อาการนอนไม่พอ แล้วมาขับรถจนเกิดอุบัติเหตุมีให้เห็นเป็นจำนวนมาก สาเหตุเพราะความประมาทที่หลายๆ คนเพราะคิดว่าสามารถควบคุมอาการง่วงได้ หลับในขณะขับรถ อันตรายถึงชีวิต
หลับในขณะขับรถ อันตรายถึงชีวิต
จากข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุจากการหลับในขณะขับรถ กรมทางหลวง ในช่วง 10 ปีย้อนหลังพบว่า การหลับใน เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ 4% ของจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
ถามว่า อาการหลับใน คืออะไร?
ข้อมูลจากมูลนิธิไทยโรดส์ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระบุว่า สมองมีกลไกควบคุมการหลับและการตื่นในส่วนที่เรียกว่า “ไฮโปธาลามัส” ส่วนสำคัญส่วนนี้จะทำหน้าที่ควบคุมจังหวะการตื่นและการนอนตลอดระยะเวลา 24 ชั่วโมง โดยปัจจัยของเวลาและความอิ่มท้องจะเป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นที่จะส่งผลให้มนุษย์รู้สึกตื่นตัวหรือง่วงนอน
อาการหลับใน เป็นการหลับในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงชั่ววูบเดียว เป็นภาวะที่ร่างกายมีการทำงานลดลง หรือช้าลง เป็นการสับสนระหว่างการหลับในและการตื่น โดยมีการหลับเข้ามาแทรกการตื่นอย่างเฉียบพลันโดยไม่รู้ตัวในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียง 1-2 วินาที
นอกจากนี้ กรมสุขภาพจิตระบุว่า “การหลับใน” เป็นอันตรายเช่นเดียวกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะผลต่อการทำงานของสมองส่วนประมวลผล (brain processing) ทำให้การตัดสนใจแย่ลง (Impair judgment) การตอบสนองช้าลง (slower reflexes) หมายความว่าหากเราอดนอน 17- 19 ชั่วโมงแล้วไปขับรถก็เท่ากับว่าทำผิดกฎหมาย
วิธีป้องกันการหลับใน
- นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ 7-9 ชั่วโมง
- ทานอาหารแต่พอดี
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ก่อนเดินทางไม่ควรกินยาที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงซึม
- จิบน้ำบ่อย ๆ อย่าให้ขาดน้ำ
ในการเดินทางไกล เราสามารถหยุดพักเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และควรเตรียมอาหารแก้ง่วงระหว่างขับ เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว ลูกอมฯลฯ จะช่วยกระตุ้นร่างกายให้สดชื่น หากไม่ไหวจริง ๆ ให้หาที่ปลอดภัยจอดรถนอนพัก 10-15 นาทีก่อนไปต่อ
ที่มา ส.ส.ส.,มูลนิธิไทยโรดส์
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น