Mitsubishi เปิดตัวโรงงานพ่นสีแห่งใหม่ Share this

Mitsubishi เปิดตัวโรงงานพ่นสีแห่งใหม่

Wongsupat
โดย Wongsupat
โพสต์เมื่อ 17 March 2565

มิตซูบิชิ ทุ่มงบกว่า 3 พันล้านบาท เปิดตัวโรงงานพ่นสีแห่งใหม่ สอดคล้องแผนธุรกิจระยะกลาง ชูเทคโนโลยีชั้นนำของโลกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมลงทุนทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยต่อเนื่อง


Mitsubishi เปิดตัวโรงงานพ่นสีแห่งใหม่

ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า มิตซูบิชิ ได้เปิดตัวโรงงานพ่นสีระดับโลกแห่งใหม่ ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี วงเงินลงทุน 3,000 ล้านบาท ด้วยการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีอันทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการสนับสนุนการก้าวไปสู่การเป็นสังคมคาร์บอนสมดุลและความยั่งยืนของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการบรรลุวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมปี 2593 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ส่งเสริมการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ และป้องกันการเกิดมลพิษ

โรงพ่นสีใช้เทคโนโลยีทันสมัย

โรงงานพ่นสีที่แหลมฉบังนี้ ใช้เทคโนโลยีการพ่นสีอันทันสมัย เพื่อความมั่นใจในประสิทธิภาพสูงสุดของกระบวนการการพ่นสี โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่ที่มีความยากและซับซ้อน เช่น ระบบซีลตัวถังอัตโนมัติ (Sealer Automation) หุ่นยนต์ และปืนพ่นสีนำประจุไฟฟ้า (Electrostatic Spray Gun) ลูกค้าจะได้รับความพึงพอใจในคุณภาพสีชั้นเยี่ยมของรถยนต์มิตซูบิชิ โรงงานพ่นสีแห่งใหม่ล่าสุดนี้ ได้รับการออกแบบอย่างดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต ด้วยเป้าหมายของการลดมลพิษ ลดของเสียให้น้อยที่สุด ใช้ทรัพยากรอย่างเต็มประสิทธิภาพ และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผ่านกระบวนการในการพ่นสีต่างๆ ได้แก่ ระบบตลับสี (Cartridge Paint System), ระบบเทคโนโลยีการบำบัดมลพิษในอากาศ (Regenerative Thermal Oxidation - RTO) และเทคโนโลยีสีฐานน้ำ (Waterborne) ในทุกๆ ขั้นตอนของการผลิต จะสามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย หรือ Volatile Organic Compounds (VoCs) สู่สภาพแวดล้อม ได้ถึง 50% ส่วนโรงงานบำบัดน้ำเสีย ช่วยในการน้ำกลับมาใช้ใหม่และลดการปล่อยน้ำเสียได้ถึง 50% 

“โรงงานพ่นสีแห่งใหม่นี้ ยังสอดคล้องกับแผนธุรกิจระยะกลางสำหรับปี พ.ศ. 2563 – 2565 ของเรา ที่ให้ความสำคัญกับประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะตลาดยุทธศาสตร์สำคัญ ไม่เพียงแค่การขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในระดับภูมิภาคและระดับโลกเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงการเปลี่ยนแปลงธุรกิจของเราไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน และเสริมสร้างศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยและภูมิภาค”

ปัจจุบัน โรงงานที่แหลมฉบังมีกำลังการผลิตมากกว่า 400,000 คันต่อปี โดยผลิตรถยนต์ทั้งหมด 5 รุ่น ได้แก่ มิตซูบิชิ ไทรทัน, มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต, มิตซูบิชิ มิราจ, มิตซูบิชิ แอททราจ และ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี โดย มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี, ไทรทัน และปาเจโร สปอร์ต จะได้รับการพ่นสีในโรงงานพ่นสีแห่งใหม่นี้

ด้านเออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 3 พันล้านบาท ในการก่อสร้างโรงงานพ่นสีแห่งนี้ ซึ่งเป็นแผนการลงทุนระยะยาวในการผลิตและจัดจำหน่ายยานยนต์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพสีระดับโลก ในประเทศไทย ทั้งยังติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อเป็นแหล่งพลังงานทางเลือก มีกำลังผลิตไฟฟ้าที่ 2 เมกะวัตต์ หากรวมกับที่ติดตั้งไปแล้วก่อนหน้านี้ ที่โรงงานอีกแห่ง จะสามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงปีละ 6,100 ตัน

มิตซูบิชิ มินิแค็บ มีฟ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกของบริษัท ดังนั้น จึงมีการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีแผนผลิตรถ xEV ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาความชัดเจน รวมถึงพิจารณาร่วมกับการสนับสนุนของรัฐบาลในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าด้วย

“ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังเป็นตลาดที่เล็ก จำเป็นจะต้องศึกษาตลาดในหลายๆส่วน เพราะข้อจำกัดของรถยนต์ไฟฟ้าหลักๆ มี 2 ส่วน คือสถานีชาร์จ กับระยะทางที่วิ่ง ว่าสามารถวิ่งไกลได้แค่ไหน แม้บางค่ายรถบอกวิ่งได้  400-500 กม/ชาร์จ แต่เมื่ออากาศร้อน รถอาจวิ่งไม่ถึง เราจึงต้องศึกษาชัดเจน” 

ก่อนหน้านี้ มิตซูบิชิ ปตท. และ บริษัทไปรษณีย์ไทย ได้ศึกษาเรื่องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicles หรือ BEV) เพื่อการพาณิชย์ด้วย รถมิตซูบิชิ มินิแค็บ มีฟ ว่าจะเป็นอย่างไร หากประสบความสำเร็จก็จะนำรถยนต์ไฟฟ้าดังกล่าวเข้ามาในไทย เพราะมองว่ารถเพื่อการพาณิชย์อย่างรถมิตซูบิชิ มินิแค็บ มีฟ เพื่อการขนส่งน่าสนใจกว่ารถยนต์นั่ง

ส่วนการส่งออกรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบระหว่างยูเครนและรัฐเซียนั้น อาจล่าช้าบ้างในช่วงนี้ โดยมิตซูบิชิมีตัวแทนจำหน่ายในยูเครน การค้าขายส่วนนั้นจะหยุดไปก่อน ขณะที่โรงงานในรัสเซียยังมีชิ้นส่วนอยู่ จึงยังไม่หยุดผลิตหรือจะประกอบจนกว่าชิ้นส่วนนั้นๆ จะหมด 

ในปี 2021 มิตซูบิชิผลิตรถกระบะได้ 185,000 คัน ส่งออกไปทิ้งสิ้น 80% ไปยัง 120 ประเทศทั่วโลก โดยมีตลาดหลักๆ อาทิ ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย ยุโรป และอาเซียน 


Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็กวันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ
ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ One2car


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ