สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย( EVAT) ร่วมกับสมาคมเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานไทย และอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จัดสัมมนา "ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) 100% ปี 2035 จุดเปลี่ยนสำคัญอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
รถยนต์ไฟฟ้า 100% ในปี 2035 จะเปลี่ยนไปขนาดไหน?
ในการสัมมนาครั้งนี้มีหัวข้อและผู้ร่วมสัมมนาหลากหลายคน โดยในที่นี้ ขอหยิบยกการเสาวนา หัวข้อ โอกาสของผู้ประกอบการยานยนต์ไทยกับตลาดทุน โดยอดิศักดิ์ พรหมบุญ ผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์กรุงศรี ได้ให้ข้อมูลว่า ความสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมียอดส่งออก 12% ของยอดรวมหรือคิดเป็น 6% ของจีดีพี มีผู้ประกอบการชิ้นส่วน 2,500 ราย แรงงานที่เกี่ยวข้อง 7.5 แสนคน
ยอดผลิต 2019 ไทยอันดับ 11
เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆทั่วโลก ตัวเลขยอดผลิตรถยนต์ปี 2019 ไทยมียอดผลิตอยู่ที่อันดับที่ 11 ของโลก มียอดขายอันดับที่ 17 ของโลก ขณะที่ตลาดการใช้รถยนต์ของไทยอยู่ในระดับกลางๆ โดยมาเลเซียมียอดการใช้รถยนต์สูงกว่า ดังนั้น ในอนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสามารถเติบโตต่อไปได้อีก
สัดส่วนการผลิตรถยนต์ในไทยเป็นการผลิตรถยนต์นั่งและกระบะอย่างละครึ่ง เช่นเดียวกับสัดส่วนการใช้รถในประเทศและส่งออก สิ่งที่เกิดขึ้นโดยปี 2020 เกิดการระบาดโควิด-19 ยอดขายยอดส่งออก็ตกลงมาและฟื้นตัวมาระยะหนึ่ง โดยในไตรมาสแรก ปี 2021 ติดลบไม่มาก
"Disruption หากย้อนกลับไปดูบริษัทชั้นนำของโลก จะเห็นว่า บริษัทชั้นของโลก จากเดิม 15 แห่ง ปัจจุบันเหลือเพียง 4 แห่ง Microsoft ,ExonMobil,Walmart และPfiser เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลง ยกตัวอย่างให้เห็นชัด Case Study กล้องดิจิตัลที่เข้ามาแทนที่กล้องฟิล์ม จากนั้น Smartphones ก็เข้ามาแทรก ซึ่งทำให้เห็นว่า เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็ว"
เช่นเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงของรถสันดาปภายในไปยังรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังจะเกิดขึ้น จะพบว่า รถยนต์ไฟฟ้าค่อยๆเพิ่มขึ้น เป็นเทรนด์โลกในการักษาสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน ระดับการขับขี่อัตโนมัติ
EV CAR ใช้ชิ้นส่วนน้อยลง
ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ผลิตชิ้นส่วนและผู้ประกอบการรถยนต์ โดยเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ใช้ชิ้นส่วนในการผลิตประมาณ 30,000 ชิ้น ส่วน EV Car ใช้ชิ้นส่วนน้อยกว่า 3,000 ชิ้น จะเห็นได้ว่า ผู้ประกอบการชิ้นส่วนที่ได้รับผลกระทบหรือหายไปจากอุตสาหกรรมยานยนต์เลย อาทิ ระบบควบคุมไอเสีย เครื่องยนต์ เชื้อเพลิง ระบบส่งกำลัง ส่วนชิ้นส่วนที่อยู่ได้ อาทิ สายไฟ อุปกรณ์ส่องสว่าง ช่วงล่าง ตัวถัง เป็น แต่ก็ต้องพัฒนาให้เหมาะสม นี่คือ การ Disruption ของอุตสาหกรรม
ส่วนผลกระทบที่จะเกิดกับผู้จัดจำหน่ายและศูนย์บริการ จากเดิมที่ขาย ต่อไปอาจเป็นการให้เช่ารถแทน หรือจากอู่ซ่อม อนาคตอาจเปลี่ยนชิ้นส่วนได้เลย ไม่ต้องรออะไหล่เหมือนปัจจุบัน
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น สร้างโอกาสสำหรับธุรกิจใหม่ ได้แก่
- สถานีชาร์จไฟฟ้า
- รถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง
- Hardware :อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
- Software : Application สำหรับรถยนต์
(สำหรับการลงทุนสถานีชาร์จในไทย จากข้อมูลปลายปี 2019 มีทั้งหมด 805 แห่ง)
มูลค่า SETAUTO
ไฮไลท์เรื่องหลักทรัพย์กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนในตลาดหลักทรัพย์ไทย พบว่า SETAUTO มี 18 หลักทรัพย์ มูลค่าในตลาด 75,000 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 18 ล้านล้านบาท เทียบกับจีดีพี ถือว่า SETAUTO ยังค่อนข้างต่ำ นักลงทุนสามารถเข้าไปลงทุนได้
ข้อดี -ข้อเสียในการนำธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์
ข้อดี
- มีแหล่งเงินทุนระยะยาว
- การบริหารแบบมืออาชีพ
- ส่งเสริมภาพลักษณ์บริษัท
- สิทธิประโยชน์ทางภาษี
ข้อเสีย
- ความเป็นเจ้าของลดลง
- ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
- เสียอิสระในการทำงาน
มูลค่าของบริษัทจากมุมมองของนักลงทุน
- ทำกำไรสม่ำเสมอ
- จ่ายปันผลสูง
- กำไรมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
"ยกตัวอย่าง เทสล่า ที่ทำรถยนต์ไฟฟ้า มีมูลค่าสูง เพราะนักลงทุนหวังผลว่าจะมีกำไรในการเติบโตสูง"
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น