มินิ เป็นรถที่ประสบความสําเร็จ มากที่สุดอีกหนึ่งรุ่น และหนึ่งในความสำเร็จอีกรุ่นสำหรับมินิ เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2507 (ค.ศ.1964) เมื่อ Paddy Hopkirk นักแข่งชาวไอร์แลนด์เหนือ ที่ได้แข่งแรลลี่ระดับโลกที่ Monte Carlo ได้แชมป์ ในปี 1964 และวันนี้รถในตำนานกลับมาอีกครั้ง
MINI Cooper S "Paddy Hopkirk Edition"
มินิ เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีประวัติ อันยาวนานและมีออกจัดจำหน่ายหลากหลายรุ่น แต่หนึ่งในรุ่นที่เป็นตำนานความสำเร็จคือ MINI ที่ Paddy Hopkirk ใช้ในการแข่งขันได้แชมป์ Monte Carlo Rally ประจำปี 1964 และเพื่อเป็นการให้เกียรติ กับเจ้าตำนานทาง MINI จึงได้สร้างรถ MINI Cooper S "Paddy Hopkirk Edition" ขึ้นมา
ความพิเศษสำหรับรุ่นนี้คือ เป็นรุ่นเกียร์ธรรมดาและนำมาจัดจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 37 เท่านั้น และมีราคาพิเศษเพียง 2,555,000 บาท เหมาะกับการเก็บสะสมเป็นอย่างมาก ซึ่งบอกได้เลยว่าพิเศษตั้งแต่จำนวนที่น้อยยังไม่พอ เกียร์ธรรมดานั้นยิ่งหายากเข้าไปอีก
สิ่งที่รุ่น Paddy Hopkirk Edition พิเศษและแตกต่างจากCooper S
- เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ 6MT
- ตัวเลข 37 ที่ประตูรถสองด้าน
- สีตัวถังภายนอก สีแดง Chili Red (มีสีเดียวในการจำหน่าย)
- หลังคาสีขาว
- สติ๊กเกอร์คาดฝากระโปรงหน้า สีขาว
- ไฟ Spotlight บริเวณด้านหน้าตัวรถ
- ลายเซ็น Paddy Hopkirk บริเวณสติ๊กเกอร์คาดฝากระโปรงหน้า
- ลายเซ็นPaddy Hopkirk ที่กาบบันได
- ลายเซ็นPaddy Hopkirk ท้ายรถ
- ลายเซ็น Paddy Hopkirk ที่แดชบอร์ดหน้า
- กญแจรีโมท 3D Printer ตัวเลข 37
เครื่องยนต์เดียวกับ Cooper S
เครื่องยนต์เบนซิน B48A20 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 1,998 ซีซี. เทอร์โบ TwinPower Turbo กกำลังสูงสุด 192 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350 – 4,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD
ทดสอบ MINI Cooper S Paddy Hopkirk Edition
สำหรับการทดสอบในครั้งถือว่าพิเศษมาก เพราะในตอนแรกคิดว่าจะไม่มีรถให้ทดสอบด้วยจำนวนรถที่น้อย ในการจัดจำหน่ายเพียง 37 คันเท่านั้น แต่ก็ได้มา ความรู้สึกแรกสำหรับนักทดสอบคือ เกียร์ธรรมดา กับรถปี 2021 ซึ่งหาได้ยากมากๆ ถ้าคุณมองหาจากรถป้ายแดงแทบจะไม่มี นอกจากรถกระบะ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นมาก
ภายนอกรถไม่ได้แตกต่างจาก cooper ทั่วไปมากนักที่โดดเด่นเลยคือตัวเลขขนาดใหญ่ข้างประตู 37 เด่นชัด เพื่อบ่งบอกว่าเป็นหมายเลขในการแข่งขันแรลลี่ ด้านหน้าเส้นคาดสีขาวหน้ารถพร้อมลายเซ็น ก็เป็นอีกจุดเด่น ไฟหน้าSpotlight ทำให้ตัวรถดูเป็นตัวแข่งได้มาก
ด้านในรถไม่แตกต่างเลยจาก cooper สัมผัสแรกในการขับขี่ กับเกียร์ธรรมดาในยุคใหม่ ขับง่ายมากๆครัชสั้นมากเกียร์ก็ชิดมากเช่นเดียวกันทำให้ขับง่าย เหยียบครัชเบาปล่อยดีๆไม่เหยียบคันเร่งรถก็ไม่ดับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากรถมีกำลังเพียงพอที่ทำให้รถไม่ดับ ด้วยเครื่องยนต์ 192 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร เพียงพอกับการพอรถคันเล็กอย่างมินิ เดินทางได้อย่างคล่องตัว ในเมือง ไม่ได้รู้สึกว่าเหนือยในการขับเกียร์ธรรมดาในเมืองแต่อย่างไร
ออกนอกเมืองทดสอบความเร็วเเละโหมดการขับขี่ต่างๆ วิ่งในความเร็วสูงแน่นอนไว้ใจกับช่วงล่างที่ควบคุมได้อย่างง่ายดายพวงมาลัยคม แม้ในความเร็วสูงรถก็ยังให้การเกาะถนนที่ดีเยียม อีกสิ่งที่ดีสำหรับ Paddy Hopkirk คือยางที่มีความหนาล้อขนาด 17 นิ้ว ทำให้การใช้งานต่างๆของรถนั้น ในชีวิตไม่แข็งเกินไปถ้าเทียบกับ cooper S ซึ่งกระด่างกว่า แม้ว่าช่วงล่างปรับไม่แต่แต่ก็ยังคงความสนุกในการขับขี่เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจได้ทุกโค้ง แต่ในส่วนของเรื่องการเก็บเสียงแน่นอนว่ามันไม่ได้ดีมากนัก
โหมดในการขับขี่นั้นแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ทั้งเครื่องยนต์และพวงมาลัย แต่ในส่วนของช่วงล่างนั้นไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร ปรับที่โหมด Sport ทดสอบออกตัว สับโดด ด้วยนิสัยรถชับหน้า แต่ปัญหาคือระบบช่วยเหลือ DSC ป้องกันล้อฟรีเข้ามาทำงาน ทำให้รถเสียอาการ ต่อให้ปิดระบบออก ก็ยังจะเข้ามาช่วยอยู่ดีแต่น้อยลงดังนั้นถ้าสายซิ่งคงต้องอยู่กับรถจับจังหวะให้ดีถึงจะได้อัตราเร่งที่ดีที่สุด เสน่อีกอย่างของเครื่องเล็กที่ให้กำลังสูงจากมินิคือ เมื่อคุณอยู่ในโหมด sport กดคันเร่งสุดแล้วสับเกียร์เสียงจากท่อไอเสีย ปุ่งบัง ก็ดังเล็กน้อยได้อารมณ์รถสปอร์ตมากๆ ยิ่งเป็นการเพิ่มอารมณ์ในการขับขี่ได้อย่างดียิ่ง
สรุป MINI Cooper S Paddy Hopkirk Edition
เป็นรถที่ควรค่าแก่การสะสมถ้าคุณเป็น แฟนมินิ เพราะแน่นอนว่าต่อจากนี้คงมีแต่รถไฟฟ้าแล้ว และอีกสิงนึงที่สำคัญคือ เกียร์ธรรมดา ซึ่งถามเด็กยุคใหม่ขับเป็นไหมหรือเคยเห็นไหมคงตอบว่าไม่เคยเพราะทุกอย่างจะค่อยๆหายไปจากตลาด
แน่นอนสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับ Paddy Hopkirk นั้นมีไม่มากนักแต่ก็ไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่รักในการขับขี่มากกว่า เสน่ห์ของมินิ เป็นที่รู้กันดีว่าเรื่องการขับขี่เป็นหลัก และPaddy Hopkirk ก็เป็นหนึ่งในรถที่ขับขี่ดีที่สุดอีกหนึ่งคัน ถ้าเทียบกับ cooper S
MINI Cooper S Paddy Hopkirk Edition ค่าตัว 2,555,000 บาท จำหน่ายเพียง 37 คัน
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น