มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ปลุกจิตวิญญาณแรลลี่อาร์ท กลับมาเรียกเสียงฮือฮาอีกครั้ง ที่งาน Motor Expo 2021 เปิดตัว รถยนต์มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท 2 รุ่น ได้แก่ ไทรทัน แรลลี่อาร์ท และ ปาเจโร สปอร์ต แรลลี่อาร์ท ครั้งแรกในโลก ในราคาเริ่มต้นที่ 667,000 บาท และ Mitsubishi Pajero Sport Special Edition รุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 60 ปี, Mitsubishi Xpander Special Edition และอวดโฉมรถยนต์ระดับตำนานอีก 3 รุ่น เปิดเข้าชมบูธได้ตั้งแต่วันนี้
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นำแรลลี่อาร์ทคืนสังเวียน เปิดตัวรถยนต์รุ่นแรลลี่อาร์ท ครั้งแรกของโลก
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ฟื้นชีพแบรนด์ระดับไอคอน “แรลลี่อาร์ท” (RALLIART) ดึง DNA ของความเป็นแชมป์จากการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตหลายสนามมารวมในบูธงาน Motor Expo 2021
แรลลี่อาร์ท ภายนอกมาพร้อมชุดอุปกรณ์ตกแต่งของแท้จากโรงงาน อาทิ ลวดลายสติกเกอร์ด้านข้างตัวรถสีแดง สีเงิน และสีดำ แผ่นกันโคลนสีแดง รวมถึงชุดตกแต่งใต้กันชนหน้าที่มาพร้อมโลโก้แรลลี่อาร์ท โดยรุ่นแรลลี่อาร์ทจะแตกต่างจากรุ่นธรรมดา ด้วยชุดตกแต่งภายนอกสีดำสุดพิเศษ ออกแบบเฉพาะสำหรับกระจังหน้า ล้ออัลลอย และหลังคา สำหรับภายในตกแต่งด้วยพรมปูพื้นจะมาพร้อมโลโก้แรลลี่อาร์ทด้วยเช่นกัน รถยนต์รุ่น แรลลี่อาร์ท วางจำหน่ายในรถยนต์ 2 รุ่น แบ่งเป็น 3 รุ่นย่อยได้แก่ ไทรทัน แรลลี่อาร์ท เมกะ แค็บ, ไทรทัน แรลลี่อาร์ท ดับเบิ้ล แค็บ และปาเจโร สปอร์ต แรลลี่อาร์ท
ไทรทัน แรลลี่อาร์ท
ไทรทัน แรลลี่อาร์ท จะมาในรุ่น ไทรทัน ตัวเตี้ยโดยมีให้เลือกในรุ่นย่อย ได้แก่
- ไทรทัน แรลลี่อาร์ท เมกะ แค็บ ราคา 667,000 บาท
- ไทรทัน แรลลี่อาร์ท ดับเบิ้ล แค็บ ราคา 705,000 บาท
ชุดตกแต่งพิเศษประกอบด้วยพื้นปูกระบะท้ายที่มีโลโก้แรลลี่อาร์ท และมือเปิดกระบะท้ายสีดำ เพิ่มลุคสปอร์ตสุดโฉบเฉี่ยวและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่ไม่หยุดนิ่ง ของรุ่นไทรทันให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
มีสีตัวถังรถ แรลลี่อาร์ท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่
- สีขาว Solid White พร้อมหลังคาสีดำ
- สีดำ Jet Black Mica
ปาเจโร สปอร์ต แรลลี่อาร์ท
ปาเจโร สปอร์ต แรลลี่อาร์ท ราคา 1,365,000 บาท
ปาเจโร สปอร์ต แรลลี่อาร์ท มาพร้อมชุดตกแต่งใต้กันชนหลัง รวมถึงชุดตกแต่งซุ้มล้อสีดำ ที่ช่วยให้ล้ออัลลอย และยางโดดเด่นยิ่งขึ้น อีกทั้งเพิ่มความแตกต่างจากรุ่นธรรมดาด้วยไฟหน้ารมดำ ล้ออัลลอยสีดำ ราวหลังคาสีดำ เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ และสปอยเลอร์หลังสีดำ ที่ติดตั้งมาสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ เพิ่มความสปอร์ตและสไตล์ที่หรูหราให้กับปาเจโร สปอร์ต ได้อย่างลงตัว
สีตัวถังรถ แรลลี่อาร์ท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่
- สีขาว White Diamond พร้อมหลังคาสีดำ
- สีดำ Jet Black Mica
นอกจากนี้ ในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปี ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศไทย ได้จัดแสดงรถยนต์ระดับตำนาน 3 รุ่น ที่เปรียบเสมือนตัวแทนความสำเร็จแห่งยุคสมัยของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั้งในตลาดรถยนต์เชิงพาณิชย์และสนามการแข่งขันแรลลี่ระดับโลก ได้แก่
- สามล้อรุ่น ‘ลีโอ’ ซึ่งเป็นรถยนต์มิตซูบิชิคันแรกที่วางจำหน่ายในประเทศไทย รถยนต์มิตซูบิชิ สามล้อ ลีโอ วางจำหน่ายครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2502 รถยนต์สามล้อรุ่นนี้ มอบประสบการณ์การขับขี่ในแบบสกู๊ตเตอร์ และเป็นรถสามล้อที่มีห้องโดยสารที่ทำจากเหล็กทั้งหมดเป็นครั้งแรก พร้อมติดตั้งที่นั่ง 2 ตำแหน่ง ภายหลังเปิดตัว มิตซูบิชิ ลีโอ ก็ติดอันดับรถยนต์ที่ขายดีที่สุดด้วยยอดการผลิตสูงถึง 1,000 คันต่อเดือน จากนั้นมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้ส่งออก มิตซูบิชิ ลีโอ จากญี่ปุ่นเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2504
- ปาเจโร รุ่นปี 1985 มิตซูบิชิ ปาเจโร ร่วมแข่งขันรายการ ดาการ์ แรลลี่ ถึง 26 ครั้ง ระหว่างช่วงปีพ.ศ. 2526-2552 และสามารถคว้าชัยชนะมาครองได้ถึง 12 ครั้ง สร้างสถิติชนะสูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยปาเจโร รุ่นปี 1985 สามารถคว้าชัยในการแข่งขันประเภทรวมโอเวอร์ออลครั้งแรกในรายการ ดาการ์ แรลลี่ และมีชื่อเสี่ยงโด่งดังในฐานะแบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายแรกที่สามารถคว้าชัยชนะครั้งใหญ่มาครองได้สำเร็จเมื่อปี พ.ศ. 2528 และในปีเดียวกันนั้นเอง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้เปิดตัวรถยนต์ต้นแบบ ปาเจโร/มอนเตโร โดยนำเอาพื้นฐานโครงสร้างแชสซี และตัวถังของรถยนต์ในสายการผลิตที่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.6 ลิตร รหัส 4G54 ที่มาพร้อมกับ เทอร์โบชาร์จ และอินเตอร์คูลเลอร์ มีกำลังสูงสุด 225 แรงม้า มาทำการปรับอัตราทดเฟืองท้ายใหม่ จึงส่งผลให้รถต้นแบบนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- แลนเซอร์ ดับบลิวอาร์ซี 05 พัฒนาต่อเนื่องจากรถยนต์มิตซูบิชิรุ่น แลนเซอร์ อีโวลูชั่น ซึ่งได้รับสมญานามว่า “เจ้าแห่งสนาม เวิลด์แรลลี่แชมเปี้ยนชิพ” โดยรถยนต์รุ่นมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น มาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ล้ำสมัยที่รู้จักในนามของ Super All-Wheel Control ที่ได้รับการพัฒนามาจากประสบการณ์การแข่งขันแรลลี่ชิงแชมป์โลก เทคโนโลยีดังกล่าวนี้เอง อยู่เบื้องหลังของการคว้าชัยชนะรายการแข่งขันแรลลี่ชิงแชมป์โลก ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ถึง 34 สมัย ระหว่างช่วงปี พ.ศ. 2510-2551 โดยชัยชนะ 26 ครั้งจาก 34 ครั้ง มาจากรุ่นมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น ซึ่งโชว์ฟอร์มสุดยอดด้วยชัยชนะติดกันถึง 4 ปีซ้อนในช่วงปีพ.ศ. 2539-2542 โดยรุ่นแลนเซอร์ ดับบลิวอาร์ซี 05 ยังได้เข้าร่วมรายการแข่งขันแรลลี่ชิงแชมป์โลกเมื่อปีพ.ศ. 2548 ภายใต้กฎข้อบังคับใหม่ของการแข่งขัน รถยนต์รุ่นนี้ ได้ถูกพัฒนาอย่างมากในหลายๆ ส่วน อาทิ ขนาดความกว้างของตัวรถที่ขยายกว้างขึ้น ช่วงล่างที่มีความสูงเพิ่มขึ้น เพลาขับใหม่ และทำการปรับแต่งองศาช่วงล่างใหม่หมดเพื่อให้ได้สมรรถนะสูงสุด ระบบควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ใหม่เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด และยังได้ติดตั้งเกียร์กึ่งอัตโนมัติพร้อมชุดคลัทช์ใหม่ จากการผสมผสานของการพัฒนาในจุดต่าง ๆ และการปรับแต่งอย่างพิถีพิถัน จึงทำให้รถคันนี้มีประสิทธิภาพการขับขี่สูงขึ้น
นอกจากนี้ ภายในบูธมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยยังได้จัดแสดงรถยนต์ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ สเปเชียล เอดิชั่น และมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต สเปเชียล เอดิชั่น
มร.เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การกลับมาของแรลลี่อาร์ทครั้งนี้ บริษัทไม่ได้มองเรื่องการทำตลาดเพียงอย่างเดียว แต่เป็นจุดเริ่มต้นในการผลิตรถยนต์ของบริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทยังถ่ายทอดหรือสื่อสารเพื่อให้ผู้บริโภค-ลูกค้าเข้าใจถึงสปิริตหรือจิตวิญญาณในการผลิตรถยนต์ของมิตซูบิชิได้ไม่มากนัก ดังนั้น แรลลี่อาร์ท จึงเกิดมาเพื่อสื่อสารจิตวิญญาณในการผลิตรถยนต์เป็นหลัก แต่จะมีส่วนจะกระตุ้นตลาดในเชิงตัวเลขได้มากน้อยเพียงใดนั้น ไม่สามารถตอบได้
“แรลลี่อาร์ท เป็นแบรนด์ไฮเพอร์ฟอร์มานซ์ โดยเราไม่ได้สร้างเพื่อยกระดับราคารถให้พรีเมี่ยม แต่เป็นการตั้งราคาที่เหมาะสมให้ผู้บริโภคที่มีอายุน้อย ได้สัมผัสแบรนด์แรลลี่อาร์ท ที่มีดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ เพราะรถมิตซูบิชิ ไม่ว่าจะเป็นปาเจโร ไทรทัน เอาท์แลนด์เดอร์ เอ็กแพนเดอร์ เหล่านี้ผ่านการวิจัยและพัฒนา นอกเหนือจากการทดสอบรถจากโรงงาน เรายังมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวกับการแข่งรถ ซึ่งมีความสำคัญเพราะการที่เราจะชนะการแข่งขันรถในสนามต่างๆได้นั้น จะต้องมีองค์ประกอบ 3 ส่วนด้วยกัน คือ ไฮเพอร์ฟอร์มานซ์ ความสมบุกสมบัน และผู้ขับรถจะต้องขับขี่ได้สบาย นั่นหมายความว่ารถของเรามีความปลอดภัยสูงด้วย”
สำหรับคำถามเรื่องภาพรวมตลาดรถยนต์ปีหน้านั้น ขอย้อนกลับมาที่ปีนี้ก่อน ซึ่งทราบกันดีว่า ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 ตลาดรถยนต์โดยรวมได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลาดรถยนต์อยู่ที่จุดต่ำที่สุด ถึงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากนั้นก็ฟื้นตัวดีขึ้น มาถึงขณะนี้ยังไม่มีใครปฏิเสธว่า ตลาดรถยนต์ยังมีความไม่แน่นอน ประกอบกับยังมีปัจจัยลบอย่างอื่น เช่น การขาดแคลนชิ้นส่วนรถยนต์ หรือการนำเข้าอะไหล่ในการผลิต เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ให้ติดตามสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในช่วงเดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคม 2564 ว่าเป็นอย่างไร หากไม่มีปัจจัยลบเพิ่มขึ้น ปีหน้าคาดหวังได้ว่าตลาดรถในไทยจะได้ทำอะไรเยอะขึ้นอย่างแน่นอน
“ในส่วนคู่แข่งรายใหม่จากจีนนั้น เราเลี่ยงไม่ได้และมีคู่แข่งเกิดขึ้นทุกวันไม่ว่าจากที่ไหน จะเป็นบริษัทหรือประเทศศอะไรไม่สำคัญ แต่เรามิตซูบิชิจะสู้ต่อไป ขอเล่าย้อนกลับไปเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า เราผลิตได้ตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงเวลานั้นถือว่าเร็วไป ยังไม่เกิดดีมานด์เนื่องจากผู้บริโภคและระบบสาธารณูปโภคยังไม่พร้อม ดังนั้นการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของค่ายมิตซูบิชิจะไม่เหมือนค่ายอื่นที่เราทำ รถอีวี พีเอชอีวี ขณะที่ค่ายรถยนต์อื่นๆ เริ่มจากการพัฒนารถจากรถยนต์สันดาปภายในเป็นเอชอีวี พีเอชอีวี และบีอีวี ยืนยันว่าเรามีเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอยู่แล้ว จะพัฒนาไปทางไหนก็ได้ขึ้นกับระบบสาธารณูปโภคและความพร้อมของลูกค้าคนไทย"
พบกับ มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่อาร์ท, ปาเจโร สปอร์ต แรลลี่อาร์ท, เอ็กซ์แพนเดอร์ สเปเชียล เอดิชั่น และปาเจโร สปอร์ต สเปเชียล เอดิชั่น ที่บูธมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย (A07) ในงาน Motor Expo 2021 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2564 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี หรือที่เครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น