Audi RS Q3 Sportback quattro พรีเมียม เอสยูวีสายซิ่ง รูปทรงสปอร์ต ในตระกูล RS ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 400 แรงม้า ในราคาเพียง 4,850,000 บาท
รับชมรีวิวรูปแบบวีดีโอได้ที่นี่
Audi RS Q3 Sportback quattro ในโฉมนี้ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2021 เป็นรถที่มีตำแหน่งผลิตภัณฑ์สูงสุดในกลุ่ม Q3 แต่ถ้าเทียบกับรถที่อยู่ในตระกูล RS ด้วยกัน รุ่นนี้คือรุ่นเริ่มต้น เป็นรถนำเข้าแบบทั้งคัน CBU ในช่วงแรกที่เปิดตัวในประเทศไทย มีราคาอยู่ที่ 4,750,000 บาท จากนั้นได้ปรับราคาขึ้นอีก 1แสนบาท ส่งผลให้ราคาในปัจจุบันปี 2022 มีราคาอยู่ที่ 4,850,000 บาท
มิติตัวถังภายนอก มีความสูง 1,557 มม. กว้าง 1,851 มม. ยาว 4,507 มม. หากเทียบกับในรุ่น Q3 ธรรมดาจะพบว่าในรุ่น RS Q3 มีขนาดตัวถังที่ยาวกว่า กว้างกว่า และเตี้ยกว่า
ดีไซน์ภายนอก Audi RS Q3 Sportback quattro
Audi RS Q3 Sportback quattro โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ลายรังผึ้งสีดำ พร้อมโลโก้ 4 ห่วง Audi Ring และชื่อรุ่นสี Glossy Black ซึ่งจะมีเฉพาะในรุ่น RS เพียงเท่านั้น นอกจากนี้ภายนอกยังมาในลุคเข้มดุดัน เน้นการเล่นสีด้วยชุดแต่งแบบ Glossy Black RS ซึ่งเป็นการใช้สีดำเงาเข้ามาเป็นส่วนประกอบในหลายจุดของตัวรถ
ในส่วนของไฟหน้า เป็นแบบ Matrix LED มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ พร้อมไฟเดย์ไทม์ลำแสงสีขาวแบบ LED สำหรับการส่องสว่างเวลากลางวัน ถัดลงมาด้านล่างจะพบกับตัวฉีดล้างไฟหน้าที่มีให้ทั้ง 2 ฝั่ง ซ้าย-ขวา และมีเซนเซอร์ด้านหน้า 4 จุด สำหรับช่วยกะระยะเมื่อนำรถเข้าจอด และเตือนเมื่อขับเข้าใกล้วัตถุ ในส่วนของกันชนหน้าเป็นรูปทรงบูมเมอแรง ที่ออกแบบมาพิเศษเฉพาะในรุ่น RS Q3 เท่านั้น เมื่อมองรวมๆจากด้านหน้าแล้ว จะเห็นถึงลายเส้นที่รับเข้ากันอย่างลงตัวเลยทีเดียว
ด้านข้างเมื่อมองจากมุมกว้าง จะเห็นถึงความสปอร์ตของตัวถังท้ายลาดแบบ Sportback ได้อารมณ์ของความสปอร์ตไม่แพ้ด้านหน้าเลยทีเดียว ช่วงแก้มซุ้มล้อหน้าและหลัง โปร่งนูนขึ้นมา ทำให้ตัวรถดูมีมิติ และมัดกล้ามที่ชัดเจน พร้อมกับการใช้สีดำเงาเข้ามาตกแต่งหลายจุด เช่น หลังคาสีดำ เสาอากาศครีบฉลามสีดำ กระจกมองข้างสีดำ ขอบกระจกประตูสีดำ ชายล่างสีดำ
และอีกจุดที่โดดเด่นมากๆก็คือล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว สีเทาเข้มปัดหน้าสีเงิน รัดด้วยยางขนาด 255/35R21 และเมื่อมองลอดเข้าไปในวงล้อ จะพบกับคาลิปเปอร์ขนาดใหญ่สีแดงสด สำหรับสยบม้าทั้ง 400 ตัวในเวลาอันรวดเร็ว
ฝากระโปรงหลังของ Audi RS Q3 Sportback quattro ถูกดีไซน์ให้มีส่วนเว้าโค้งรับเข้ากับลายเส้นตัวถังด้านข้าง โดดเด่นด้วยไฟท้ายที่เป็นแบบ Full LED นอกจากนี้ ไฟเลี้ยวด้านท้ายยังเป็นแบบ Dynamic เป็นเส้นไฟวิ่งขณะที่เปิดไฟเลี้ยว และยังโดดเด่นด้วยโลโก้อาวดี้ พร้อมชื่อรุ่น RS Q3 สีดำที่ตอกย้ำถึงความแรง มีกล้องถอย เซนเซอร์หลัง 4 จุด ที่ชายกันชนหลังจะพบกับชุด Diffuser สีดำ พร้อมท่อคู่ที่เป็นแบบของจริง ไม่ใช่ท่อหลอก
ฝากระโปรงหลังไฟฟ้า ระบบแฮนด์ฟรี เปิดได้หลายช่องทาง ทั้งจากภายในรถ ,รีโมท ,เปิดที่ตัวฝาท้าย และที่ผมชอบมากที่สุดคือเปิดโดยการใช้เท่าแหย่ไปที่ใต้ท้องรถ เหมาะสำหรับหนุ่มสาว สายช้อป เวลาถือของพะรุงพะรัง เพียงแค่ใช้เท้าแหย่ไปที่ใต้ท้องรถ ฝากระโปรงหลังจะเปิดให้แบบอัตโนมัติ
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ของ Audi RS Q3 Sportback quattro มีความจุ 530 ลิตร แต่หากเราพับเบาะหลัง จะได้พื้นที่มากถึง 1,400 ลิตรเลยทีเดียว สามารถใส่ของที่เป็นทรงยาวได้ และเมื่อเราเปิดที่ฐานรอง จะพบกับชุดปะยางเติมลม และกระเป๋าชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น เอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
ดีไซน์ภายใน Audi RS Q3 Sportback quattro
ภายในของ Audi RS Q3 Sportback quattro คันนี้มาในโทนสีดำ เป็นเบาะหนัง Fine Nappa ลายรังผึ้ง Honeycomb เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าทรงสปอร์ต ปั้มนูนคำว่า RS มีปีกเบาะที่ยื่นสูงสำหรับโอบกระชับ แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ผู้โดยสารสามารถเข้าออกจากตัวเบาะได้สะดวก นั่งแล้วไม่อึดอัด พร้อมที่รองน่องแบบปรับยืดหดได้ นอกจากนี้เบาะคู่หน้ายังมีตัวดันหลังที่ปรับได้แบบไฟฟ้า และฟังก์ชันเบาะอุ่นร้อนอีกด้วยครับ
งานประกอบทั้งภายนอกและภายใน ถือว่าเนี๊ยบมากครับ รอยต่อสนิทเรียบเนียนทุกจุด วัสดุที่ใช้หุ้มช่วงคอนโซลเป็นแบบสัมผัสนุ่ม และใช้วัสดุ Alcantara ในการตกแต่งหลายจุด ดูแล้วหรูหราสมราคา แผงข้างและมือจับประตูด้านใน ออกแบบได้ทันสมัยสวยงาม แต่ด้วยตำแหน่งของมือจับที่อยู่ทางด้านหน้ามากเกินไป ทำให้เวลาเราปิดประตู จะต้องออกแรงมากกว่าที่ควรจะเป็น
พวงมาลัย Audi RS Q3 Sportback quattro ทรงสปอร์ตท้ายตัด หุ้มด้วย Alcantara จับแล้วกระชับ หนึบมือ ที่ด้านล่างของพวงมาลัย มีโลโก้ RS และมีปุ่มต่างๆที่พวงมาลัยสำหรับควบคุมจอเรือนไมล์ และจอเครื่องเล่นตรงกลาง
ด้านหลังของพวงมาลัยมีแป้น Paddle Shift สำหรับเล่นเกียร์ ก้านที่อยู่ฝั่งซ้ายด้านล่าง สำหรับตั้ง Cruise Control และสำหรับเอาไว้ตั้งลิมิตความเร็วของรถ สมมติว่า เราตั้งลิมิตความเร็วเอาไว้ที่ 120 กม./ชม. ตัวรถก็จะทำความเร็วได้สูงสุดแค่ 120 กม./ชม. เป็นต้น
หน้าจอเรือนไมล์ Audi RS Q3 Sportback quattro แสดงข้อมูลการขับขี่ เป็นแบบ Virtual cockpit Plus ขนาด 12.3 นิ้ว ใหญ่ สวย หรู คมชัด แสงไม่แยงตาขณะขับขี่ และยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของหน้าจอได้ และยังมีฟังก์ชั่นอีกหลากหลาย เช่น แสดงแผนที่นำทาง เป็นต้น
จอเครื่องเล่นขนาด 10.1 นิ้ว แบบสัมผัส พร้อมระบบ Audi smartphone interface รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย เมื่อเชื่อมต่อแล้วข้อมูลในโทรศัพท์จะถูกดึงขึ้นโชว์ที่หน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชั่นต่างๆ หรือการรับสาย วางสาย เราสามารถควบคุมผ่านที่หน้าจอของรถได้เลย รวมไปถึงการใช้ระบบนำทางผ่าน Google Maps จาก Apple CarPlay ก็ได้เช่นกัน
หรือเราจะใช้แผนที่นำทางของตัวรถก็ได้ครับ เพียงแค่กดเมนู Navigation แผนที่ก็จะแสดงทันที ซึ่งภาพที่ออกมานั้น เป็นแบบ 3 มิติ สวยและคมชัดมากครับ และยังสามารถเลือกประเทศได้ว่าเราใช้งานอยู่ในประเทศไหน ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีข้อกฎหมายในการการจำกัดความเร็วที่แตกต่างกันไปด้วย
นอกจากนี้ การปรับตั้งค่าต่างๆ เราต้องเข้าผ่านทางหน้าจอกลางของตัวรถ เช่นการเปลี่ยนสีไฟ Ambient light ,ตั้งค่าเตือนความเร็วรถ และอื่นๆอีกมากมาย
สำหรับระบบเครื่องเสียง ใช้เป็นของ Bang & Olufsen ในเรื่องของคุณภาพเสียง บอกเลยว่าดังกระหึ่ม และเสียงนุ่มมาก อัดเบสหนักๆ เสียงไม่แตก ขับทางไกลเปิดเพลงฟังไม่มีเหงาแน่นอนครับ
ระบบแอร์ออโต้ ควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 3 โซน ถูกแยกออกเป็นตอนหน้า 2 โซน และตอนหลังอีก 1 โซน พร้อมระบบฮีตเตอร์ สำหรับการใช้ในช่วงหน้าหนาว
การเปลี่ยนโหมดขับขี่ นอกจากจะเลือกจากที่หน้าจอแล้ว ยังมีปุ่มลัด Select Contron ที่ใช้งานได้ง่าย มีโหมดขับขี่หลักๆ 4 โหมด คือ Efficiency ,Comfort ,Auto ,Dynamic ซึ่งแต่ละโหมด อัตราเร่งก็จะแตกต่างกัน รวมไปถึงการทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ก็จะแตกต่างกันไปด้วย และเมื่อเราอยู่ในโหมด Dynamic วาล์วท่อไอเสียจะเปิดออก เสียงทุ้มของท่อจะดังกระหึ่มเข้าตัวรถ ได้อารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ตเลยทีเดียว
หลังคาพาโนรามิคเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ใช้งานง่ายด้วยการกดปุ่มที่อยู่บนหลังคา
ต่อกันที่เบาะหลังของ Audi RS Q3 Sportback quattro คันนี้เป็นตัวถังแบบ Sportback หลังคาด้านท้ายจะลาดลงมา ซึ่งผมสูง 175 ซม. การนั่งโดยสารที่เบาะหลังสามารถนั่งได้ปกติ ศีรษะไม่ติดเพดาน มีระยะช่องว่างเหลือประมาณนึง ที่วางเท้ามีพื้นที่ให้ขยับแข้งขยับขาได้พอสมควร ตัวเบาะยังสามารถเลื่อนหน้าหลังได้ พนักพิงแบ่งเป็น 3 ส่วน (40:20:40) สามารถพับได้เรียบ มีที่วางแขนตรงกลางที่สามารถพับเก็บได้ มีแอร์หลังให้
เครื่องยนต์ Audi RS Q3 Sportback quattro
Audi RS Q3 Sportback Quattro ใช้เครื่องยนต์ เบนซิน TFSI แบบ 5 สูบแถวเรียง ขนาด 2.5 ลิตร 2,480 ซีซี. 20 วาล์ว ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง และพ่วงด้วยเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า ที่ 5,850 – 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่ 1,950 – 5,850 รอบ/นาที จับคู่กับ เกียร์ อัตโนมัติ S Tronic 7 จังหวะ ขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro
ขับทดสอบ Audi RS Q3 Sportback quattro
Audi RS Q3 Sportback quattro ในเรื่องของอัตราเร่ง พลัง 400 แรงม้า พร้อมแรงบิด 480 นิวตันเมตร ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลแม้แต่น้อย ไม่ว่าคุณจะขับในโหมดไหนก็ตาม เมื่อคิกดาวน์ตัวรถก็พร้อมที่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้าแบบไร้แรงหน่วง อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. จากที่ผมได้ทดสอบ ใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 4.8 วินาที ซึ่งก็สอดคล้องกับตัวเลข 4.5 วินาที ที่ทางอาวดี้ได้เคลมเอาไว้ และความเร็วสูงสุดที่สามารถทำได้คือ 250 กม./ชม. ซึ่งจริงๆแล้วกำลังเครื่องยนต์มันยังไปได้อีก แต่ในเชิงเทคนิคทางอาวดี้จำเป็นต้องล๊อคความเร็วเอาไว้ให้ไม่เกินนี้ เพราะด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ในส่วนของระบบช่วงล่างจะออกแนวสปอร์ต ไม่ได้นุ่มนวลเหมือนรถผู้บริหาร แต่จะนุ่มนวลในแบบฉบับของรถสปอร์ต
โดยปกติของรถเอสยูวีทั่วไป เมื่อขับเปลี่ยนเลนในขณะที่ใช้ความเร็วสูง ส่วนใหญ่จะร่อน โคลงเคลง แต่สำหรับเจ้า RS Q3 คันนี้บอกเลยว่าช่วงล่างยึดเกาะถนนได้ดีมาก ไม่ร่อน ไม่ย้วย ถึงแม้จะเป็นรถทรงเอสยูวีก็ตาม
การเก็บเสียงจากภายนอกก็ทำได้ดีใช้ได้เลยครับ ถ้าใช้ความเร็วไม่เกิน 140 จะไม่ได้ยินเสียงลมจากภายนอก ให้ความรู้สึกเงียบสบาย มีเพียงเสียงทุ้มของท่อไอเสียที่ช่วยให้การขับขี่เร้าใจ
Audi RS Q3 Sportback quattro ตัวรถมีขนาดที่พอเหมาะ ไม่เล็กจนอึดอัด และไม่ใหญ่จนเทอะทะ พวงมาลัยไว ควบคุมง่ายหมุนนิดเดียวตัวรถก็พร้อมที่จะเปลี่ยนเลน เหมาะกับการใช้งานในเมืองที่ต้องเจอการจราจรติดขัด ต้องอาศัยความเร็วในการมุดแทรกเปลี่ยนเลน และขับออกต่างจังหวัดก็ทำได้สบายๆ เครื่องยนต์มีกำลังเหลือเฟือในการเร่งแซง แม้เราจะอยู่ในโหมดการขับขี่ปกติ ก็สามารถเร่งความเร็วแซงได้อย่างมั่นใจ แต่ถ้าอยากให้อัตราเร่งสนุกมากกว่านี้ ก็สามารถเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ ซึ่งก็มีโหมดการขับขี่หลายรูปแบบ ให้เลือกใช้ตามสภาพถนน และยังมีโหมดที่เราสามารถปรับแต่งได้เองด้วยครับ นอกจากนี้ เรายังสามารถเล่นเกียร์ได้ที่แป้น Paddle shift หลังพวงมาลัย
เอาเป็นว่า Audi RS Q3 Sportback Quattro คือรถที่ขับดีมากๆรุ่นนึง สามารถขับใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน วันไหนพาครอบครัวไปด้วยก็ขับแบบเสียงท่อเงียบๆ วันไหนออกไปซิ่งกับเพื่อน ก็เปิดโหมด Dynamic รับรองว่าสนุกแน่นอน ด้วยราคาค่าตัว 4,850,000 ถ้าถามผมว่าแพงไหม ผมขอตอบว่าเป็นราคาที่รับได้ครับ เพราะอย่าลืมว่าเจ้าคันนี้ คือรถที่อยู่ในกลุ่มรถสมรรถนะสูง และราคานี้ กับรถทรงเอสยูวีแบบนี้ ราคาถือว่าไม่ได้แรงมากครับ และรุ่นนี้ยังเป็นรถที่ถูกที่สุดของตระกูล Audi RS อีกด้วยครับ
Audi RS Q3 Sportback quattro มีทั้งหมด 8 สี
ราคา 4,850,000 บาท
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น