เปิดตัว Subaru SOLTERRA 2023 รถ SUV พลังไฟฟ้า พัฒนาร่วมกับ Toyota

เปิดตัว Subaru Solterra รถยนต์ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% แพลตฟอร์มเดียวกับ Toyota bZ4X ชาร์จ 1 ครั้ง วิ่งได้ไกลสุด 530 กม. มาพร้อมรุ่นขับหน้าและขับ 4 พร้อมเปิดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการช่วงกลางปี 2022

Subaru Solterra ซูบารุไฟฟ้า

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ตามเวลาประเทศไทย Subaru ประเทศญี่ปุ่น เปิดตัว Subaru Solterra รถยนต์ไฟฟ้า 100% เป็นครั้งแรกของโลกอย่างเป็นทางการ ผ่านช่องทางออนไลน์ โดย Solterra เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของ Subaru โดยมีการร่วมพัฒนากับ Toyota มาตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2019 บนแพลตฟอร์ม e-Subaru Global Platform ออกมาเป็นรถยนต์ SUV ไฟฟ้าคันนี้ อัดแน่นด้วย DNA การขับขี่สไตล์รถยนต์ Subaru และดีไซน์ที่ยังให้กลิ่นอายของแบรนด์ไว้ได้เป็นอย่างดี ถ่ายถอดออกมาในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้า 100% ได้อย่างลงตัว โดยขนาดของตัวรถ Subaru Solterra มีขนาดใหญ่กว่า Forester แต่เล็กกว่า Outback เล็กน้อย

Subaru Solterra การออกแบบ

ชื่อของ Solterra เป็นการรวมเอาความหมายของ 2 คำ ระหว่าง SOL ซึ่งแปลว่าดวงอาทิตย์ และ TERRA ซึ่งแปลว่าดิน โดย Subaru ตั้งใจที่จะวางรากฐานให้ Solterra เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ใช้งานทั่วโลก และเป็นพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่อไปในอนาคตที่ทาง Subaru จะพัฒนาออกมาด้วย

โดยตั้งใจพัฒนาให้เป็นรถที่สามารถใช้งานได้ทุกวัน ทุกเวลา และยังต้องให้ความรู้สึกว่า นี่แหละคือรถยนต์ Subaru แบบที่ทุกท่านได้เคยขับมาก่อน

ดีไซน์ภายนอกของ Subaru Solterra โดดเด่นด้วยกระจังหน้ารูปทรง 6 เหลี่ยมแบบไร้รอยต่อ พร้อมโลโก้ Subaru บริเวณตรงกลางของกระจังหน้า

ฝากระโปรงของตัวรถ ถูกออกแบบให้มีบ่าด้านข้างยกสูงขึ้นมาทั้ง 2 ฝั่ง และฝากระโปรงตรงกลางจะแบนราบลงไป โดยการออกแบบลักษณะนี้จะส่งผลให้มุมมองจากผู้ขับรู้สึกว่าตัวรถมีขนาดที่ใหญ่

ไฟหน้า เป็นไฟ LED มัลติโปรเจกเตอร์เต็มระบบ มาพร้อมกับไฟ DRL รูปทรง C-Shape อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Subaru ที่ใช้งานมาอย่างยาวนาน ตอกย้ำ DNA ความเป็นแบรนด์ดาวลูกไก่ได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับไฟตัดหมอก LED ติดตั้งบริเวณกันชนหน้าด้านล่าง

ด้านข้างของตัวรถ ดูมีความเป็นรถยนต์นั่งแบบ SUV สไตล์รถ Coupe ด้วยดีไซน์ท้ายลาด ช่วยเสริมความสปอร์ตให้กับตัวรถเป็นอย่างดี ตัวบอดี้ด้านล่างของตัวรถติดตั้งชิ้นสเกิร์ต ABS แบบดำด้าน สอดรับเข้ากับซุ้มล้อ ซึ่งการใช้วัสดุแบบนี้ เวลาทำความสะอาดจะทำได้ค่อนข้างง่ายมาก

บริเวณซุ้มล้อของตัวรถมีขนาดค่อนข้างใหญ่ รองรับการลุยได้แบบสบายๆ ส่วนล้ออัลลอยให้มาขนาด 18 นิ้ว รัดยางขนาด 235/60 R18

ตัวช่องชาร์จติดตั้งอยู่บริเวณด้านข้างฝั่งหน้าของตัวรถทั้ง 2 ข้าง แยกเป็น AC ที่ด้านขวา และ DC ที่ฝั่งซ้าย

ด้านท้ายของตัวรถ ไฟท้ายรูปลักษณ์ตัว C ตามสไตล์ Subaru (แอบคล้ายๆ ของ XV เวอร์ชั่นปัจจุบัน) โดยมีลายเส้นสีดำต่อจากตัวไฟท้ายไปที่ด้านข้างของตัวรถ

ระบบเซ็นเซอร์เตือนการชน มีการติดตั้งมาให้รอบคัน โดยติดตั้งอยู่ที่บริเวณกันชนด้านหน้าและด้านหลัง

ตัวสปอยเลอร์ด้านบน เป็นแบบแยก 2 ข้าง พร้อมเสาอากาศครีปฉลาม และราวหลังคา

(แอบสังเกตว่าไม่มีใบปัดน้ำฝนด้านหลัง)

ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อนพลังสูงถูกออกแบบให้มีขนาดเล็ก ติดตั้งอยู่ที่แกนล้อหน้าและล้อหลัง มอบอัตราเร่งอย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุดจากโหมดการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ Eco, Standard และ Power โดยจากการออกแบบให้มอเตอร์มีขนาดเล็ก ส่งผลให้มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารมากขึ้น

ตัวแบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออน ความจุ 71.4 kWh ติดตั้งอยู่ที่ใต้ท้องรถ ซึ่งตัวแบตเตอร์รี่ถูกออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างตัวรถ และตัวรถถูกออกแบบให้มีการซับแรงจากการชนเพื่อปกป้องห้องโดยสารและอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับการขับเคลื่อนทั้งหมด เพื่อลดโอกาสได้รับความเสียหายจากการชน

โครงสร้างตัวถังของ Subaru Solterra ใช้แพลทฟอร์มใหม่ e-Subaru Global Platform ที่มีการพัฒนาร่วมกับ Toyota โดยทาง Toyota จะใช้ชื่อรุ่นรถว่า bZ4X ส่วน Subaru ใช้ชื่อรุ่นรถว่า Solterra โดยยังคงเอกลักษณ์การขับขี่สไตล์ Subaru ไว้อยู่ ด้วยการติดตั้งแบตเตอร์รี่ไว้ที่ใต้ท้องรถ และออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างตัวรถ ส่งผลให้ตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ และมีความแข็งแรงสูง

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ที่ถูกออกแบบใหม่ให้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแยกกันระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง เพื่อควบคุมการขับเคลื่อนอย่างแม่นยำ ผสานเข้ากับเทคโนโลยีการขับเคลื่อนระดับสูงสไตล์ Subaru ที่ขึ้นชื่อเรื่องการควบคุมรถที่แม่นยำและเฉียบคม ออกมาเป็นรูปแบบการกระจายแรงขับเคลื่อนระหว่างล้อทั้ง 4 ของตัวรถอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มการยึดเกาะขั้นสูงสุด

และนอกจากนี้ ก็มี X-MODE และ Grip Control มาให้ใช้งานในเส้นทางออฟโรดอีกด้วย

Subaru Solterra ภายใน

เข้ามาภายในห้องโดยสารของ Subaru Solterra เรียกได้ว่าออกแบบใหม่ทั้งหมดแบบติดกลิ่นอายรถยนต์ Subaru มาเพียงโลโก้เท่านั้น

หน้าจอเรือนไมล์ของผู้ขับขี่ ถูกออกแบบใหม่ให้เป็นจอมอนิเตอร์ตรงกลางตัวรถแบบ TFT เต็มระบบ ตัวพวงมาลัยปรับดีไซน์ใหม่ แตกต่างจากรถยนต์ Subaru เวอร์ชั่นปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง

หน้าจอมัลติมีเดียตรงกลางรถ ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay, Andriod Auto มาพร้อมกับแท่นชาร์จมือถือแบบไร้สาย ติดตั้งอยู่ภายในตัวรถ

นอกจากนี้ ตัวรถยังมีฟังก์ชั่นจอดรถอัตโนมัติ สามารถสั่งการผ่านมือถือสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย และยังสามารถสั่งเปิดแอร์ล่วงหน้า หรือสั่งล็อกประตูรถผ่านสมาร์ทโฟนได้ด้วยเช่นกัน

แป้นเกียร์ของรถ เป็นระบบหมุน พิมพ์นิยมในรถยนต์ไฟฟ้ายุคนี้

ที่นั่งโดยสารด้านหลัง มีแอร์มาให้ พร้อมที่พักแขนบริเวณตรงกลาง

ระบบความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวก

- Subaru EyeSight เต็มระบบ ทั้งระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน, ระบบป้องกันการชนรถ, คน, สิ่งของ, สิ่งมีชีวิต, ระบบช่วยรักษาตัวรถให้อยู่ในเลน

- X-Mode ระบบควบคุมการขับขี่ในเส้นทางออฟโรดอัฉริยะ เอกสิทธิของ Subaru ที่ตัวรถจะจัดการการส่งกำลังไปยังล้อต่างๆ อย่างชาญฉลาด

พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถความจุสูง สามารถใส่ถุงกอล์ฟได้มากถึง 4 ถุง หรือกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้ถึง 3 ใบ

สเป็ค Subaru Solterra 2023

Subaru Solterra แบตเตอร์รี่ และการชาร์จ

Subaru Solterra ใช้แบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออน ความจุ 71.4 kWh ทำระยะทางขับขี่ตามมาตรฐาน WLTP ในรุ่นรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าได้สูงสุด 530 กิโลเมตร และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้สูงสุด 460 กิโลเมตร รองรับการชาร์จแบตเตอร์รี่แบบ AC ที่ 6.6 kW และ DC สูงสุดที่ 150 kW

มิติรถ 

Subaru Solterra เปิดขาย

Subaru Solterra มีกำหนดจะเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ทวีปยุโรป, จีน และประเทศอื่นๆภายในกลางปี ​​2022 นี้ และจะเริ่มส่งมอบอย่างเป็นทางการช่วงปี 2023

อ่าน รีวิว Subaru Outback 2021 ออปชั่นเจ๋ง มี AI ช่วยขับ อีกนิดไม่ต้องขับเอง ปลอดภัยสุดในค่าย
อ่าน เปิดตัว Subaru Forester 2021 ปรับโฉมใหม่ พร้อมระบบ AI ล้ำขึ้น
อ่าน รีวิว Subaru Forester GT 2020 รถครอบครัวสายลุย พร้อมสเปคและราคา

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car