มาสด้าจัดกิจกรรม MAZDA SKYACTIV CARAVAN นำสื่อมวลชนร่วมสัมผัสสมรรถนะรถยนต์รุ่นใหม่ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ บนเส้นทางกรุงเทพฯ-เขาใหญ่ รวมระยะทางไปกลับกว่า 400 กม.
กิจกรรมนี้ ทางมาสด้าจัดขึ้นในรูปแบบของคาราวานรถยนต์ มีจำนวนรถยนต์มากที่สุดถึง 7 รุ่น รวม 30 คัน ประกอบไปด้วย Mazda MX-5 ,Mazda2 ,Mazda3 ,CX-3 ,CX-30 ,CX-5 และ CX-8 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่เขาใหญ่ บนถนนที่มีหลากหลายสถานการณ์ ทั้งแบบในเมือง และนอกเมือง รวมไปถึงเส้นทางบางช่วงที่คดเคี้ยว โดยในทริปนี้ ทีมงานออโตสปินน์ได้ Mazda3 2.0 SP Sports เป็นพาหนะคู่กายในการเดินทางครั้งนี้
New Mazda3 2022 มาพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ AWAKENING YOUR SOUL เป็นยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมี่ยมใหม่ ที่ปลุกสัญชาตญาณความสปอร์ตในแบบคุณให้มีชีวิต ออกแบบภายใต้แนวคิด Kodo Soul of Motion ที่ถูกพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการลดทอนรายละเอียดที่ไม่จำเป็นลง แต่คงไว้ซึ่งความเรียบหรู ทรงพลัง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Less is More ที่เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม
ดีไซน์ภายนอก Mazda3 2.0 SP Sports
ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เสา A มีขนาดเล็กซึ่งเป็นการตั้งใจออกแบบเพื่อลดจุดอับสายตาของผู้ขับขี่ แต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแรง ด้วยโครงสร้างที่ใช้เหล็กแรงดึงสูง โดยเฉพาะจุดที่เป็นเสา และจุดที่รับแรงกระแทกจะใช้เหล็กที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ
ไฟหน้า LED Projector พร้อม LED Daytime Running แบบ Signature และไฟท้ายแบบ LED Signature
ดีไซน์ด้านข้าง ลายเส้นจะน้อยลง เพื่อเน้นการสะท้อนเงาที่ชัดเจนและสวยงามยิ่งขึ้น พื้นผิวไร้รอยต่อ โดยเฉพาะช่วงเสา C จะค่อนข้างโดดเด่นมาก
เครื่องยนต์เบนซิน Skyactive-G 2.0 ลิตร 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ Skyactiv-Drive อัตโนมัติ 6 สปีด รองรับน้ำมันได้ถึง E85 อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงตาม ECO Sticker อยู่ที่ 15.9 กิโลเมตรต่อลิตร
ดีไซน์ภายใน Mazda3 2.0 SP Sports
ภายในดูหรูหราพรีเมี่ยม ทัศนวิสัยเมื่อมองจากภายในรถ ชัดเจนลดมุมอับ แผงคอนโซลเอียงหาตัวผู้ขับขี่ และปุ่มต่างๆ อยู่ในตำแหน่งที่ผู้ขับขี่ใช้งานได้สะดวก เบาะปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมเมมโมรี่ 2 จุดที่ครอบคลุมไปถึงการปรับกระจกมองข้างด้วย และเมื่ออยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอย กระจกมองข้างจะปรับมุมต่ำลงแบบอัตโนมัติ
นอกจากนี้ ภายในยังหรูหราเหนือคู่แข่ง ด้วยหลังคาซันรูฟที่สามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
มาตรวัดดิจิตอล TFT LCD พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี บนกระจกหน้า (Windshield Active Driving Didplay) พื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ ไม่ต้องละสายตาจากการมองถนน
หน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน รองรับการเชื่อมต่อ CarPlay เพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยกล้องรอบคันแบบ 360 องศา แสดงผลที่จอเครื่องเล่น
ระบบความบรรเทิงครบครัน พร้อมลำโพง Bose 12 ตำแหน่ง
ระบบช่วงล่าง ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม (คานแข็ง) มีระบบ GVC PLUS ที่ต่อยอดขึ้นมาจากระบบ G Vectoring Control ช่วยลดการหักเหของตัวรถ โดยการเพิ่มแรงเบรก เพื่อรักษาเสถียรภาพการทรงตัวได้ดีมากขึ้น
Mazda3 2022 มาพร้อมเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE ที่ช่วยป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากมายหลายระบบ ประกอบด้วย
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Reverse Crossing)
- ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS (Adaptive Front-Lighting System)
- ระบบเตือนเมื่อเกิดความอ่อนล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane Keep Assist System)
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
- ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse)
- ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support)
- ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps)
- ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง
ทดสอบขับขี่ Mazda3 2.0 SP Sports
สำหรับฟีลลิ่งในการขับขี่ เส้นทางที่ใช้ในการทดสอบครั้งนี้ เราเริ่มสตาร์ทออกตัวที่โรงแรมโพธาลัย เลเชอร์ พาร์ค กรุงเทพฯ ระยะทางในการทดสอบช่วงแรกอยู่ที่ประมาณ 215 กิโลเมตร ในช่วงกิโลเมตรที่ 1-160 ผมได้ทดลองนั่งที่เบาะหลังครับ ผมสูง 175 ซม. ฐานรองนั่งใหญ่พอเหมาะ พนักพิงด้านหลังรองรับถึงช่วงประมาณหัวใหล่ ส่วนพนักพิงศีรษะ รองรับส่วนที่เหลือที่เหนือจากหัวใหล่ขึ้นมา พื้นที่ช่องว่างระหว่างศีรษะกับเพดาน มีระยะห่างเหลือเฟือครับ
ที่วางเท้า จะคับแคบไปหน่อยครับ แต่ก็วางได้ปกติ ระยะห่างของหัวเข่ากับเบาะหน้า ถ้านั่งแบบปกติก็นั่งได้ไม่มีปัญหาอะไรครับ แต่เมื่อไรที่รู้สึกง่วง ด้วยสัญชาตญาณของคนที่จะหลับ เราจะต้องไหลตัว เพื่อให้ศีรษะพิงได้เต็มขึ้น ตอนนั้นล่ะครับ หัวเข่าของเราจะไปดันกับเบาะหน้า จนทำให้เริ่มรู้สึกอึดอัด
เบาะหลังถ้านั่งแบบสบายไม่อึดอัด ก็นั่งได้ 2 คนครับ แต่เมื่อไหร่ที่นั่งหลังมากกว่า 2 คน คนที่นั่งตรงกลางจะลำบากหน่อย เพราะพื้นกลางจะเว้าขึ้นมาด้านบนเยอะ คนที่นั่งกลางจะต้องชันเข่าครับ
หลังจากที่ทดสอบเป็นผู้โดยสารนั่งเบาะหลังมาเป็นระยะทางกว่า 160 กิโลเมตร ถึงคราวที่ผมจะต้องมาขับบ้างละ
เริ่มจากท่านั่งก่อนเลยครับ ตัวเบาะนั่งแล้วรู้สึกกระชับ นั่งแล้วผ่อนคลาย มุมมองต่างๆชัดเจน ไม่อึดอัด
ช่วงที่กดคันเร่ง ความเร็วจาก 0-100 เครื่องยนต์ตอบสนองได้ดีครับ ไม่หน่วง จากนั้นผมได้กรอคันเร่งรอที่ความเร็ว 100 กม./ชม. และกระแทกคันเร่งออก ตัวรถพุ่งออกไปแบบลื่นไหล แต่ไม่ถึงกับหวือหวามากครับ และที่ผมชอบมากๆเลยก็คือ ตอนเล่นเกียร์แพดเดิ้ลชิพที่พวงมาลัย ช่วงที่เชนเกียร์และกระแทกคันเร่ง เสียงเครื่องยนต์และท่อไอเสียเพราะมากครับ ได้อารมณ์เสียงเหมือนรถสปอร์ตขนาดย่อมๆเลยทีเดียว เสียงท่อดังทุ้มๆ เพราะดีครับ
บางช่วงเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยว มีหลายโค้ง ผมไม่รอช้า ขอลองสาดโค้งเล่นซะหน่อย จากการทดสอบ ตัวรถนิ่งมาก ไม่โยน ไม่ปัด เกาะถนน นิ่งและหนึบมากๆ เรื่องช่วงล่างผมยกนิ้วให้เลยครับ ซื้อไปแล้วไม่ต้องไปปรับอะไรเพิ่มเติมเลย พวงมาลัยก็น้ำหนักพอดีมือ แม่นยำ ควบคุมได้ง่าย
การเก็บเสียง ก็อยู่ในเกณฑ์เงียบครับ เค้าได้ Damping Bond รอบคัน เพื่อลดเสียงรบกวน ลดอาการสั่นสะเทือน อุดช่องต่างๆเพื่อลดเสียงรบกวน
อีกระบบที่ผมชอบในรถคันนี้คือ Adaptive Cruise Control เป็นระบบที่ใช้งานได้ง่าย โดยระบบนี้จะเป็นการล๊อกความเร็วตามรถคันหน้า เมื่อรถคันหน้าหยุด รถเราก็หยุดตาม เมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ รถเราก็เคลื่อนที่ตาม ซึ่งสามารถตั้งระยะห่างได้ 4 ระดับ ถือเป็นตัวช่วยที่ดีเมื่อต้องขับรถนานๆ
โดยจุดหมายปลายทางของเราในทริปนี้ อยู่ที่ เมอเวนพิค รีสอร์ท เขาใหญ่ เป็นรีสอร์ทที่สวยงามโรแมนติกมากครับ ถ้าใครมากับแฟน บอกเลยว่าฟิน... แน่นอน รายล้อมด้วยบรรยากาศธรรมชาติเงียบสงบ ที่สร้างขึ้นตามรูปแบบบ้านและโรงแรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทัสแคน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี 23 องศาเซลเซียส แต่ในวันที่ผมไป มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20 องศา หนาวกำลังดีเลย
วันรุ่งขึ้นถึงเวลาที่ต้องขับกลับกรุงเทพฯ ซึ่งขากลับนี้ ผมขับไม้เดียวยิงยาวถึงกรุงเทพฯ ขับแบบตีนผีมากครับ ต้องทำเวลา เพราะช่วงบ่ายมีงานต่อ เหยียบคันเร่งคิกดาวน์จนพื้นแทบทะลุ ในขณะที่ทำความเร็วสูงตัวรถมีการทรงตัวที่ดีมากครับ ช่วงล่างไม่ร่อน เข้าโค้งมั่นใจ ถือเป็นรถที่ขับสนุกมากรุ่นนึงเลยทีเดียว รวมระยะทางในทริปนี้ประมาณ 400 กม.
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง New Mazda3 รุ่น 2.0 SP Sports
- ขับในเมือง แบบรถติด สลับถนนโล่ง ได้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 12.0 กม./ล.
- ขับทางไกล ถนนโล่ง ใช้ความเร็ว 120-130 กม./ชม. ได้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 13 กม./ล
- ขับแบบตีนผี มีเท่าไหร่ใส่หมด ได้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ประมาณ 11.3 กม./ล
Mazda3 2022 ทั้งรุ่นฟาสท์แบค 5 ประตู และซีดาน 4 ประตู จำหน่ายในราคาเดียวกัน
- Mazda3 รุ่น 2.0 C และ 2.0 C Sports ราคา 979,000 บาท
- Mazda3 รุ่น 2.0 S และ 2.0 S Sports ราคา 1,069,000 บาท
- Mazda3 รุ่น 2.0 SP และ 2.0 SP Sports ราคา 1,198,000 บาท
Mazda3 2022 มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี
- สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
- สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
- สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz)
- สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray) มีเฉพาะในรุ่นฟาสท์แบค
- สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
- สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver)
- สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น