Land Rover ได้เปิดตัว SUV ระดับตำนานอย่าง All NEW DEFENDER ล่าสุดในรุ่น DEFENDER P400e Plug-in Hybrid ราคา 6,999,000 บาท (นำเข้า CBU)
Land Rover DEFENDER P400e Plug-in Hybrid
Land Rover DEFENDER มีให้เลือก 2 ตัวถัง DEFENDER 90 เป็นแบบ 3 ประตู และ DEFENDER 110 แบบ 5 ประตู Land Rover ประเทศไทย โดย Inchcape เตรียมเปิดตัว DEFENDER P400e Plug-in Hybrid อย่างเป็นทางการในบ้านเรา จุดเด่นคือ ขุมพลังเบนซิน + มอเตอร์ไฟฟ้า 404 แรงม้า 650 นิวตันเมตร เสียบปลั๊กชาร์จไฟได้
เครื่องยนต์ Land Rover DEFENDER P400e Plug-in Hybrid
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,997 ซีซี. เทอร์โบ ให้พละกำลัง 300 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 143 แรงม้า แบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 19.2 kWh
เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า รวมพละกำลังสูงสุด 404 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive
ตัวเลขจากโรงงาน
อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 5.6 วินาที
วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ระยะทางสูงสุด 43 กิโลเมตร
การชาร์จไฟฟ้า
กระแสสลับ AC ปลั๊กไฟบ้าน รองรับการชาร์จสูงสุด 2.3 kW ใช้เวลา 9 ชั่วโมง 12 นาที
กระแสสลับ AC Wallbox รองรับการชาร์จสูงสุด 7 kW ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที
กระแสตรง DC จาก 0-80% รองรับการชาร์จสูงสุด 50 kW ใช้เวลา 30 นาที
สำหรับโหมดการขับขี่ ดีเฟนเดอร์ใหม่ มีให้เลือกมากถึง 6 โหมด ได้แก่ normal ปกติ , wade ลุยน้ำ , rock/cawl ลุยหิน , mud and ruts ลุยโคลน , grass/gravel/snow กรวด/หิมะ และ sand ทราย โดยมีหัวใจสำคัญคือระบบช่วงล่างแบบถุงลมใหม่ ที่ดูดซับแรงและปรับระดับได้อย่างอิสระ
ความสามารถในการลากจูงของดีเฟนเดอร์ โดยในรุ่น P400e สามารถลากจูงได้มากถึง 3,000 กก. และสามารถรับน้ำหนักบนหลังคาได้ถึง 168 กก. ระหว่างขับขี่ หรือ 300 กก. เมื่ออยู่กับที่
การทดสอบ Land Rover DEFENDER P400e Plug-in Hybrid
เป็นที่รู้กันดีว่า Land Rover Defender เป็นรถที่เกิดมาเพื่อการลุยสายพันธุ์ SUV แท้ๆมานานกว่า 70 ปี กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ เมื่อนำเครื่องยนต์ระบบใหม่ Plug-in Hybrid เข้ามาทำให้การขับขี่จะดีหรือแย่เพียงใด ดีเฟนเดอร์รุ่นล่าสุด โดยเพิ่มความทันสมัยเข้ามาเสริมเช่น ไฟหน้าแบบครึ่งทรงกลมที่มาพร้อมระบบปรับความสูง-ต่ำอัตโนมัติ ไฟท้ายแบบLED ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ฝากระโปรงหน้าติดตั้งแผ่นกันลื่นเสริมความดุดัน
รับรถเพื่อเดินทางไกล ปลายทางสระบุรี รถที่ใช้ในการทดสอบเป็นรถ DEFENDER 110 แบบ 5 ประตู พร้อมชุดแต่งเต็มคัน หน้าตาพร้อมออก่ลุยในป่า ภายในห้องโดยสารต้องบอกว่า เป็นรถที่ใช้วัสดุเพื่อการลุยโดยเฉพาะแต่ก็ยังคงความหรูหราด้วย วัสดุที่ทาง แลนด์โรเวอร์ เลือกใช้นั้นส่วนใหญ่เป็นหนัง พื้นรถปกติใช้พรมแต่สำหรับ ดีเฟนเดอร์ ใช้เป็นวัสดุพลาสติกในการปูพื้น เมื่อโดนน้ำก็เช็ดออกง่าย ซึ่งจะทำให้ดูแลรักษาง่าย
ตำแหน่งการนั่งสำหรับผู้ขับขี่ถูกออกแบบให้มุมมองชัดเจนแม้ว่ารถคันจะใหญ๋แต่ก็มีมุมมองที่ดี พร้อมทั้งมีตัวช่วยเยอะทำให้ขับขี่ง่ายในเมือง การออกแบบเมนูการใช้งานต่างๆนั้นดูเรียบง่าย ขึ้นรถครั้งแรกอาจจะยังไม่คุ้นเคยเท่าไหร่แต่พอใช้งานสักพักจะรู้สึกว่าใช้งานง่าย การใช้งานในเมืองถึงแม้ว่าจะมีตัวช่วยหลายอย่างแต่ก็ต้องยอมรับว่ารถคันใหญ่ต้องระวังมากกว่าปกติ
ออกเดินทาง ทำความเร็วเพิ่มขึ้น ต้องยอมรับว่าช่วงล่างแบบถุงลม ให้ความนุ่มนวลในการใช้งานมากแต่ก็ยังคงให้การเกาะถนนที่ดีในความเร็วสูง การเก็บเสียงต่างๆทำได้ดีแต่รถที่เรานำมาทดสอบมี เต็นท์อยู่ด้านบนหลังคาแน่ว่ามันจะทำให้อากาศหมุนวนและเกิดเสียงขึ้นเรื่องนี้ต้องทำใจเพราะเป็นทุกคัน แม้ว่าจะมีสิ่งของต่างๆแต่พละกำลังของเครื่องยนต์ในการเร่งแซงต่างไว้ใจได้แบบไม่ต้องลุ้นกดคันเร่งการตอบสนองได้อย่างทันใจกับพละกำลัง 404 แรงม้า
เข้ามาถึงสถานที่จริงกับการลุย ยกรถให้สูงขึ้น พร้อมลุยผ่านหินและทางลูกรังในช่วงแรกแบบสบายยังให้ความนุ่มนวล ลึกเข้าไปทางเริ่มยากขึ้นเส้นทางโดนน้ำกันกัดเซาะทำให้เป็นร่องลึกและหินเยอะขึ้น เปลี่ยนเป็นโหมด rock/cawl เพื่อการลุย ค่อยๆขับตามหลุมขึ้นลง ตัวรถขับได้ง่ายมากทุกอย่างรถจะจับอาการทุกอย่างเองไม่ว่าจะช่วงล่างที่ยึดหดได้มากทำให้ผ่านอุปสรรค ระบบขับเคลื่อนจะทำงานอัตโนมัติเมื่อล้อไม่จับพื้นหรือลอย ระบบก็จะถ่ายกำลังไปยังล้อที่จับพื้นอยู่โดยที่เราไม่ต้องยุ่งกับระบบขับสี่เลย ผู้ขับขี่เพียงแค่วิ่งไปตามเส้นทางให้ถูกต้องเท่านั้นเอง ถ้าด้านข้างเป็นหลุมหรือหินขนาดใหญ่เราอาจจะมองไม่เห็น ก็สามารถเปิดกล้องมองที่ล้อหน้าได้ด้วย เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ วิ่งถึงจุดหมายด้านบนยอดเขา
สรุป Land Rover DEFENDER P400e Plug-in Hybrid
ต้องยอมรับว่า DEFENDER เป็นรถที่เกิดมาเพื่อเป็นออฟโรดจริงๆ การขับขี่ทำได้อย่างง่ายดายในสภาวะสภาพถนนไม่เอื้ออำนวย ต้องผ่านหิน น้ำ ลูกรัง ต่างๆ ซึ่งช่วงล่างที่ดีทำให้รู้สึกสบายในทุกสภาพ ระบบขับเคลื่อนที่ออกแบบมาแต่ละโหมดการใช้งานเฉพาะใช้งานได้ง่าย
เครื่องยนต์ ตอบสนองได้แบบหายห่วงถามเรื่องอัตราการประหยัดน้ำมันเรียกว่าดีกว่ารุ่นเดิมแต่ประหยัดกว่ามากไหมก็ไม่มากด้วยเพราะน้ำนักรถที่ค่อนข้างเยอะแต่ในส่วนของ การวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ระยะทางสูงสุด 43 กิโลเมตร นั้นต้องบอกว่าทำได้จริง และสิ่งที่ดีคือ สามารถรองรับการชาร์จกระแสตรง DC จาก 0-80% รองรับการชาร์จสูงสุด 50 kW ใช้เวลา 30 นาที ยิ่งทำให้ง่ายต่อการใช้งาน
ปัญหาของ DEFENDER รถที่มีขนาดใหญ่วิ่งใช้งานในเมืองอาจจะไม่คล่องตัวมากนักและถ้ามีสิ่งของอยู่บนหลังคาต้องเพิ่มความระมัดระวัง แต่ถ้าไม่ใช้ปัญหาก็ต้องบอกว่า DEFENDER ดูโดดเด่นมากบนท้องถนน
Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็กวันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ
ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น