Subaru XV EyeSight 2022 การมาถึงของรถยนต์นั่งแบบ SUV ที่นอกจากขับสนุกแล้ว ในโมเดลนี้ยังได้อัพเกรดระบบความปลอดภัยขั้นสุดกับ Subaru EyeSight ที่จะช่วยให้ทุกการเดินทางของคุณ สะดวก และปลอดภัยมากกว่าเดิม
Subaru XV EyeSight
Subaru XV EyeSight ส่วนเติมเต็มของตระกูลรถยนต์ Compact Crossover จากซูบารุ ที่แต่เดิม หากคุณต้องการใช้งานเจ้าระบบ Adaptive Cruise Control อันสุดแสนชาญฉลาดของ Subaru นั่น จำเป็นต้องซื้อรุ่น Subaru Forester EyeSight เท่านั้น เพราะในตระกูล XV จะไม่มีเจ้ากล้อง EyeSight มาให้นั่นเอง ทำให้ท่านที่อยากได้รถแบบครอสโอเวอร์ที่ดูวัยรุ่นสักหน่อยอย่าง XV ไม่มีฟังก์ชั่นเด็ดๆ นี้ให้ใช้
การมาถึงของ Subaru XV EyeSight เรียกได้ว่าเป็นการเติมเต็ม Line up ของรถยนต์ Subaru SUV ให้มีระบบ EyeSight ให้เลือกกันทุกไซส์เลยทีเดียว จากก่อนหน้าที่ต้องซื้อรุ่น Forester EyeSight ไม่ก็อยากสุด ก็ต้องจบที่ Subaru Outback ไปเลยทีเดียว
Subaru XV EyeSight ภายนอก
Subaru XV EyeSight แม้ภายนอกดูคล้ายของเดิม แต่เค้าก็มีการอัพเกรดมาใหม่เช่นกัน เริ่มต้นจากกระจังหน้ารถ ดีไซน์ใหม่ พร้อมกล้อง 360 องศา และกันชนดีไซน์ใหม่
ไฟหน้า LED เต็มระบบ ในโคมรมดำ ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับระบบปรับไฟสูง-ต่ำ อัตโนมัติ
กล้อง 360 องศา มาเป็นอุปกรณ์พื้นฐานของรถรุ่นนี้ นอกจากนี้ กระจกมองข้างฝั่งซ้าย มาพร้อมกับฟังก์ชั่นปรับระดับอัตโนมัติ เมื่อเราทำการถอยจอดรถ
ล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 17 นิ้ว รัดยางขนาด 225/60 R17 นอกจากนี้ตัวช่วงล่างยังได้อัพเกรดสปริงใหม่ ให้มีความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น เอาว่านั่งเบาะแถวหลัง หลับสบายได้แม้ลุยเส้นทางที่ไม่ราบเรียบ
มีราวหลังคามาพร้อมให้ติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ
ไฟท้ายดีไซน์เหมือนรุ่นพี่ เพิ่มเติมที่การรมดำ ดูสปอร์ตมากขึ้น
ฝาท้ายระบบ Manual ความจุห้องสัมภาระอยู่ที่ 310 ลิตร
Subaru XV EyeSight มีอะไรดี?
นอกจากดีไซน์ภายนอกที่ปรับปรุงให้มีความแตกต่างจากรุ่นปกติแล้ว ไฮไลท์สำคัญของรถรุ่นนี้ นั่นคือระบบ Subaru EyeSight Driver Asist นั่นเอง
โดยระบบ Subaru Eyesight เป็นระบบที่ทำงานเปรียบเสมือนกับดวงตาคู่ที่สอง เป็ยผู้ช่วยในระหว่างการขับขี่ โดยอาศัยการทำงานจากชุดกล้อง 2 ตัว ที่ติดตั้งไว้หลังกระจกมองหลัง คอยตรวจสอบระยะห่างจากรถคันหน้า, คนเดินเท้า ตลอดจนคนปั่นจักรยาน ซึ่งสามารถตรวจสอบและระวังได้ในระยะ 110 เมตร
ระบบ EyeSight จะทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด หากใช้งานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control โดยตัวรถจะควบคุมระยะห่างระหว่างรถของเรากับคันหน้าให้โดยอัตโนมัติ และจะใช้ความเร็วสูงสุดตามที่เรากำหนดทุกประการ
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบเบรกล่วงหน้าก่อนการปะทะ Pre-Collision Braking, ระบบควบคุมคันเร่งป้องกันการชน Pre-Collision Throttle Management, ระบบเตือนการออกนอกเลน Lane Departure, ระบบช่วยควบคุมให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist และ ระบบเตือนรถด้านหน้าออกตัว Lead Vehicle Start Alert เพื่อให้มีความปลอดภัย และเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น
เบาะคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชันจดจำตำแหน่งเบาะ เซฟได้ 2 โปรไฟล์
ข้อมูลทางเทคนิค Subaru XV EyeSight 2022
เครื่องยนต์ | ฺBoxer 4 สูบนอน DOHC 4 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ |
ปริมาตรกระบอกสูบ | 1,995 ซีซี |
พละกำลังสูงสุด | 156 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที |
แรงบิดสูงสุด | 196 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที |
เกียร์ | CVT 7 สปีด |
ระบบขับเคลื่อน | 4 ล้อแบบสมมาตร พร้อม X-Mode |
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. | 10.4 วินาที |
อัตราสิ้นเปลือง | 13.7 กม./ลิตร |
ตัวถัง | Subaru Global Platform |
ระบบกันสะเทือนหน้า / หลัง | แมคเฟอร์สันสตรัท / ปีกนกคู่ |
ระบบเบรคหน้า/หลัง | ดิสเบรค พร้อมครีบระบายความร้อน |
ขนาดยางล้อ | 225 / 60 R17 |
มิติรถ
ขนาด ยาว x กว้าง x สูง (มม.) | 4,465 x 1,800 x 1,615 |
ระยะฐานล้อ | 2,665 มม. |
ระยะต่ำสุดจากพื้น | 220 มม. |
น้ำหนักรถเปล่า | 1,435 กก. |
น้ำมันเชื้อเพลิง | 63 ลิตร |
ทดลองขับ Subaru XV EyeSight 2022
ในส่วนของการทดสอบขับขี่ Subaru XV EyeSight 2022 นี้ เราได้ทำการทดสอบขับขี่จากกรุงเทพมหานคร ไปยังจังหวัดกาญจนบุรี ผ่านเส้นทางทั้งในเมือง, ไฮเวย์, ทางเขาคดเคี้ยว รวมไปถึงเส้นทางออฟโรดเบาๆ พอให้ได้ทดสอบช่วงล่างของเจ้ารถคันนี้ และได้ลองว่าระบบขับ 4 แบบสมมาตรของ Subaru XV ทำงานเป็นอย่างไร
ขับ Subaru XV EyeSight ในเมือง
การขับ Subaru XV EyeSight ในเมือง บอกเลยว่าเป็นอะไรที่ฟินมากๆ ด้วยจุดเด่นของระบบ EyeSight ที่ทำให้ระบบ Adaptive Cruise Control ของเค้า ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยสามารถติดตามรถคันหน้าได้ถึงความเร็ว 0 กม./ชม. เลยทีเดียว และสามารถออกตัว วิ่งตามรถคันหน้าต่อได้ง่ายๆ เพียงสะกิดคันเร่งเบาๆ เพียงครั้งเดียว
นอกจากนี้ ก็ไม่ต้องกลัวเหม่อลอย เพราะเค้ามีเสียงเตือนเมื่อรถคันหน้าขยับมาให้ด้วย อันนี้ดีมากๆ
ช่วงล่างในการขับในเมือง ถือว่าเหมาะสมมากๆ เพราะตัวรถมีการซับแรงกระแทกที่ดี พวงมาลัยคม น้ำหนักเบา ขับง่าย ตัวรถมีระยะห่างใต้ท้องรถมหาศาลถึง 220 มม. เอาว่าไม่ต้องกลัวลูกระนาดยักษ์, ตัวกันล้อแบบดักรถบัส, คอสะพาน, เนินชัน เจ้ารถคันนี้ไม่กลัวขูดแน่นอนครับ
เครื่องยนต์เบนซิน Boxer 4 สูบนอน 2.0 ลิตร 196 แรงม้า ถือว่าเหลือเฝือกับการใช้งานในเมือง โดยลักษณะการทำงานเค้าจะออกแนวนุ่มเนียน โดยข้อสังเกตุเดียวของรถรุ่นนี้คืออัตราการซดน้ำมันจะสูงสักนิดครับ แต่ก็แลกมาด้วยระบบความปลอดภัยครับ
ขับ Subaru XV EyeSight ทางไกล
ในส่วนของการขับเดินทางไกลนั้น ถือว่าทำได้ดีมากๆ ตัวรถมีทัศนวิสัยที่ดี อันนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นของรถยนต์ Subaru อยู่แล้ว ในเรื่องของทัศนวิสัยการมองเห็นของผู้ขับขี่ ถือว่าออกแบบมาได้ดีในทุกรุ่น
ทางด้านช่วงล่างนั้น ถือว่าได้ใช้งานคุ้มค่ามากๆ กับการขับขี่เดินทางไกล ตัวช่วงล่างที่อัพเกรดมาใหม่นี้ถือว่าซับแรงกระแทกได้ดีมากๆ กล้าบอกได้เลยว่าหากคุณนอนหลับอยู่ที่เบาะหลัง หัวไม่สั่นแน่นอนครับ
ที่ผมชื่นชอบเลย นั่นคือเรื่องระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตรของเค้า ที่ทำให้เรามั่นใจทุกการสาดโค้งแน่นอน เพราะล้อทั้ง 4 ของรถนั้นทำการขับเคลื่อนตลอดเวลา ทำให้รถเค้ามีพลังการยึดเกาะที่สูงมากกว่ารถแบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือล้อหลังเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ ตัวรถเค้าก็มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำมากๆ ทำให้เกิดอาการโยนที่ค่อนข้างน้อยครับ
การขับขี่ขึ้นเขา ถือว่าทำได้ดี ตัวรถมีพละกำลังส่งมาอย่างนุ่มนวล ต่อเนื่อง ไม่มีตก แถมเกาะทุกโค้ง อันนี้ทำได้ดีมาก
ส่วนระบบ EyeSight นั้น ก็ช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งระบบรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า, ระบบเตือนการออกนอกเลน และระบบ Adaptive Cruise control อันนี้ได้ใช้กันบ่อยๆ เลยครับ
ข้อเสียเดียว ตกเป็นของเครื่องยนต์เต็มๆ ที่มีกำลังไม่ค่อยปรู๊ดปร๊าดเท่าไหร่นัก หากจะเร่งแซง ควรชิพเกียร์ที่ Paddle shift ลงสัก 1-2 เกียร์ และกดคันเร่งเต็มๆ ไปเลย ก็ยังพอมีเรี่ยวแรงเอาไว้เร่งแซงได้แบบนุ่มๆ ครับ
Subaru XV EyeSight ขับทางฝุ่น
เนื่องจากรถคันนี้ มีการอัพเกรดช่วงล่างมาใหม่ ให้มีความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น เราจึงไปลองกันสักนิดแบบพอหอมปากหอมคอสักหน่อย โดยเส้นทางที่ไปกันนั้นจะเป็นทางลูกรัง, กรวด ไปจนถึงหินลอยก้อนใหญ่ และหลุมบ่อ พอสนุกๆ ครับ
สิ่งที่พบได้อย่างชัดเจน นั่นคือช่วงล่างใหม่นี้ ซับแรงกระแทกได้ค่อนข้างน่าประทับใจครับ มีความนุ่มนวลมากกว่ารุ่นเดิมอย่างชัดเจน เอาว่าการอัพเกรดช่วงล่างมารอบนี้ คุ้มค่ามากๆ
สรุป Subaru XV EyeSight เหมาะกับใคร
โดยสรุปแล้ว สำหรับเจ้า Subaru XV EyeSight คันนี้ เหมาะสำหรับท่านที่มองหารถยนต์ Crossover ที่ขับสนุกสักคันหนึ่ง ที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกที่จัดเต็มมากๆ อีกรุ่นหนึ่ง เหมาะกับผู้ใช้งานกลุ่มครอบครัวระดับเริ่มต้น ที่ต้องการรถที่มีรูปลักษณ์วัยรุ่นอยู่บ้าง เจ้า Subaru XV EyeSight คันนี้ ตอบโจทย์ครับ
แต่ ต้องพึงระลึกไว้เสมอว่า นี่เป็นรถที่เน้นความปลอดภัย เน้นขับเรื่อยๆ ไม่ได้ต้องการไล่บี้ ขยี้ใครบนท้องถนนนะครับ (จะว่าอืดก็ได้)
แต่ที่ 2 จะว่าอืด ก็ไม่เชิง เพราะรถเค้าก็สามารถทำความเร็วยืนพื้นระดับ 120 กม./ชม. ได้แบบสบายๆ เอาว่าถ้าใจถึง พึ่งได้สักนิด อยากให้ลอง "เข้าโค้ง" ด้วยความเร็วที่มากกว่ารถคันหน้าสัก 5% ครับ แล้วจะเข้าใจว่าเจ้าระบบขับ 4 ของ Subaru นั้น ทำให้เรามั่นใจทุกโค้งขนาดไหน
เพราะอีกสโลแกนของ Subaru คือ "ทางตรงไปก่อน ทางโค้งเจอกัน"
ราคา Subaru XV EyeSight
Subaru XV EyeSight ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ 1,299,000 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่
-
Pure White
- Ice Silver Metallic
- Crystal Black Silica
- Dark Blue Pearl
- Cool Grey Khaki
- เฉดสีใหม่ Magnetite Grey Metallic
นอกจากนี้ ผู้ที่สนใจสามารถเสริมออปชั่นชุดอุปกรณ์ตกแต่ง GT ที่ผลิตโดยมอเตอร์ อิมเมจ ร่วมมืออย่างใกล้ชิดจากบริษัทวิศวกรรมชื่อดัง Giken Co. Ltd และ มาซาฮิโกะ โคบายาชิ หรือ แจ็ค (Mr. Masahiko “Jack” Kobayashi) ในราคา 90,000 บาท หรือราคาสุทธิ 1,389,000 บาท เพิ่มความสปอร์ตให้ซูบารุเอ็กซ์วีใหม่ด้วย
- สเกิร์ตหน้า
- สเกิร์ตข้าง
- สเกิร์ตหลัง
- สปอยเลอร์หลังคา
- ล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษขนาด 18 นิ้ว
- เบาะหนังดีไซน์พิเศษ
Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็กวันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ
ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น