนาดไหน
รถบรรทุกระบบ AI ขับรถบรรทุกตามเส้นทาง กำหนดต้นทาง - ปลายทางได้ ขับได้เองไม่ต้องใช้คนขับเสมือนเราเล่นเกม เพียงกำหนดจุดหมายปลายทางที่เราต้องการ ระบบก็จะค้นหาเส้นทางและขับเคลื่อนรถออกไปได้เอง ไม่จำเป็นต้องใช้คนขับรถ หมดปัญหาเรื่องความเหนื่อยล้าของพนักงานขับรถ และช่วยลดอุบัติเหตุได้จนเป็น 0% หากรถทุกคันบนถนนขับด้วย AI เพราะมันจะสามารถสื่อสารกันเองได้
AI Taxi รถแท็กซี่อัฉริยะแบบไร้คนขับ ขับเคลื่อนด้วยระบบ AI โดยผู้ใช้งานสามารถเรียกรถให้มารับ ณ จุดที่กำหนด และไปส่งที่จุดหมายปลายทางที่ต้องการได้ง่ายๆ ด้วยการเรียกรถผ่านแอพลิเคชั่น โดยตัวรถจะวิ่งมาเองโดยไม่มีคนขับรถแต่อย่างใด อารมณ์เดียวกันการกดเรียกลิฟต์เลยทีเดียว
AI หุ่นยนต์ส่งของ สำหรับขนส่งสินค้าขนาดเล็ก อารมณ์เป็นพี่ไปรษณีย์
ระบบ Full Self Driving เริ่มมีใช้อย่างแพร่หลายในหลายๆ ยี่ห้อแล้ว แต่ปัจจุบันทั้งหมดยังอยู่ในระดับเลเวล 2-3 เท่านั้น โดยในอนาคตมันจะทำงานถึงขั้นที่ว่าเราขึ้นรถ บอกว่าจะไปไหน รถจะพาเราไปเองไม่ต้องลงมือขับ เสมือนเรากดลิฟต์จากชั้นนึงไปชั้นนึงเลยทีเดียว
และอีกฟีเจอร์เฉพาะทาง กับ AI ขับรถอัตโนมัติในกลุ่มเรซซิ่ง โดยจะเป็นระบบขับเคลื่อนไปตามเส้นทางในสนามแข่งรถ เพื่อเสริมประสบการณ์ขับขี่รูปแบบการแข่งขัน โดยตัวรถจะขับเคลื่อนรถยนต์ตามเรซซิ่งไลน์ (ไลน์การขับขี่ที่ทำเวลาได้เร็วที่สุดในสนาม) ซึ่งปกติแล้วหากเราเรียนรู้กันตามโรงเรียนสอนแข่งรถ เราจะต้องขับรถตามครูฝึก หรือขึ้นไปนั่งรถกับครูฝึก และครูฝึกขับให้ดูก่อน ทว่าเจ้าระบบนี้จะเปลี่ยนจากครูฝึกที่เป็นคนมาเป็น AI ขับกันให้ดูเลยทีเดียว เรียกได้ว่าอนาคตครูฝึกอาจไม่จำเป็นต้องลงมาสอนเอง แต่อาจจะส่งโปรแกรมการฝึกมาให้ตัวรถขับให้นักเรียนดูก็เป็นได้
และนี่ก็คืออนาคตแห่งโลกยานยนต์ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้านี้ นับว่าเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญตั้งแต่การโคจรมาพบกันระหว่างโลกแห่งยานยนต์ และโลกแห่งคอมพิวเตอร์ เมื่อ 2 สิ่งนี้โคจรมาพบกัน ก็ย่อมเสริมสร้างสิ่งใหม่ๆ ที่ช่วยทำให้ชีวิตของคนเราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก โดยเฉพาะระบบขับเคลื่อนแบบไร้คนขับนี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้เป็นอย่างมากอย่างแน่นอน
อ่าน รถบรรทุกไร้คนขับ อนาคตแห่งการขนส่ง ทางเลือกใหม่ของผู้ประกอบการ
อ่าน Mercedes-Benz จับมือ Nvidia ทำรถยนต์ไร้คนขับ
อ่าน อาชีพที่อาจหายไป ในยุคยานยนต์ไร้คนขับ
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น