สีรถไม่ถูกโฉลก ควรแก้เคล็ดด้วยเลขทะเบียนแบบไหน

แก้เคล็ดสีรถไม่ถูกโฉลก

เคยไหม จะซื้อรถทั้งทีก็อยากซื้อสีที่ตัวเองชอบ หรือบางทีก็ลืมศึกษาข้อมูลว่าสีไหนถูกโฉลกกับตัวเราเอง วันนี้นอกจากเราจะมาบอกสีรถเสริมดวงของแต่ละคนแล้ว เรายังจะมาบอกวิธีแก้เคล็ด สีรถไม่ถูกโฉลก ตามหลักฮวยจุ้ยรถยนต์ โดยใช้เลขทะเบียนอีกด้วย

สีรถไม่ถูกโฉลก แก้เคล็ดด้วยเลขทะเบียนแบบไหนดี

ตามหลักฮวงจุ้ย คนแต่ละคนจะมีธาตุที่แตกต่างกัน ซึ่งธาตุแต่ละธาตุตามหลักฮวงจุ้ยเปรียบได้เหมือนสีแต่ละสี แต่ละคนก็จะมีสีที่ถูกโฉลก และสีที่ไม่ถูกโฉลก เพราะฉะนั้นการเลือกรถให้มีสีที่เป็นมงคลส่งเสริมกับตัวเองนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ วันนี้อาจารย์ปรัชญา เปิดฟ้า จะมาบอกวิธีเลือกสีให้ส่งเสริม ถูกโฉลกกับตัวเอง และแนวทางในการแก้ไขให้กับคนที่มีรถสีไม่ถูกโฉลกกับตัวเอง เพื่อเป็นการแก้เคล็ดและเสริมสิริมงคลในการขับรถให้ปลอดภัยหายห่วงมากยิ่งขึ้น

อาจารย์ปรัชญา เปิดฟ้า กล่าวว่าฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์โบราณที่มีมามากกว่า3,000ปี เป็นศาสตร์ที่เหนี่ยวนำกระแสธรรมชาติ มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับมนุษย์ให้มากที่สุด ในเรื่องของโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง และความมั่งคั่ง โดยศึกษาในด้านของพลังงาน คำว่า ฮวงจุ้ย ประกอบมาจากคำว่า “ฮวง” ที่แปลว่า ลม “จุ้ย” ที่แปลว่า น้ำ ซึ่งเป็นพลังที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ หรือก็คือพลังงานธรรมชาติที่มีอยู่ทั่วไป และสามารถนำมาใช้ได้ ทั้งนี้ศาสตร์ของวิชานี้นั้น แบ่งเป็นหลายแขนง ในเรื่องนี้เราจะใช้ในลักษณะของภาคคำนวณ ในเชิงตัวเลข

หลักฮวงจุ้ยนั้น จะประกอบไปด้วยเบญจธาตุทั้ง 5 ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุทอง ธาตุน้ำ ธาตุไม้ และธาตุไฟ โดยแต่ละธาตุนั้นจะมีความสัมพันธ์กันทั้งในด้านก่อกำเนิด ส่งเสริมพลัง และในด้านบั่นทอน ทำลายพลังซึ่งกันและกัน ซึ่งก่อนที่เราจะดูได้ว่าเราถูกโฉลกหรือไม่ถูกโฉลกกับสีไหน เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ตัวเรานั้นมีเลขอะไร

ศาสตร์การหาเลขประจำตัวตามหลักฮวงจุ้ย ถูกเรียกว่า หลักมิ่งกัว คือ ดาวพิทักษ์ที่คนแต่ละคนจะเกิดภายใต้มัน โดยมีวิธีหาจากปีเกิด และเพศ ก่อนอื่นเราจะต้องรู้วิธีคำนวณเลขมิ่งกัวของเราก่อน

วิธีคำนวณเลขมิ่งกัว

ขั้นแรก ให้นำปีเกิด(พ.ศ.) มาบวกกันทั้งหมดจนกว่าจะเหลือเลขตัวเดียว เช่น ปี 2542 ก็จะเป็น 2+5+4+2 = 13 1+3 = 4

ขั้นต่อมา ให้นำเลขที่ได้บวกกับเพศตัวเอง หากเป็นผู้ชาย ให้ -14 และหากเป็นผู้หญิงให้ +1 เช่น ถ้าเป็นผู้หญิง ให้นำเลขที่หาได้มาบวกหนึ่ง 4+1 = 5 ในกรณีนี้เลข 5 ก็จะเป็นเลขมิ่งกัวของเรา หลังจากนั้น เราก็จะนำเลขที่ได้มาดูว่าเราเป็นธาตุอะไร

ตารางเลขมิ่งกัว

1 = ธาตุน้ำ

2,5,8 = ธาตุดิน

3,4 = ธาตุไม้

6,7 = ธาตุทอง

9 = ธาตุไฟ

เมื่อเรารู้ว่าเป็นธาตุอะไรแล้ว ก็จะสามารถรู้ได้ว่าธาตุที่เสริมพลัง และบั่นทอนพลังของเรานั้นเป็นธาตุอะไร สีอะไรที่เราควรใช้หรือไม่ควรใช้ได้ ตามรูปภาพด้านล่างเลย

สีประจำแต่ละธาตุ

ธาตุน้ำ ได้แก่ สีน้ำเงิน สีฟ้า สีดำ
ธาตุดิน ได้แก่ สีน้ำตาล สีเหลือง
ธาตุไม้ ได้แก่ สีเขียว
ธาตุทอง ได้แก่ สีบรอนด์ สีทอง สีขาว
ธาตุไฟ ได้แก่ สีแดง สีส้ม สีชมพู

เช่น หากคำนวณได้ว่าเราเป็นธาตุน้ำ จากรูปภาพจะเห็นได้ว่า ธาตุที่ส่งเสริมคือ ธาตุทอง เพราะฉะนั้นสีที่เราควรใช้ ได้แก่ สีบรอนด์ สีทอง และสีขาว ส่วนธาตุที่บั่นทอนพลัง คือ ธาตุดิน เพราะฉะนั้นสีที่เราควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ สีน้ำตาล และสีเหลือง

ซึ่งสีที่เราหามาได้นั้นเราสามารถนำมาใช้กับสีในชีวิตประจำวันได้ ไม่เพียงแต่เกี่ยวกับสีรถเท่านั้น

วิธีแก้เคล็ดสีรถไม่ถูกโฉลกด้วยเลขทะเบียน

สำหรับหลาย ๆ คนที่ซื้อรถไปแล้ว ก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะอาจารย์ปรัชญา เปิดฟ้า ก็มีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ด้วยการแก้เคล็ดสีรถไม่ถูกโฉลกโดยใช้เลยทะเบียน

วิธีคำนวณเลขทะเบียน

ให้นำเลขทะเบียนทั้งหมด มาบวกกันจนกว่าจะเหลือเลขตัวเดียว เหมือนการคำนวณเลขมิ่งกัว

เช่น เลขทะเบียน 1กท 9339

1+9+3+3+9 = 25
2+5 = 7

เลขรวมของเลขทะเบียนนี้เท่ากับ 7 หมายความว่าเลขทะเบียนนี้ เป็นธาตุทอง

เลขที่ได้นั้นก็จะเป็นเลขรวมของทะเบียนนั้น ๆ วิธีดูก็คือให้กลับไปดูที่ตารางเลขมิ่งกัว

ตัวอย่างเช่น หากเราเป็นคนธาตุไฟ แต่เราใช้รถสีดำ ซึ่งเป็นธาตุน้ำ ไม่ถูกโฉลกกับธาตุของเรา ก็จะมีวิธีแก้ไข โดยการหาเลขทะเบียนที่มีเลขรวมกันได้เท่ากับ 2 5 และ 8 ซึ่งเป็นเลขธาตุดิน มาแก้เคล็ดเพื่อบั่นทอนพลังของธาตุน้ำ นอกจากการแก้เคล็ดด้วยเลขทะเบียนแล้ว เราสามารถนำสิ่งของ ที่มีสีตามธาตุนั้น ๆ มาวางไว้ในรถเพื่อเสริมพลังได้อีกด้วย

การเลือกสีหรือเลขทะเบียนที่ถูกโฉลกกับเราตั้งแต่แรกก็เป็นวิธีที่ดี แต่หากเราเลือกสีรถที่ไม่ถูกโฉลกกับตัวเราเองแล้ว การแก้เคล็ดสีรถไม่ถูกโฉลกด้วยเลขทะเบียนก็เป็นอีก 1 วิธีที่ช่วยเสริมความมั่นใจและความปลอดภัยตามหลักฮวยจุ้ย เพื่อให้ชีวิตของเราปัง ๆ ยิ่งขึ้นไปอีก ยังไงก็ตามฮวงจุ้ยเป็นอีก 1 ศาสตร์ความเชื่อที่อยู่คู่มนุษย์มานาน และทำให้ใครหลาย ๆ คนมีชีวิตดีขึ้นมามากมาย จะเชื่อหรือไม่ ก็อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละบุคคล