รถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจตั้งแต่ก่อนเปิดตัว น้องแมวเหมียว จากแบรนด์รถยนต์ใหม่ล่าสุดในประเทศไทย ORA Good Cat ที่เปิดจองครั้งแรกก็มียอดแล้วมากกว่า 4,296 คัน ภายใน 24 ชม. ทั้งที่ยังไม่ได้เปิดราคาอย่างเป็นทางการ
2022 ORA Good Cat EV
ORA Good Cat เปิดตัวอย่างเป็นทางการและจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยในวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป โดยมีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่
การออกแบบภายนอก (Exterior Design)
ORA Good Cat มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกอันล้ำสมัยแต่แฝงไปด้วยความคลาสสิกเหนือกาลเวลาภายใต้คอนเซ็ปต์ Retro Futuristic พร้อมสะท้อนตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์เมื่ออยู่บนท้องถนน
- ไฟหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ แบบ LED เต็มรูปแบบในรูปทรง Cat Eye ที่โดดเด่นเฉพาะตัวพร้อม Daytime Running Light และไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home
- ไฟท้าย LED Tail light Strip ไฟหลังมาในดีไซน์พาดยาวซ้ายจรดขวา พร้อมไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกหลังแบบ LED
- กระจังหน้าเหนือกาลเวลา กระจังหน้าในดีไซน์สุดคลาสสิกพร้อมระบบ Active Air Intake
- ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต : ขนาด 18 นิ้ว สำหรับรุ่น PRO และ ULTRA ขนาด 17 นิ้ว สำหรับรุ่น TECH
- มิติตัวรถที่ขนาดกว้างขวาง ORA Good Cat ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถ ในมิติตัวรถ 1,825 x 4,235 x 1,596 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2,650 มม. ยาวที่สุดในระดับเดียวกัน และการออกแบบระบบกันสะเทือนหน้า แบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทและหลังแบบทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลง ให้การขับขี่ที่ยึดเกาะถนนและนั่งสบายเพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคนในครอบครัว
การออกแบบภายใน (Interior Design)
ORA Good Cat โดดเด่นด้วยการออกแบบอย่างประณีตภายใต้แนวคิด “Intelligent Cockpit with Exquisite Craftsmanship” ผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ดึงดูดทุกสายตา โดดเด่นทุกสัมผัส
- หน้าจอ Interactive Double Screen หน้าจอพาดยาวบริเวณคอนโซลของตัวรถมีขนาด 17.25 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูง แบ่งออกเป็น หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิตอล (Full TFT) ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอระบบมัลติมิเดียพร้อมระบบสัมผัส ขนาด 10.25 นิ้ว
- ลำโพงรอบทิศทาง จำนวน 6 ตัว
- ระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ สามารถควบคุมการใช้งานฟังก์ชันได้ตลอดเวลาด้วยเสียง สามารถทำให้ได้รับบริการอย่างที่ต้องการ สามารถควบคุมเครื่องปรับอากาศ ซันรูฟ ระบบนำทาง และมัลติมีเดีย ได้ในประโยคเดียว โดยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการขับขี่ทำให้เกิดความปลอดภัย แบบไร้กังวล
- การเชื่อมต่อโครงข่ายระยะไกล ช่วยให้สามารถควบคุมการเปิด-ปิดการชาร์จ เครื่องปรับอากาศ ปิดหน้าต่าง ได้จากระยะไกล และสามารถดูสถานะของรถรถได้ผ่านระบบ GWM Application
- วัสดุภายในห้องโดยสารให้สัมผัสที่สบาย โดยใช้วัสดุที่มีคุณภาพในการตกแต่งภายในด้วยดีไซน์ที่สวยงาม ให้สัมผัสที่นุ่มนวลกับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ช่วยให้ความรู้สึกสบาย มีความยืดหยุ่นสูงและสัมผัสที่นุ่มนวล
มิติใหม่แห่งสุนทรียภาพในการขับขี่
- เบาะที่นั่งที่ถูกออกแบบมาอย่างถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ และตกแต่งอย่างประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด
- เบาะที่นั่งปรับไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชั่น Welcome Seat ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้า-ออกจากรถได้อย่างง่ายดาย
- ระบบเบาะนวดไฟฟ้า เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่
- หลังคาพาโนรามิคซันรูฟอัจฉริยะ เพิ่มพื้นที่แสงสว่าง และเปิดมุมมองรับชมวิวทิวทัศน์ได้มากยิ่งขึ้น
- ฟังก์ชั่นอินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิงในรถยนต์ อาทิ การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน ฟังเพลง วิดีโอ
สร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายภายในห้องโดยสาร
- ระบบ Cockpit Cleaning System พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5 ช่วยเปิดการไหลเวียนของอากาศจากภายนอกจากระยะไกลเพื่อระบายอากาศโดยอัตโนมัติ และสามารถช่วยลดปริมาณฝุ่น PM2.5 เมื่อเข้าสู่ห้องโดยสาร
- เบาะที่นั่งหลังสามารถพับลงได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดถึง 858 ลิตร
- เกียร์ระบบ Electronic Shifter เพื่อลดขนาดพื้นที่คอนโซลกลางให้มีความทันสมัย หรูหรา
- ระบบชาร์จไร้สาย (Wireless Charging)
ฟังก์ชั่นอัจฉริยะ (Intelligent Functions)
ORA Good Cat มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ เช่น ระบบความบันเทิงในรถยนต์ ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ และเทคโนโลยีสำหรับการขับขี่อันล้ำสมัยอีกมากมาย อาทิ
การอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA)
ระบบดังกล่าวมาพร้อมกับความสามารถในการอัปเกรดเฟิร์มแวร์สำหรับการควบคุมระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกำลัง ระบบการขับขี่อัจฉริยะต่างๆ รวมถึงระบบ Infotainment และระบบควบคุมอื่นๆ ภายในรถยนต์ได้อย่างง่ายดายผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA)
การตอบโต้ด้วยเสียงอัจฉริยะผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence)
มีความสามารถในการจดจำเสียงได้เป็นอย่างดี จึงสามารถช่วยลดการใช้งานจากการกดปุ่ม เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ โดยผู้ขับขี่สามารถสั่งการและโต้ตอบด้วยเสียงเพื่อใช้งานฟังก์ชันต่างๆ รวมไปถึงการเข้าถึงระบบเอ็นเตอร์เทนเมนท์ภายในรถ
การสั่งการและควบคุมรถจากระยะไกล
- เป็นระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทำงานบางฟังก์ชันของรถยนต์ได้ แม้ผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถ รวมไปถึงการสร้างระบบความปลอดภัยให้กับรถยนต์
- ฟังก์ชันการเข้าถึงข้อมูลแบตเตอรี่รถไฟฟ้า เช่น ระบบตรวจสอบสถานะปริมาณแบตเตอรี่ ระบบตรวจสอบสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ ระบบตรวจสอบระยะทางวิ่งคงเหลือ ระบบช่วยเตือนเมื่อแบตเตอรี่มีปริมาณต่ำ ระบบช่วยเตือนเมื่อแบตเตอรี่มีความร้อนสูง และการค้นหา POI
- ฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถสั่งการและควบคุมได้จากระยะไกล เช่น การควบคุมระบบปรับอากาศ การล็อคและปลดล็อคประตู การค้นหารถยนต์ และสามารถสั่งการปิดหน้าต่าง
- ฟังก์ชันด้านความปลอดภัย ที่สามารถสั่งการและควบคุมได้จากระยะไกล เช่น การแสดงตำแหน่งรถยนต์
- การกำหนดรัศมีการใช้งานรถ และการแสดงผลการตั้งค่าต่างๆ ของรถ
GWM LEMON E PLATFORM
แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะที่สามารถปรับเปลี่ยนและรองรับเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงพัฒนาด้านความปลอดภัย ซึ่ง GWM LEMON E PLATFORM ถูกปรับเพื่อสำหรับใช้งานกับรถไฟฟ้า (BEV) โดยเฉพาะ
แพลตฟอร์มมีน้ำหนักเบา ช่วยให้การขับขี่ดีขึ้นทั้งในแง่ประสิทธิภาพการเร่ง การเบรก และการควบคุมพวงมาลัย
แพลตฟอร์มมีสมรรถนะสูง โดยผ่านการขับทดสอบบนถนนลูกรังกว่า 7,000 กิโลเมตร และมีการทดสอบในสภาวะแวดล้อมแบบสุดขั้วอีก 30,000 กิโลเมตร ช่วยสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย และประสบการณ์ขับขี่อันยอดเยี่ยมในทุกสภาพถนน
สมรรถนะของรถยนต์ ORA Good Cat
- อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที
- สัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.273
- ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 105 kW หรือ 143 PS แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 152 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut) พร้อมเหล็กกันโคลง
- ระบบช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชันบีม (Torsion Beam) พร้อมเหล็กกันโคลง
- ระบบขับขี่ทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่ 1) มาตรฐาน 2) Sport 3) ECO 4) ECO+ และ 5) อัตโนมัติ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับได้เองตามปริมาณแบตเตอรี่ที่คงเหลือ
- ความสามารถการกู้คืนพลังงาน (Energy Recovery) ได้สามระดับ ได้แก่ น้อย, มาตรฐาน และมาก เพื่อการประหยัดพลังงาน
- ระบบตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ เพื่อให้คะแนนพร้อมให้คำแนะนำในการขับขี่
แบตเตอรี่ของรถยนต์ ORA Good Cat
แบตเตอรี่ของ ORA Good Cat มาพร้อมอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยทางไฟฟ้าของรถยนต์กว่า 416 รายการ ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวประสิทธิภาพสูง ระบบตรวจจับ 360 องศา ป้องกันการชนกันของแบตเตอรี่ และระบบเตือนแบตเตอรี่อัจฉริยะ
- แบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 47.788 kWh มีระยะทางวิ่งสูงสุด 400 กิโลเมตร ในรุ่น 400 TECH และ 400 PRO
- แบตเตอรี่ชนิดลิเธียม Ternary (NMC) ความจุ 63.139 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กิโลเมตร ในรุ่น 500 ULTRA
- รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) สูงสุด 60 kW และการชาร์จไฟบ้านแบบ AC 6.6 kW
- ระยะเวลาในการชาร์จ
- ชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0 - 80%) 45 นาที สำหรับรุ่น 400 และ 60 นาที สำหรับรุ่น 500
- ชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (30 - 80%) 32 นาที สำหรับรุ่น 400 และ 40 นาที สำหรับรุ่น 500
- ชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC 8 ชั่วโมง สำหรับรุ่น 400 และ 10 ชั่วโมง สำหรับรุ่น 500
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานขับขี่ได้ในสภาพแวดล้อมอุณหภูมิ -30°C - 55°C
- แบตเตอรี่สามารถชาร์จไฟได้ในสภาพแวดล้อมอุณหภูมิ -20°C - 55°C
- แบตเตอรี่สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติในช่วงความกดอากาศ -150 ถึง 5,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และภายใต้สภาวะความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ 2 - 98%
- แบตเตอรี่มีความสามารถในการป้องกันมาตรฐาน IPX9K และ IP67 ซึ่งสามารถป้องกันน้ำ การกัดกร่อน การชน อัคคีภัย และการกระแทกได้ โดยเมื่อเกิดการกระแทกระบบไฟฟ้าจะตัดการทำงานภายใน 0.1 วินาที เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- เซลล์แบตเตอรี่ถูกห่อหุ้มด้วยกล่องที่มีความแข็งแรงในระดับ 3 มิติ พร้อมมีการควบคุมอุณหภูมิและระบบระบายความร้อน
ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย (Driver Assistance and Safety Systems)
สำหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติในระดับ L2+
ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Active Safety)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ที่ประสานกับชิปควบคุมการขับเคลื่อนอัตโนมัติ EYEQ4 ของโมบายอาย ช่วยควบคุมในช่วงความเร็วเต็มพิกัดที่กำหนดไว้ รวมถึงการหยุดและรีสตาร์ทกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า โดยรถจะลดความเร็วลงและหยุดตามคันหน้า และเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัวหลังจากเบรคภายใน 3 วินาที รถของเราจะเคลื่อนตัวตามคันข้างหน้าอัตโนมัติ โดยจะมีระยะห่างการติดตาม
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (ICA) ทำงานตามความเร็วที่ผู้ขับขี่ตั้งเอาไว้ แต่จะตรวจจับรถคันหน้าเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) เป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อใช้ความเร็วต่ำ โดยสามารถควบคุมรถให้ติดตามรถด้านหน้าหรือขับต่อไปด้วยความเร็วคงที่เพื่อลดภาระของผู้ขับขี่
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ถือเป็นหนึ่งในระบบที่ดีทีสุดในระดับ L2+ ที่มาพร้อมระบบการตรวจจับคนเดินถนน และทางแยก โดยสามารถคำนวณระยะทางระหว่างรถและคนเดินถนนได้แบบเรียลไทม์ มีสัญญาณเตือนด้วยเสียงและการเบรกอัตโนมัติช่วยหลีกเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทก
- การเบรกฉุกเฉินความเร็วต่ำ เมื่อเรดาร์ทำงาน จะตรวจสิ่งกีดขวางทั้งที่หยุดนิ่งหรือคนเดินถนนที่เคลื่อนที่ในแนวถอยจอดและหากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชน ระบบจะช่วยเบรคให้อัตโนมัติ โดยความเร็วขณะถอยจะไม่ต้องเกิน 8 กม./ชม.
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ช่วยควบคุมพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน โดยจะระบุเส้นแบ่งเลนถนนผ่านกล้องที่กระจกหน้ารถ เมื่อคนขับเบี่ยงเลนโดยไม่รู้ตัว ระบบจะช่วยระบบจะช่วยควบคุมพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน เมื่อระบบตรวจสอบพบว่าผู้ขับขี่มีลักษณะการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย ระบบจะแจ้งเตือนด้วยเสียง
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) แจ้งเตือนเมื่อรถกำลังออกนอกเลน เมื่อรถเบี่ยงออกจากเลนโดยไม่รู้ตัว ระบบจะส่งเสียงเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่มีเวลาตอบสนองมากขึ้น เมื่อผู้ขับขี่มีอาการจาม อ่อนล้า ฯลฯ ซึ่งอาจทำให้รถเบี่ยงออกนอกเลน ระบบจะแจ้งเตือนโดยทันที
- ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ช่วยควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) โดยหากมีการตรวจสอบพบรถอีกคันกำลังแล่นมา หรือมีรถแซงขึ้นมาจากอีกเลนหนึ่ง ระบบจะทำการแทรกแซงการทำงานมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการชน
- ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) โดยระบบจะตรวจสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือรถที่มีขนาดยาว โดยในระหว่างการแซง ระบบจะรักษาช่องว่างระหว่างรถตามระยะที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และจะประคองรถให้กลับสู่เลนเดิมอัตโนมัติ
- การเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent Turn) เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้
- ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) โดยเมื่อออกจากจุดที่หยุดนิ่งบนเนินสูงชัน เบรกจะยังคงค้างอยู่ราว 2 วินาที จนกระทั่งคันเร่งทำงานเพื่อป้องกันการถอยหลัง
- ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) โดยรถจะทำการวัดแรงดันลมยางอย่างต่อเนื่องและเตือนผู้ขับขี่หากมีแรงดันลมยางล้อใดลดลง
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัว มีความละเอียดคมชัด 4 Megapixel โดยระบบจะรวมเอามุมมองภาพทั้ง 4 กล้องมาสร้างภาพที่มีมุมมอง 360 องศา เพื่อแสดงให้เห็นมุมมองของรถในแบบ “เฮลิคอปเตอร์” และเปิดการทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่โหมดการถอยหลัง โดยสามารถดูได้เมื่อขับรถที่ความเร็ว 15 หรือ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและตอนสตาร์ทรถ
- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IAP) ใช้เซนเซอร์และกล้องในการตรวจสอบเพื่อตรวจจับวัตถุและเครื่องหมายบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถและช่วยทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวเฉียง โดยเมื่อระบุช่องว่างที่จะนำรถเข้าจอดแล้ว รถจะทำการจอดด้วยตัวเองด้วยการควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) เซนเซอร์ช่วยตรวจสอบจุดอับสายตาด้านหลังของตัวรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของช่องทางเดินรถในขณะถอยหลัง เมื่อกำลังถอยหลังออกจากช่องจอดเข้าสู่ช่องจราจร เซนเซอร์หลังของรถจะทำการเช็กด้านซ้ายและขวาของช่องจราจรและ ส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียงและภาพ หากผู้ขับขี่ยังเพิกเฉย ไม่หยุดรถ ระบบเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินจะเริ่มทำงานด้วยการลดความเร็วและหยุดรถเพื่อหลีกเลี่ยงการชน
- ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) ช่วยประเมินและวิเคราะห์ลักษณะในการขับขี่ เช่นมุมบังคับเลี้ยว การเบรก การควบคุมไฟส่องสว่าง และใบบัดน้ำฝน ระยะเวลาในการขับ หากพบว่ามีลักษณะการขับขี่ที่เหนื่อยล้า หรือหลังจากขับรถด้วยความเร็วเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขับรถมากกว่า 4 ชั่วโมง ระบบจะเตือนด้วยภาพและเสียงนาน 20 วินาที ทุกๆ 10 นาที โดยสามารถทำการตั้งค่าใหม่ได้ก็ต่อเมื่อทำการหยุดรถเท่านั้นรถจะทำการแจ้งเตือนและแนะนำให้หยุดพัก
ระบบความปลอดภัยเชิงแก้ไข (Passive Safety)
- โครงสร้างตัวถัง ทำจากเหล็กกล้า IronBone™ เหล็กขึ้นรูปร้อนที่มีความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษที่สามารถต้านทานแรงดึงได้สูงถึง 1,520 Mpa รวมไปถึงเหล็กกล้าความแข็งแรงสูง 65% และเหล็กเทอร์โมฟอร์ม 8 ชิ้น ซึ่งสามารถดูดซับและลดแรงกระแทกเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหลัก
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง เพื่อปกป้องผู้โดยสาร เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ในกรณีที่ถุงลมนิรภัยทำงาน สัญญาณเตือนอันตรายจะทำงาน ประตูจะถูกปลดล็อก และรถจะโทรติดต่อศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน และสามารถส่งตำแหน่งเพื่อขอความช่วยเหลือได้
- ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย และ China Insurance Research Institute (C-IASI) ในระดับ Good
- ระบบโทรหาเบอร์ฉุกเฉิน
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น