มาสด้าเปิดตัว Mazda3 2022 เพิ่มออปชั่น เพิ่มสีใหม่ บรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ ชูไฮไลท์เสริมภาพลักษณ์ความสปอร์ตหรูกับหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ราคาเริ่มต้น 979,000 บาท
MAZDA 3 2022 เพิ่มออปชั่น เพิ่มสีใหม่ ราคาเริ่มต้น 979,000 บาท
ราคาจำหน่าย Mazda3 2022 ทั้งรุ่นฟาสท์แบค 5 ประตู และซีดาน 4 ประตู จำหน่ายในราคาเดียวกัน
- New Mazda3 รุ่น 2.0 C และ 2.0 C Sports ราคา 979,000 บาท
- New Mazda3 รุ่น 2.0 S และ 2.0 S Sports ราคา 1,069,000 บาท
- New Mazda3 รุ่น 2.0 SP และ 2.0 SP Sports ราคา 1,198,000 บาท
Mazda3 2022 มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย
- สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
- สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
- สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz)
- สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray) มีเฉพาะในรุ่นฟาสท์แบค
- สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
- สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver)
- สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
สำหรับ Mazda3 ใหม่ ถือเป็นยนตรกรรมเจเนอเรชั่นใหม่ที่เป็นดั่งต้นแบบของความสง่างาม ซึ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยมาแล้วทั้งหมด 4 เจเนอเรชั่น
- เจเนอเรชั่นแรก วางจำหน่ายระหว่างปี 2547-2554 มียอดขายสะสมกว่า 30,000 คัน ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์มาสด้าอย่างสิ้นเชิง
- เจเนอเรชั่นที่ 2 วางจำหน่ายระหว่างปี 2554-2557 มียอดขายสะสมกว่า 15,000 คัน
- เจเนอเรชั่นที่ 3 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ เริ่มวางจำหน่ายระหว่างปี 2557-2563 มียอดขายสะสมกว่า 32,000 คัน
- เจเนอเรชั่นล่าสุด ที่วางจำหน่ายมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วยยอดขายสะสมกว่า 8,000 คัน ซึ่งทำให้ปัจจุบันมีรถยนต์ Mazda3 อยู่ภายใต้การครอบครองของลูกค้าในประเทศไทยแล้วกว่า 85,000 คัน และอยู่ในการครอบครองของลูกค้าทั่วโลกรวมแล้วกว่า 6.9 ล้านคัน
New Mazda3 ในครั้งนี้ มาพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ “AWAKENING YOUR SOUL” เป็นยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมี่ยมใหม่ ที่ปลุกสัญชาตญาณความสปอร์ตในแบบคุณให้มีชีวิต เติมเต็มเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในแบบที่ไม่ซ้ำใคร ด้วยดีไซน์ที่สะกดสายตาในทุกมุมมอง ดีไซน์ภายนอกที่ยังคงความสง่างาม สปอร์ตพรีเมี่ยม ภายใต้แนวคิด Kodo: Soul of Motion ที่ถูกพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการลดทอนรายละเอียดที่ไม่จำเป็นลง แต่คงไว้ซึ่งความเรียบหรู ทรงพลัง ดุจการเติมจิตวิญญาณให้ยนตรกรรมมีชีวิต ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” ที่เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม ในรุ่นฟาสท์แบค 5 ประตู ยังคงแบบอย่างการดีไซน์อันมีเอกลักษณ์เสมือนงานศิลปะชิ้นเอก โดดเด่นด้วยความสปอร์ตในทุกรายละเอียด เน้นความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ในขณะที่รุ่นซีดาน 4 ประตู ให้ความหรูหรา ปราดเปรียวอย่างมีสไตล์ แต่ยังคงไว้ซึ่งความภูมิฐานสง่างามในทุกรายละเอียด พร้อมสะกดทุกสายตาให้เหลียวมอง
Mazda3 เจเนอเรชั่นล่าสุด ได้ให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนน จึงได้พัฒนารถรุ่นนี้ให้มีความสมบูรณ์แบบในเรื่องของเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากความสง่างามที่ลูกค้าทั่วโลกให้การยอมรับ โดยเพิ่มออฟชั่นและอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครันเหนือระดับตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น คือรุ่น 2.0 C/C Sports
เพิ่มออฟชั่นและอุปกรณ์มาตรฐาน
- ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS
- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน Daytime Running Lamp แบบ Signature
- ไฟท้ายแบบ LED Signature
- ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง และกล้องมองหลัง เพื่ออำนวยความสะดวกสบายและมอบความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะขับเวลากลางวันหรือในเวลากลางคืน
- เพิ่มระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า
- Sports Paddle Shift
- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน Daytime Running Lamp แบบ Signature
- ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS เข้ามาในรุ่น 2.0 S/2.0 S Sports รวมถึงยกระดับภาพลักษณ์ความสปอร์ตหรูที่เหนือกว่ากับหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า
- ระบบระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS ในรุ่น 2.0 SP/ 2.0 SP Sports อีกด้วย
- พร้อมสีภายนอกใหม่ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ ผนวกกับสมรรถนะของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร ที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน จึงทำให้รถรุ่นนี้โดดเด่นมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งมาสด้าเชื่อว่าจะตอบรับความต้องการของผู้บริโภคในรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ได้เป็นอย่างดี
ภายใน
ภายในห้องโดยสารยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความสปอร์ตหรูมีระดับ พิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียดเสมือนงานทำมือ (Hand-Crafted Design) ทั้งการออกแบบและการคัดสรรวัสดุอย่างประณีตดุจงานศิลปะที่มีแนวทางเฉพาะตัว พร้อมมอบความรู้สึกถึงความสะดวกสบายที่เหนือกว่ากับเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ 2 ตำแหน่ง แผงหน้าปัดและมาตรวัดดิจิตอล แบบ TFT LCD พร้อมจอแสดงผลแบบสี MID และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า ซึ่งทุกองค์ประกอบได้ถูกพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงการใช้งานและประโยชน์ของมนุษย์เป็นหลักตามปรัชญา Human Centric Philosophy เพื่อมอบความสะดวกสบายและปลอดภัยให้กับผู้โดยสารไปตลอดการเดินทาง
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ให้พละกำลังสูงถึง 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร รองรับน้ำมันได้ถึง E85 ให้การประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.9 กม./ลิตร* และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับระบบส่งกำลังอัจฉริยะ SKYACTIV-DRIVE เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ที่ให้การตอบสนองแม่นยำในทุกรอบความเร็ว พร้อมแมนนวลโหมด Activematic มอบความสนุกเร้าใจอีกระดับ
นอกจากนี้ New Mazda3 ยังคงส่งมอบความมั่นใจและความเพลิดเพลินสนุกสนานในการขับขี่ ด้วยการพัฒนารถยนต์ตามหลักปรัชญา จินบะ อิไต (Jinba Ittai) ที่ให้คนกับรถเป็นหนึ่งเดียวกัน รวมถึงแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE ที่ได้รับการพัฒนาจากท่วงท่าการเดินของมนุษย์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและมีสมดุล เพื่อพัฒนารถยนต์ที่ให้ความรู้สึกเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย พร้อมด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่และรถเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ และมอบความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารไปตลอดการเดินทาง
Mazda3 2022 ยังช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัด กับMazda Connect ที่ครบครันทุกฟังก์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย หรือ รับ-ส่ง SMS ผ่านสัญญาณ Bluetooth เพลิดเพลินกับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอลได้มากยิ่งขึ้นด้วย Apple CarPlay® และ Android Auto™* ที่สามารถเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน สามารถใช้งานฟังก์ชั่นสำคัญๆ โดยแสดงผลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ที่ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander พร้อมมอบความสุนทรีย์ที่เหนือระดับด้วยระบบเสียงคุณภาพสูงจาก Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง
Mazda3 2022 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และฟาสท์แบค 5 ประตู
- รุ่น 2.0 C และ 2.0 C Sports มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ได้ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานและระบบความปลอดภัยมาอย่างครบครัน อาทิ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lamp) แบบ LED Signature, ไฟท้ายแบบ LED Signature, ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS, ระบบไฟหน้าปรับระดับสูง-ต่ำ อัตโนมัติ, มาตรวัดดิจิตอล แบบ TFT LCD พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสี MID, หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า, ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด, หน้าจอสี Center Display ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander, ระบบควบคุมความเร็วคงที่, ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold, กล้องมองหลัง, ถุงลมนิรภัยรวม 7 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ พร้อมด้วยระบบ i-Activsense เพื่อมอบความปลอดภัยอย่างเหนือระดับให้แก่ผู้ขับและผู้โดยสารทุกคน
- รุ่น 2.0 S และ 2.0 S Sports เพิ่มอุปกรณ์และเทคโนโลยีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sports Paddle Shift), วัสดุตกแต่งคอนโซลและมือจับประตูด้านในสีเงินโครเมียม, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ฝาปิดที่วางแก้วน้ำที่คอนโซลกลาง, ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด, ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว (คุณสมบัติเพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 C)
- รุ่น 2.0 SP และ 2.0 SP Sports มาพร้อมหลังคาซันรูฟไฟฟ้า ระบบความปลอดภัยและสะดวกสบายที่เหนือระดับ อาทิ กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ, ระบบเสียงคุณภาพสูงจาก Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง, ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ และระบบ i-Activsense อีกหลายรายการ เพื่อมอบสุนทรียภาพและความปลอดภัยไปตลอดการเดินทาง (คุณสมบัติเพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 S)
Mazda3 2022 มาพร้อมเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE ที่ช่วยป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากมายหลายระบบ ประกอบด้วย
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Reverse Crossing)
- ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS (Adaptive Front-Lighting System)
- ระบบเตือนเมื่อเกิดความอ่อนล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane Keep Assist System)
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
- ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse)
- ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support)
- ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps)
- ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น