Nissan Navara PRO-2X ตอบโจทย์การใช้งานได้มากขึ้นด้วยระบบความปลอดภัยที่มีให้อย่างครบครัน อีกทั้งยังมาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว พร้อมลุย
ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีต่าง ๆ ก็เข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตมากขึ้น รวมไปถึงรถยนต์ หากย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน จะเห็นได้ว่ารถยนต์ในยุคนั้น แทบจะไม่มีฟังก์ชันอะไรเลย จะมีให้ก็แค่อุปกรณ์พื้นฐานเท่านั้น แต่ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น จึงทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ต่างพัฒนารถในสังกัดของตัวเองให้สอดคล้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป รวมไปถึงค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น อย่าง Nissan ที่ได้นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ อันล้ำสมัยมาประจำการในรถกระบะรุ่นยอดนิยมอย่าง Nissan Navara PRO-2X
ในบทความนี้ ออโต้สปินน์ ได้มีโอกาสนำรถทดสอบ Nissan Navara PRO-2X มาใช้งานอยู่หลายวัน ได้ทดสอบระบบต่าง ๆ ในรถคันนี้ บนเส้นทางแบบออนโรด และเส้นทางกึ่งออฟโรด เลยอยากใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อเล่าสู่กันฟังครับ
ดีไซน์ภายนอก Nissan Navara PRO-2X
Nissan Navara PRO-2X คันนี้ เป็นรุ่นตัวถังแบบสี่ประตูยกสูง ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ในราคา 999,000 บาท ตัวถังสีแดง เบิร์นนิ่ง เรด ซึ่งเป็นสีที่ดูโดดเด่นมาก ๆ เมื่ออยู่บนท้องถนน ประกอบกับหน้าตาที่มาในลุคของความดุดัน ทันสมัย หล่อ เท่ มีความเป็นวัยรุ่นมากขึ้น
ด้วยความที่ตัวรถเป็นสีแดง เมื่อตัดกับสีดำของกระจังหน้าขนาดใหญ่ ยิ่งทำให้ตัวรถดูโหดขึ้น หน้าตามีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน มองเห็นแต่ไกลก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือรถนิสสัน
ไฟหน้าเป็นแบบ Quad-Eye LED Projector ออกแบบได้อย่างสวยงามและดูมีรายละเอียด ซึ่งภายในจะมีหลอดไฟอยู่ทั้งหมด 4 ดวง เมื่อเปิดไฟต่ำ 2 ดวงล่างจะติด แต่ถ้าเปิดไฟสูงจะติดทั้งหมด 4 ดวง นอกจากนี้ยังมีไฟ Daytime Running และไฟตัดหมอกมาให้อีกด้วยครับ
ในรุ่น PRO-2X ไม่ว่าตัวรถจะสีไหนก็แล้วแต่ แต่กระจกมองข้างจะได้เป็นสีดำเงา พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED และเรายังสามารถตั้งค่าให้กระจกมองข้างพับเก็บเองแบบอัตโนมัติเมื่อล๊อครถได้อีกด้วย นอกจากนี้ที่ใต้กระจกทั้งฝั่งซ้ายและขวาจะมีกล้องฝังเอาไว้ ซึ่งกล้องตัวนี้จะทำหน้าที่ในระบบมุมมองภาพแบบรอบทิศทาง
ดีไซน์ด้านข้างโดดเด่นด้วยคิ้วซุ้มล้อสีดำด้าน มีบันไดข้างขนาดใหญ่เหยียบได้เต็มเท้า และล้ออัลลอยแบบออฟโรดสีดำขนาด 17 นิ้ว ซึ่งเป็นสีพิเศษที่มีเฉพาะในรุ่น PRO-2X และ PRO-4X เท่านั้น และในรุ่นนี้กระจก 3 บานหน้า จะเป็นแบบกระจกใส ส่วน 3 บานหลัง จะเป็นสีชา
แร็คหลังคาสีดำเงา ตัดกับสีตัวถังอย่างชัดเจน มีเฉพาะในรุ่น PRO-2X และ PRO-4X เท่านั้น
กระบะท้ายออกแบบใหม่ให้มีสปอยเลอร์ในตัว รับเข้ากับฝาปิดกระบะที่มีระบบช่วยผ่อนแรง น้ำหนักเบามือมากครับ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ก็สามารถเปิดได้แบบสบาย และที่ข้างมือเปิด คือตำแหน่งของกล้องมองหลัง ในส่วนของไฟท้ายเป็นแบบ LED และมีเซนเซอร์ถอยให้ 4 จุดที่กันชนท้าย
ดีไซน์ภายใน Nissan Navara PRO-2X
ห้องโดยสารกว้างนั่งสบาย ในส่วนของภายใน เป็นเบาะหนังสีดำ เบาะนั่งคู่หน้าออกแบบด้วยนวัตกรรม Zero Gravity รองรับกับแนวกระดูกสันหลัง ตามหลักสรีระศาสตร์ เวลาเราขับรถนาน ๆ จะไม่รู้สึกปวดหลัง และที่กลางเบาะยังเดินด้ายเย็บเล่นลวดลายที่สวยงาม ช่วยเสริมให้ตัวรถดูหรูหราขึ้น
หากใครที่ต้องขับรถนาน ๆ คงทราบกันดีว่าที่พักแขนมีประโยชน์มาก เพราะช่วยรองรับช่วงข้อศอกในขณะขับขี่ ลดความเมื่อยล้าในการขับรถได้ดีเลยทีเดียว และเมื่อเปิดเข้าไปข้างใน จะพบกับช่องจ่ายไฟ 12V. ,ช่องเสียบ USB Type A และ USB Type C
สำหรับเบาะหลังนั้น ลวดลายก็สวยไม่แพ้เบาะหน้าเลยครับ จากการทดสอบนั่งเป็นระยะทางประมาณ 50 กม. ถือเป็นเบาะที่นั่งได้สบาย นุ่มกำลังดี ตรงกลางโค้งเว้ารับกับสรีระ เมื่อนั่งแล้วรู้สึกกระชับ ไม่อึดอัด และยังมีแอร์หลังมาให้อีกด้วยครับ ไม่ว่าจะนั่งตำแหน่งไหน แอร์ก็เย็นฉ่ำทั่วถึงทั้งคัน นอกจากนี้ยังมีช่อง USB สำหรับชาร์จโทรศัพท์ไว้คอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารตอนหลัง
พวงมาลัยแบบ 3 ก้านหุ้มหนัง ปุ่มที่อยู่ฝั่งซ้าย สำหรับควบคุมระบบเครื่องเสียง และกดดูค่าต่าง ๆ ของหน้าจอเรือนไมล์ ส่วนปุ่มทางฝั่งขวาสำหรับปรับตั้งค่า Cruise Control นอกจากนี้ ที่ปัดน้ำฝน และไฟหน้า เรายังสามารถตั้งแบบออโต้ได้อีกด้วยครับ ถือเป็นฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ เพราะการขับรถตอนกลางคืน ในบางครั้งเราลืมเปิดไฟหน้า ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมากครับ แต่สำหรับคันนี้หมดกังวลไปได้เลย
ระบบความบันเทิงครบครัน มาพร้อมจอเครื่องเล่นทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto การเชื่อมต่อทำได้ไวและเสถียรมากครับ รวมถึงยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่อุปกรณ์ไฟฟ้าผ่าน USB Port ในแผงควบคุมด้านหน้าได้อีกด้วย
สำหรับการเปิดแผนที่นำทาง สามารถทำได้ 2 แบบ คือ 1. ดึงแผนที่นำทางจากในโทรศัพท์ขึ้นที่หน้าจอผ่านการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ 2. กดปุ่ม MAP ที่หน้าจอเครื่องเล่น เพื่อเปิดแผนที่นำทางของตัวรถ มีให้เลือกทั้งแบบ 2 และ 3 มิติ เรียกได้ว่าสะดวกสบายสุด ๆ ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็ไม่ต้องกลัวหลงเลยล่ะครับ
Nissan Navara PRO-2X ตัวรถมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และสิ่งที่หลายท่านมักกังวลเวลาขับรถคันใหญ่คือ กลัวว่าจะไปเฉี่ยวชนกับคันอื่น เพราะรถคันใหญ่มักมีมุมอับเยอะ โดยเฉพาะการขับใช้งานในเมืองที่การจราจรแออัด แต่จากการทดสอบ บอกเลยว่า Nissan Navara PRO-2X เป็นรถที่ขับง่ายมาก มีเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน แบบจัดเต็ม อย่างเช่น Intelligent Around View Monitor (IAVM) หรือ กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง ผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน โดยกล้องทุกตัวจะจับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอกลาง เมื่อขับผ่านที่แคบ หากเซนเซอร์ตรวจจับได้ว่ารอบข้างมีสิ่งกีดขวางที่อาจก่อให้เกิดอันตราย จะแสดงภาพเป็นกล้องมุมมองรอบคัน เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น
และเมื่อเราอยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอย จะแสดงภาพเป็นกล้องหลัง พร้อมกับมีเส้นกะระยะแบบเลี้ยวตามพวงมาลัย และเรายังสามารถเลือกเปลี่ยนเป็นมุมกล้องแบบรอบคันได้อีกด้วย ช่วยให้การจอดรถเข้าซองปลอดภัย และตรงช่องเป๊ะ
Nissan Navara PRO-2X ใช้เครื่องยนต์รหัส YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด รองรับน้ำมันดีเซลได้ทุกชนิดทั้ง B7, B10 และ B20 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รหัสเดียวกันกับที่ใช้ใน Nissan Terra
ทดสอบขับ Nissan Navara PRO-2X
Nissan Navara PRO-2X กำลังของเครื่องยนต์มีมากพอที่จะแบกตัวถังขนาดใหญ่ ให้ใต่ระดับความเร็วไปได้เรื่อย ๆ แบบไร้แรงหน่วง เมื่อรถเคลื่อนที่ได้สักพัก ระบบ Auto Speed Lock จะเริ่มทำงาน โดยประตูทั้ง 4 บานจะล๊อคให้เองแบบอัตโนมัติ เพื่อป้องกันการเผลอไปเปิดประตูในขณะที่รถกำลังแล่น โดยช่วงแรกของการทดสอบ เป็นการขับบนถนนดำแบบออนโรด ช่วงที่กำลังไต่ระดับความเร็ว รอบเครื่องมาไว เกียร์ 7 สปีดต่อได้นุ่มนวล เมื่อขับลอยตัวที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. จะใช้รอบเครื่องยนต์เพียงแค่ 1,750 รอบ/นาที เท่านั้น ในจังหวะที่กดคิกดาวน์เพื่อเร่งแซง ก็ทำได้อย่างมั่นใจไม่มีอะไรน่ากังวล
ในส่วนของช่วงล่าง และการทรงตัว ถ้าขับขี่ที่ความเร็วประมาณ 120 กม./ชม. ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ เข้าโค้งได้นิ่ง ไม่ร่อน ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นแหนบซ้อนพร้อมโช้คอัพ ตามสไตล์ของรถกระบะแนวลุย การเก็บเสียง ก็ทำได้ดีและน่าพอใจครับ เพราะรุ่นนี้ใช้เป็นกระจกแบบป้องกันเสียงรบกวน Acoustic Glass ถึง 3 บาน ทำให้ห้องโดยสารเงียบมีความเป็นส่วนตัว
สำหรับการขับขี่ทางไกล หากเราเมื่อยเท้า ก็สามารถตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หรือ Cruise Control ที่พวงมาลัยได้ ซึ่งก็พอช่วยลดความเมื่อยล้าได้อยู่พอสมควร การใช้งานก็ง่ายมากครับ เพียงแค่กดปุ่มที่อยู่ทางฝั่งขวาของพวงมาลัย แล้วก็เลือกระดับความเร็วที่ต้องการ จากนั้นก็ปล่อยเท้าจากคันเร่งได้เลย
การขับรถบนท้องถนน บางทีเราก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่า รถที่อยู่ด้านหน้าจะเบรกแบบกะทันหันเมื่อไหร่ แต่สำหรับ Nissan Navara PRO-2X ช่วยให้ผมอุ่นใจได้มากขึ้น เพราะมีระบบเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (IFCW) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (IEB) โดยระบบจะช่วยวิเคราะห์ระยะห่างระหว่างรถเรากับคันหน้า หากพบว่าอยู่ในระยะที่ไม่ปลอดภัย จะมีเสียงพร้อมกับสัญลักษณ์เตือนที่หน้าจอมอนิเตอร์หลังพวงมาลัย และจะทำการเบรกให้แบบอัตโนมัติเพื่อลดความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ
การขับรถเดินทางไกล ผู้ขับขี่จะเกิดอาการเมื่อยล้าอ่อนเพลียแบบไม่รู้ตัว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายมากครับ แต่สำหรับ Nissan Navara PRO-2X หมดกังวลเรื่องนี้ไปได้เลย เพราะมีเทคโนโลยีเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (IDA) มาให้ด้วย ซึ่งจะขึ้นเป็นรูปสัญลักษณ์ถ้วยกาแฟที่หน้าจอเรือนไมล์ เพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่จอดพัก
การขับขี่บนเส้นทางกึ่งออฟโรด แม้เจ้าคันนี้จะเป็นระบบขับเคลื่อนสองล้อ แต่เนื่องจากเป็นรถยกสูงจึงสามารถขับผ่านหลุมบ่อที่ไม่ได้ลึกมากไปได้แบบสบาย รวมไปถึงการใช้ความเร็วในทางฝุ่น ระบบ Traction Control ทำงานได้ดีมาก ขับออกตัวแรง ๆ ไม่ต้องกลัวลื่นไถลเลยล่ะครับ
แต่ถ้าอยากขับแบบสนุกให้ได้อารมณ์ของความดิบ ให้ลองปิดระบบ Traction Control ดูครับ สนุกได้แบบตามใจสั่งเลยทีเดียว ซึ่งการปิดระบบนี้ ควรขับขี่ในสถานที่ ที่ปลอดภัย และต้องมีทักษะในการขับด้วยนะครับ เพราะล้อจะหมุนฟรีแบบอิสระ ไร้ระบบช่วยเหลือ หากคุณยังนึกภาพไม่ออก ให้นึกถึงรถดริฟท์ครับ อารมณ์ประมาณนั้นเลย
ต่อด้วยการทดสอบ ระบบ HSA ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ด้วยการจอดแช่อยู่ตีนเนิน คาไว้ที่เกียร์ D แล้วปล่อยเบรก โดยที่ไม่เหยียบคันเร่ง ปรากฎว่ารถสามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ แม้จะเป็นเนินชันก็ตาม
สรุปโดยรวม
หากคุณกำลังมองหารถกระบะที่คุ้มค่าสักคันไว้ใช้งาน Nissan Navara PRO-2X ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ครับ เพราะสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งในเมืองและนอกเมือง เป็นรถที่ขับง่าย มีเทคโนโลยีความปลอดภัยต่าง ๆ มาให้มากมาย รวมถึงฟังก์ชันภายในรถก็มีให้อย่างครบครัน ขับไปได้ทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะไปกับใคร หรือแม้แต่การขับลุยในเส้นทางกึ่งออฟโรด ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน เรียกได้ว่า คันเดียวจบ ครบทุกความต้องการ
Nissan Navara PRO-2X หล่อ เท่ สะดุดตา ราคา 999,000 บาท
- พร้อมชุดแต่งฟรี มูลค่า 44,000 บาท
- ดอกเบี้ย 0%
- ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี
- ขับฟรี 90 วัน
ราคาดี Option เต็มแบบนี้ หากท่านใดสนใจ สามารถรับชมตัวจริง พร้อมทดลองขับได้ที่โชว์รูมนิสสันใกล้บ้านได้เลยครับ
ความคิดเห็น