Toyota Yaris Play เป็นรุ่นลิมิเต็ดมีเพียงแค่ 1,500 คัน มีตัวถังให้เลือก 2 แบบ คือ Yaris Ativ ตัวถังซีดาน 4 ประตู และ Yaris ตัวถังแฮทช์แบค 5 ประตู โดยมาพร้อมกับชุดแต่งที่ไม่ซ้ำใคร มี Toyota Safety Sense และกล้องมองรอบคัน 360 องศา
รีวิว Toyota Yaris Ativ Play 2021 ออปชั่นแน่นขึ้น พร้อมกล้องรอบคัน
รับชมวีดีโอ รีวิว Yaris Ativ Play ได้ที่นี่
Toyota Yaris & Ativ Play มีอยู่ทั้งหมด 2 รุ่นย่อย คือ Sport และ Sport Premium มีสีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ สีดำ สีเทา สีขาวมุก และสีชมพูใหม่ Ice Pink Metallic สำหรับในบทความนี้ ผมได้นำ Toyota Yaris Ativ Play ตัวถัง 4 ประตู รุ่นท็อปสุด Sport Premium มารีวิวให้กับทุกท่านได้รับชม ความน่าสนใจจะมีอะไรบ้าง เรามาดูกันเลยครับ
ดีไซน์ภายนอก Toyota Yaris Ativ Play
ภายนอก Toyota YARIS และ ATIV รุ่นพิเศษ “PLAY” มาในดีไซน์ที่สวยงามสะดุดตา กระจังหน้าเป็นสีดำเงามีเส้นโครเมี่ยม ที่รับเข้ากับลายเส้นของไฟหน้าแบบ LED พร้อมด้วย LED Light Guiding มีระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED และ ระบบ Follow Me Home กระจังตัวล่างสีดำเงาดีไซน์พรีเมียม ไฟตัดหมอกแบบ LED พร้อมเซ็นเซอร์ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS ที่โลโก้ด้านหน้าตัวรถ
กระจกหน้ารถ Acoustic Glass ช่วยลดเสียง และใช้เทคโนโลยี HSEA Glass ซึ่งช่วยดูดซับความร้อน จอดรถไว้กลางแดดไม่ต้องกังวลเลย เพราะเปิดแอร์แป็บเดียวภายในเย็นฉ่ำเลยครับ และที่ด้านบนของกระจกยังมีกล้องบันทึกภาพหน้า และหลังรถ ที่ปัดน้ำฝนเป็นแบบอัตโนมัติ และมีเซ็นเซอร์ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน LDA ด้วยครับ
กระจกมองข้างสีดำเงา ปรับและพับได้ด้วยไฟฟ้า มีไฟเลี้ยวให้ในตัว ที่ใต้กระจกมองข้างทั้ง 2 ฝั่ง มีกล้องมาให้ ซึ่งแน่นอนว่าคันนี้มีฟังก์ชั่น Panoramic View Monitor ที่ให้มุมมองแบบรอบคัน จากภาพมุมสูง และเรายังสามารถเลือกดูภาพจากกล้องแต่ละมุมได้อีกด้วยครับ
สำหรับมือเปิดประตู จะมีปุ่มสีดำเล็กๆ เอาไว้ล๊อก และปลดล๊อกรถ โดยที่เราไม่ต้องกดกุญแจรีโมทเลย เพียงแค่พกกุญแจไว้ที่ตัวเท่านั้น
ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ดีไซน์พิเศษ สีทูโทน ปัดหน้าสีเงิน หากมองผิวเผินหลายท่านอาจมองเป็นล้อสีดำ แต่ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นได้ว่าล้อคือสีม่วงเข้มครับ ซึ่งเค้าเรียกสีนี้ว่า สี Dark Mulberry มีเฉพาะในรุ่น Play เท่านั้น และที่ชายล่างด้านข้าง จะเป็นสีดำเงา
เสาอากาศในรุ่นท็อปสุด Sport Premium อย่างคันนี้ จะได้เป็นเสาอากาศแบบครีบฉลาม แต่ถ้าเป็นรุ่น Sport จะได้เป็นเสาอากาศแบบสั้น
สำหรับด้านท้าย โดดเด่นด้วยสปอยเลอร์หลังสีดำเงา ในส่วนของไฟท้ายเป็นแบบ LED Light Guiding สัญลักษณ์ PLAY ติดตั้งบริเวณท้ายรถ บ่งบอกถึงความลิมิเต็ด และชุดสเกิร์ตชายล่างสีดำเงา
สำหรับการเปิดฝากระโปรงท้าย สามารถเปิดได้ 3 ช่องทาง คือ เปิดจากในรถ,เปิดที่ตัวฝากระโปรงท้าย และเปิดได้จากกุญแจรีโมท เมื่อเปิดแล้วจะพบกับช่องเก็บของ Sky Box ที่แขวนลอยอยู่ด้านบน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการจัดเก็บสัมภาระ สามารถรับน้ำหนักได้ราวๆ 3กิโลกรัม แต่ถ้าเป็น Yaris Play รุ่น 5 ประตู จะได้เป็นช่องเก็บของ Trunk Organizer
ดีไซน์ภายใน Toyota Yaris Ativ Play
ภายในห้องโดยสาร โดดเด่นและแตกต่างจากยาริสรุ่นธรรมดา โดยในรุ่น Play จะตกแต่งด้วยโทนสี Dark Mulberry สีม่วงเข้ม และชมพูอ่อน เบาะหนังสีทูโทน ขาว-ดำ เดินด้ายเย็บสีม่วง ส่วนแผงข้างประตูตรงที่วางแขน ใช้เป็นหนังสัมผัสนุ่มสีม่วงเข้ม ซึ่งดูสวยงามลงตัวเลยทีเดียว
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น แบบ 3 ก้าน หุ้มหนังสีดำ ที่ด้านบนสุดของพวงมาลัย หุ้มด้วยหนังสีม่วงเข้ม ด้านล่างของพวงมาลัย มีโลโก้ Play และจุดที่เป็นสีเงิน จะเป็นสีอมชมพูอ่อนๆ ปุ่มทางฝั่งซ้ายของพวงมาลัย สำหรับควบคุมจอเครื่องเล่นตรงกลาง ส่วนปุ่มฝั่งขวา ควบคุมจอเรือนไมล์
เครื่องเล่นระบบสัมผัสขนาด 6.7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay เมื่อเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ iOS เราสามารถดึงแผนที่จากโทรศัพท์ขึ้นที่หน้าจอได้เลย และยังใช้คำสั่งเสียงผ่านการเชื่อมต่อ Apple CarPlay ได้อีกด้วยครับ แต่ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือ ในรุ่น Play ได้กล้องมุมมอง 360 องศา Panoramic View Monitor
ซึ่งกล้องมุมมอง 360 องศาในรถคันนี้ ผมชอบมากครับ เพราะมองเห็นภาพได้แบบรอบคันจากมุมสูง ช่วยให้การขับขี่สะดวกยิ่งขึ้น เช่นการจอดรถเข้าซอง และเรายังสามารถเลือกดูกล้องของแต่ละมุมได้อีกด้วยครับ
แอร์ระบบออโต้ มีเทคโนโลยีกรองฝุ่น PM 2.5 ทำให้อากาศภายในรถสะอาดปลอดภัยจากเชื้อโรค กรอบแอร์เป็นสี ชมพูอ่อน ให้ความรู้สึกพรีเมียม
เบาะหลังมีพื้นที่กว้างขวาง ผมสูง 175 ซม.นั่งได้สบาย นั่งแล้วหัวเข่าไม่ดันเบาะหน้า ศีรษะไม่ติดเพดาน มีช่องเสียบ USB 2 ช่อง และมีช่องเก็บของหลังเบาะหลายจุดเลยทีเดียว
และที่ผมชอบมากๆในรถคันนี้ ก็คือ PLAY Connect car telematics ซึ่งมีเฉพาะในรุ่น Play เท่านั้น โดยในรุ่นนี้เค้าจะมีกล่องสีชมพูเหมือนในรูปมาให้ 1 กล่อง ภายในนั้นจะมี ซิมการ์ด และอแดปเตอร์สำหรับเสียบเข้ากับพอร์ต OBD ll จากนั้นให้โหลดแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า “ Play Connect ” ในสมาร์ทโฟน เพียงเท่านี้เราก็จะทราบตำแหน่งของรถได้แบบเรียลไทม์ และยังสามารถดูความผิดปกติของตัวรถ รายงานการขับรถ กำหนดขอบเขตการใช้รถ ได้อีกด้วยครับ
ในส่วนของเครื่องยนต์ ใช้เป็นเครื่องยนต์รหัส 3NR-FKE 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-iE 1,197 ซีซี 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 109 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock
สำหรับการขับขี ในเรื่องของอัตราเร่ง ก็เหมือนกับยาริสรุ่นธรรมดาเลยครับ เพราะใช้เครื่องยนต์เดียวกัน และถึงแม้ว่าตัวถังจะใหญ่ แต่ในช่วงที่ขับออกตัว เราไม่ต้องเค้นคันเร่งเลยครับ เพียงแค่อยู่ในตำแหน่งเกียร์ D ปล่อยเบรกและแตะคันเร่งเบาๆ รถก็เคลื่อนที่ให้แล้วครับ การไต่ระดับความเร็วก็เช่นกัน เพียงแค่แตะคันเร่งลึกไปอีกหน่อยตัวรถก็พร้อมที่จะไหลออกแบบไร้แรงหน่วง การขับลอยตัวที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. ใช้รอบเครื่องอยู่ที่ประมาณ 1,900 รอบต่อนาที และหากเราเพิ่มความเร็วในการลอยตัวเป็น 120 กม./ชม. ก็จะใช้รอบเครื่องอยู่ที่ประมาณ 2,100 รอบต่อนาที ซึ่งรอบเครื่องประมาณนี้ ถือว่ากำลังดีเลยครับ แต่ถ้าเราขับในโหมดเกียร์ S รอบเครื่องยนต์ก็จะสูงขึ้นมาอีก การขับขี่จะสนุกเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่มากขึ้นด้วย
การเก็บเสียง ก็ทำได้ดีเช่นเดียวกันครับ ถ้าใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. แทบจะไม่ได้ยินเสียงลมเข้ามาในห้องโดยสารเลย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเค้าใช้กระจก Acoustic Glass ช่วยลดเสียง แต่ถ้าใช้ความเร็วมากกว่านั้น ก็จะเริ่มได้ยินเสียงลมบ้างเล็กน้อย
การทรงตัว ที่ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. บนทางด่วนบูรพาวิถี ที่ขึ้นชื่อเรื่องลมแรง ก็ทำได้ดีไม่ขี้เหร่ครับ เรายังบังคับตัวรถให้อยู่ในการควบคุมได้ เปลี่ยนเลนได้ปลอดภัยไม่มีอาการท้ายปัด
ส่วนเรื่องของเทคโนโลยีความปลอดภัย ก็ไม่น้อยหน้าครับ มีระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense มาให้ด้วย เช่น ระบบเตือนเมื่อขับออกนอกเลน (Lane Departure Alert) หากเราขับออกนอกเลนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว จะมีสัญญาณเตือนที่หน้าปัด พร้อมกับเสียงเตือน เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่รู้ตัว แต่ถ้าเรารำคาญเสียง ก็สามารถกดปิดระบบนี้ได้ครับ และถ้าเราขับจี้ท้ายรถคันหน้ามากเกินไป ระบบเตือนก่อนชน (Pre-Collision System) จะทำงาน โดยเราสามารถตั้งระยะความห่างได้ 3 ระดับครับ
สำหรับอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ผมขับจากกรุงเทพฯ-ชลบุรี รถติดบ้างเป็นบางช่วง ในช่วงที่เป็นทางโล่ง มีเหยียบแบบคิกดาวน์ และใช้เกียร์ S บ้าง ได้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ประมาณ 17-18 กม./ล. ซึ่งก็ถือว่าประหยัดน้ำมันในระดับนึง ซึ่งหากใช้งานปกติทั่ว รถคันนี้สามารถทำอัตราประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.3 กม./ล. เลยครับ
สรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่า Toyota Yaris Play รุ่นพิเศษที่มีเพียงแค่ 1,500 คัน เป็นรถที่โดดเด่นดีครับ โดยเฉพาะสีตัวถัง ชมพู Ice Pink Metallic มีเทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense มาให้ มีถุงลมนิรภัยให้ถึง 7 ใบ และที่พิเศษไปมากกว่านั้นคือได้กล้องมุมมอง 360 องศา และ PLAY Connect car telematics และโตโยต้ายังเป็นรถที่ขึ้นชื่อเรื่องความ อึด ถึก ทน ศูนย์บริการเยอะ อะไหล่หาง่าย หากท่านใดที่กำลังมองหารถอีโคคาร์ไว้ใช้งาน รุ่นนี้ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ราคา Yaris Ativ Play (4ประตู)
- Ativ Play Sport Premium 699,000 บาท
- Ativ Play Sport 624,000 บาท
ราคา Yaris Play (5ประตู)
- Play Sport Back Roof (หลังคาดำ) ราคา 716,000 บาท
- Play Sport ราคา 634,000 บาท
หมายเหตุ สำหรับสีพิเศษ Ice Pink Metallic และสี Platinum White Pearl ราคาบวกเพิ่ม 7,000 บาท (ยกเว้น Yaris Play รุ่น Sport Premium with Black Roof ราคารวมสีพิเศษแล้ว)
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น