รีวิว Daihatsu Taft 660 G Turbo เครื่องเล็ก แต่พ่วงเทอร์โบ ใครเห็นเป็นต้องมอง

Daihatsu Taft 660 G Turbo รถ Kei Car สายลุย ที่มาพร้อมกับความน่ารัก และเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบครบครัน แม้เครื่องยนต์แค่ 660 ซีซี แต่มีเทอร์โบพ่วงมาให้ด้วย บอกเลยว่า เล็กพริกขี้หนู

วันนี้ออโต้สปินน์พาทุกท่านมาอยู่กับรถเคคาร์ญี่ปุ่นอีกหนึ่งรุ่น คือ Daihatsu Taft 660 G Turbo รถที่ใครได้เห็นเป็นต้องเหลียวมองจนคอแทบเคล็ด ด้วยดีไซน์ที่สวยงามมีเอกลักษณ์ โดดเด่นไม่ซ้ำใคร เล็ก กะทัดรัด เรียกได้ว่า ถ้าใครได้เห็นแล้ว ต้องอยากรู้แน่ๆว่าเจ้าคันนี้ราคาเท่าไหร่ ซื้อได้ที่ไหน และได้ออปชันอะไรบ้าง

รับชมรีวิวรูปแบบวีดีโอ ได้ที่นี่

Daihatsu Taft 660 โฉมนี้เปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงประมาณกลางปี 2020 ที่ผ่านมา โดยมีรุ่นย่อยให้เลือกหลักๆ 3 รุ่น คือ X ,G และ G Turbo ซึ่งแต่ละรุ่นย่อยออปชั่นที่ได้ก็จะแตกต่างกัน รวมไปถึงเครื่องยนต์ก็จะมีให้เลือกทั้งเครื่อง NA และ Turbo สำหรับการรีวิวในครั้งนี้ ผมได้นำ Daihatsu Taft 660 รุ่น G Turbo มารีวิวให้กับแฟนๆออโต้สปินน์ได้ชมกันครับ

Daihatsu Taft 660 G Turbo ดีไซน์ภายนอก

Daihatsu Taft 660 G Turbo มีมิติตัวถัง ความกว้าง 1,475 มม. สูง 1,630 มม. และ มีความยาว 3,395 มม. เล็กกะทัดรัด ดูสมส่วนน่าใช้งาน

กระจกหน้ารถบานใหญ่ พร้อมกับกล้องที่อยู่ด้านบน ซึ่งกล้องตัวนี้ถือเป็นพระเอกของระบบความปลอดภัยเลยก็ว่าได้ เพราะทำงานให้กับระบบความปลอดภัยหลายระบบเช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน หรือ Adaptive Cruise control ระบบป้องกันรถออกนอกเลน ระบบตรวจจับสัญลักษณ์จราจร ระบบเบรกฉุกเฉิน เป็นต้น

ไฟหน้า Full LED มีระบบ เปิด-ปิด แบบอัตโนมัติ เมื่อเปิดไฟหรี่ แถบไฟสามขีดที่อยู่ด้านข้างของโคมไฟจะเป็นสีขาวนวล

ฝากระโปรงหน้าปิดทึบ มีเหลี่ยมสันที่รับเข้ากับไฟหน้าและชุดแก้มข้าง ตรงกลางฝากระโปรงเป็นโลโก้ Daihatsu และชื่อรุ่น Taft ส่วนกันชนหน้ามีช่องสำหรับระบายอากาศ ชายล่างสีดำ และตำแหน่งของไฟตัดหมอก กับเซนเซอร์หน้าจะอยู่ติดกับคิ้วซุ้มล้อ

หากมองจากด้านข้าง เราจะนึกถึงรถ Mini SUV แม้ตัวรถจะเล็กกะทัดรัด แต่หลังคาก็สูงโปร่ง กระจกบานข้างขนาดใหญ่ มีราวหลังคา สำหรับการต่อเติมใส่แร็คขนสัมภาระในอนาคต มือเปิดประตูสีเทา กระจกมองข้างพับและปรับได้ด้วยไฟฟ้า และยังโดดเด่นด้วยคิ้วซุ้มล้อสีดำด้าน พร้อมกับชายล่าง ที่ดูตัดกับสีของตัวรถได้อย่างลงตัว

ล้ออัลลอยสีเทาเข้มขนาด 15 นิ้ว ลาย 6 ก้าน ออกแนวลุยๆ รัดด้วยยางขนาด 165/65R15 ดูแล้วเข้ากันได้ดีกับตัวรถ

กระจกท้ายรถบานใหญ่ไร้มุมอับสายตา มีเส้นไล่ฝ้า และที่ฉีดน้ำล้างกระจกพร้อมกับที่ปัดน้ำฝนหลัง ไฟท้ายใช้หลอด LED แต่ไฟถอยและไฟเลี้ยวใช้หลอดไฟฮาโลเจน มีกล้องมองหลัง พร้อมเซนเซอร์ถอย มีไฟทับทิมหลัง และชุดดิฟฟิวเซอร์สีดำด้าน ที่ช่วยเสริมให้ตัวรถมีความสวยงามยิ่งขึ้น

Daihatsu Taft 660 G Turbo ดีไซน์ภายใน

พื้นที่เก็บสัมภาะระท้ายรถ เมื่อพับเบาะหลัง บอกได้เลยว่าบรรทุกของได้เยอะมากๆครับ อีกทั้งยังมีแผ่นรองกันรอยมาให้ด้วย และที่สำคัญคือเบาะพับได้เรียบ ซึ่งตรงจุดนี้ผมชอบมากครับ

แม้ภายนอกจะดูเล็กกะทัดรัด แต่บอกเลยว่าภายในกว้างขวาง นั่งสบายมาก เบาะคู่หน้าหุ้มด้วยผ้า เดินด้ายเย็บสีส้ม และที่เจ๋งไปกว่านั้นคือ เบาะคู่หน้ามีฮีตเตอร์มาให้ด้วยครับ เพราะรุ่นนี้เป็นโฉมที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ช่วงหน้าหนาวจะหนาวมาก และในบางเมืองของประเทศญี่ปุ่น จะมีหิมะตก การใส่เบาะฮีตเตอร์มาให้ จึงเป็นเรื่องปกติของที่นั่นครับ

พวงมาลัยหุ้มหนัง จับถนัดกระชับมือ ปุ่มมัลติฟังก์ชันฝั่งซ้ายสำหรับควบคุมจอเครื่องเล่นตรงกลาง ส่วนปุ่มฝั่งขวาสำหรับตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน

จอเรือนไมล์แบบเข็ม แสดงค่าต่างๆเกี่ยวกับตัวรถ และรุ่นนี้ยังเน้นวัสดุตกแต่งที่เป็นสีส้มอีกด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นกรอบเรือนไมล์ กรอบแอร์ กรอบคอนโซลเกียร์ ก็เป็นสีส้มทั้งหมด

คอนโซลแอร์ถูกออกแบบให้เป็นแนวตั้ง ซึ่งก็ดูแปลกตาดีครับ ส่วนแอร์เป็นระบบออโต้ มีปุ่มสำหรับเปิด-ปิด ฮีตเตอร์ของเบาะคู่หน้า มีช่องจ่ายไฟ 12V และช่องเสียบ USB มาให้ด้วยครับ

จอเครื่องเล่นตรงกลางแบบทัชสกรีน เป็นแบบ Smart Device Link รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ดูแผนที่นำทางได้ และถ้าเราอยู่ในตำแหน่งเกียร์ R จะแสดงภาพเป็นกล้องถอย ช่วยให้การถอยจอดสะดวกยิ่งขึ้น

มีระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมกับ Auto brake hold และมีช่องสำหรับวางของอีกมากมาย

หลังคาครึ่งหน้าเป็นกระจก เปิด-ปิดได้เฉพาะตัวม่านกันแดดใต้หลังคาเท่านั้น แต่ตัวกระจกไม่สามารถเปิดได้

เบาะหลังสีจะอ่อนกว่าเบาะหน้าเล็กน้อย หุ้มด้วยผ้า นั่งแล้วรู้สึกกระชับ ฟองน้ำนุ่มกำลังดี ภายในกว้าง นั่งสบาย กระจกข้างบานใหญ่ ทำให้นั่งแล้วรู้สึกไม่อึดอัด มีพื้นที่ให้ขยับแข้งขยับขาได้เยอะเลยทีเดียว

ในส่วนของเครื่องยนต์ Daihatsu Taft 660 G Turbo ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 660 ซีซี พ่วงด้วยเทอร์โบ ให้พละกำลังสูงสุด 64 แรงม้า ที่ 6400 รอบ/นาที แรงบิด 100 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT

ทดสอบขับขี่ Daihatsu Taft 660 G Turbo

Daihatsu Taft 660 G Turbo หากมองที่ขนาดเครื่องยนต์ หลายท่านคงเกิดคำถามเดียวกันว่า จะวิ่งไหวหรอ เครื่องแค่ 660 ซีซี ซึ่งคำถามนี้ก็เคยอยู่ในหัวของผมเหมือนกัน แล้วทุกอย่างก็มากระจ่าง ในวันที่ผมได้ทดลองขับ แม้ Daihatsu Taft เครื่องยนต์จะแค่ 660 ซีซี แต่อย่าลืมนะครับ ว่าเค้ามีเทอร์โบพ่วงมาให้ด้วย กับน้ำหนักตัวรถเพียงแค่ประมาณ 8 ร้อยกว่ากิโลกรัม จึงไม่ใช่เรื่องยากกับการที่จะทำให้รถคันนี้ขับเคลื่อนไปได้

ในขณะที่ออกตัว เพียงแค่อยู่ในตำแหน่งเกียร์ D แล้วยกเท้าออกจากเบรก ตัวรถก็พร้อมที่จะเคลื่อนที่แบบไร้แรงหน่วง ผมได้ลองกดคันเร่งแบบเต็มเท้า เพื่อทดสอบอัตราเร่งช่วงต้น ผลที่ออกมาคือ เทอร์โบทำงานไว ไม่ต้องรอบูสนาน เพราะเทอร์โบลูกนิดเดียว บูสมาไวพอๆกับแรงเท้าที่กดคันเร่ง ตัวรถพุ่งตามแรงเท้า สามารถไต่ระดับความเร็วได้เรื่อยๆ ไม่ได้รู้สึกอืดเลย แต่ก็ไม่ถึงกับแรงจนหลังติดเบาะนะครับ และอีกหนึ่งสิ่งที่สัมผัสได้คือเสียงของเครื่องยนต์ ที่ดังเข้ามาในห้องโดยสาร พร้อมกับเสียงของโบออฟวาล์ว ที่ดังฟิ่ววว… เบาๆในจังหวะที่ยกคันเร่ง ได้อารมณ์ความซิ่งเลยล่ะครับ

Daihatsu Taft 660 G Turbo เป็นรถที่เหมาะสำหรับการขับยืนพื้นที่ความเร็วประมาณ 90-100 กม./ชม. หรือใช้ความเร็วมากกว่านั้นได้ในจังหวะที่เร่งแซง ถ้าถามว่าขับเกิน 120 กม./ชม. ทำได้มั้ย คำตอบคือทำได้ครับ แต่ไม่แนะนำ เพราะซีซีน้อย หากเค้นกำลังเครื่องจนเกินจุดลอยตัว จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักจนเกินไป และจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยใช่เหตุ แต่ถ้าขับยืนพื้นไปเรื่อยๆ มีซิ่งบ้างเป็นบางจังหวะ ไม่ว่าจุดหมายปลายทางจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ไปไหวแน่นอนครับ

การเข้าโค้ง และการทรงตัวในขณะทำความเร็ว ต้องเข้าใจก่อนว่ารถคันนี้ เป็นรถประหยัดพลังงาน ไม่ได้เน้นซิ่งเหมือนรถสปอร์ต หากเป็นทางโค้งทั่วไป ก็เข้าโค้งได้ปกติ ไม่มีอาการหลุด หรือท้ายปัด แต่ถ้าโค้งลึกเกิน ก็ต้องใช้เบรกช่วยครับ เพราะล้อมีขนาดหน้ากว้างที่ไม่มากนัก คงไม่เหมาะกับการขับเข้าโค้งแบบเร็วๆสักเท่าไหร่

ในส่วนของระบบความปลอดภัย ที่ต้องพูดถึงเลยก็คือระบบ ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน เราสามารถตั้งระยะห่างระหว่างรถเรากับรถคันหน้าได้ 3 ระดับ หากรถคันหน้าเบรก รถเราก็เบรกตาม หากรถคันหน้าเคลื่อนที่ รถเราก็เคลื่อนที่ตามจนถึงลิมิตความเร็วที่เราตั้งเอาไว้ จากการทดสอบ ระบบนี้ก็พอใช้งานได้ครับ แต่ยังไม่ค่อยสมูท นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยอื่นๆอีกเช่น ระบบป้องกันรถออกนอกเลน ระบบตรวจจับสัญลักษณ์จราจร และ Daihatsu Taft ในโฉมนี้ยังได้พัฒนา ระบบ Smart Assist เวอร์ชั่นใหม่ เพิ่มขอบเขตการตรวจจับคนเดินเท้าเวลากลางคืน กับจักรยานเพิ่ม โดยทำงานควบคู่กับระบบเบรกฉุกเฉิน หากพบความเสี่ยงต่อการถูกชน

สรุปโดยรวมแล้ว Daihatsu Taft 660 G Turbo เป็นรถที่ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นออนโรด หรือออฟโรดแบบเบาๆ ก็เอาอยู่ โดดเด่นเมื่อวิ่งอยู่บนท้องถนน ใครเห็นเป็นต้องเหลียวมอง ใช้งานได้ทั้งในเมืองที่รถติดๆ คันเล็กกะทัดรัดหาที่จอดง่าย หรือจะใช้งานนอกเมือง ก็ไปไหวแน่นอนครับ เครื่องยนต์ 660 ซีซี เทอร์โบ แต่อัตราเร่งถือว่าแรงใช้ได้เลย ไม่อืดอย่างที่คิด ในราคาค่าตัว 1,590,000 บาท