bmw M4 CSL รุ่นพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากสนามแข่ง M4 CSL มาพร้อมพละกำลัง 543 แรงม้า น้ำหนักที่ลดลงโดยรวมมากถึง 109 กก. และผลิตเพียง 1,000 คัน
BMW M4 CSL
แฟนใบพัดสีฟ้ารู้กันดีอยู่แล้วว่า BMW จะมีรถรุ่นพิเศษตามมาหลังจากออกรุ่น M ปกติ และคำว่า CSL ย่อมาจาก Competition, Sport, Lightweight โดยรวมทั้งหมดนี้วิศวกรได้นำชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นสำหรับรุ่นนี้ออกไป ซึ่งทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนที่สุดคือ เบาะหลังที่ถูกถอดออกเป็นที่เก็บของแทนและหลังคา ฝากระโปรงหน้าและฝากระโปรงหลังก็เป็นแบบคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้ M4 CSL ลดน้ำหนักโดยรวมแล้วไปถึง 109 กก.
การออกแบบภายนอกโดดเด่นให้อารมณ์รถแข่งตั้งแต่แรกเห็นตั้งแต่ กระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ที่เปลี่ยนดีไซน์ใหม่พร้อมการตัดขอบด้วยสีแดง และโลโก้ CSL ดิฟฟิวเซอร์หน้าที่ดุดันยิ่งขึ้น พร้อมสติกเกอร์ 'M4 CSL'
ไฟ DRL สีเหลืองสไตล์มอเตอร์สปอร์ตแบบเดียวกับ M5 CS
ฝากระโปรงคาร์บอนพร้อมช่องระบายอากาศ
หลังคาแบบ Double Bubble
ที่ด้านหลังจะโดดเด่นด้วยสปอยเลอร์ทรงตูดเป็ดขนาดใหญ่
ดิฟฟิวเซอร์หลังที่ดุดัน
ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ที่ไม่เหมือนรุ่นอื่นในตระกูล M4 ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยี BMW Laser
การออกแบบภาย เน้นการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เป็นหลัก ตั้งแต่เบาะนั่ง M Carbon Bucket Seat ไปจนถึงคอนโซลกลางแบบคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งมีเฉพาะในรุ่น CSL เท่านั้น
เครื่องยนต์ M4 CSL
เป็นรุ่นที่มีกำลังมากที่สุดในตระกูล M4 ด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง เทอร์โบคู่ ขนาด 3.0 ลิตร กำลัง 543 แรงม้า ที่ 6,250 รอบต่อนาที แรงบิด 649 นิวตันเมตร ที่ 2,750–5,950 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนล้อหลัง ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
ทำความเร็ว 0–100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที และสำมารถทำความเร็วสูงสุดที่ 307 กม./ชม.
M4 CSL นอกจากสามารถรถน้ำหนักได้มากแล้ว ยังโดดเด่นด้วยช่วงล่างและการปรับแต่งแชสซีที่ไม่เหมือนใคร โดยมีความสูงในการขับขี่ที่ต่ำกว่า M4 Competition อยู่ 0.3 นิ้ว และช่วงล่างได้รับการเชื่อมที่แน่นหนากว่าระหว่างตัวถังและซับเฟรมด้านหลัง และยังมีเหล็กกันโคลงที่ออกแบบพิเศษ
เพื่อมอบความยึดเกาะที่ดีกับพื้นถนน M4 CSL จึงติดตั้งยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 R ขนาด 275/35ZR19 ที่ด้านหน้าและ 285/30ZR20 ที่ด้านหลัง เพื่อเพิ่มความยึดเกาะขั้นสุด
M4 CSL มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเทา Brooklyn Grey Metallic, สีขาว Alpine White และสีดำ Black Sapphire Metallic
M4 CSL จะผลิตเพียง 1,000 คันทั่วโลก และการผลิตจะเริ่มในเดือนกรกฎาคมนี้ สนนราคาเริ่มต้นที่ $139,900 หรือราวๆ 4.8 ล้านบาท ไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย ส่วนประเทศไทยคาดว่าแฟนใบพัดไม่พลาดแน่นอน
Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็ควันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ
ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น