NEW MG HS ยกระดับรถ SUV ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ

NEW MG HS หนึ่งในรถ SUV ที่น่าสนใจโชว์เหนือด้วยระบบนำทางอัจฉริยะ หรือ AR Navigation เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของ MG มาพร้อมระบบกุญแจดิจิตอล ที่ช่วยให้การใช้งานรถยนต์สะดวกสบายมากขึ้น สัมผัสการขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีระบบ Hybrid รองรับกับรุ่น NEW MG HS PHEV  

NEW MG HS ครบ จบ ในคันเดียว

รถยนต์แบบ SUV ถือว่าเป็นรถยนต์ตัวเลือกลำดับต้นๆ ไปแล้วในยุคปัจจุบัน ด้วยความที่ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนนั้นหันไปมองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะในระดับครอบครัวที่ต้องการรถยนต์ที่มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ซึ่งจุดนี้ส่งผลให้รถยนต์แบบ SUV สามารถตอบโจทย์ได้ตรงจุด

สำหรับประเทศไทย รถยนต์ที่ครอบครัวส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญ เลือกซื้อมาใช้งานนั้นมักจะเป็นรถยนต์ระดับ C-SUV ซึ่งมีขนาดตัวรถที่ใหญ่กำลังดี ขับขี่ในเมืองได้สะดวก ขับออกท่องเที่ยวทางไกลก็สบาย อีกทั้งมีพื้นที่ใช้สอยมากเพียงพอสำหรับทุกคนในครอบครัว และอยู่ในระดับราคาที่ทุกคนตัดสินใจซื้อได้

NEW MG HS รถยนต์ C-SUV รุ่นล่าสุด ที่ทาง MG ได้มีการปรับโฉมใหม่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เพิ่มความโดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตรอบคันที่ปรับปรุงใหม่ให้ดูมีความโฉบเฉี่ยวและหรูหรา ใส่ฟังก์ชั่นล้ำสมัยอย่าง AR Navigation ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่แกะกล่องของค่าย MG ที่ปกติแล้วเวลาเราขับรถยนต์ไปในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ก็มักจะเปิดแผนที่เชื่อมต่อกับ Apple CarPlay/Andriod Auto กัน แต่ AR Navigation จะเป็นการบอกทางด้วยภาพเสมือนจริงจากกล้องหน้ารถทำงานร่วมกันระบบนำทาง Navigation แบบ real time แสดงเส้นทางบนจอเรือนไมล์เลย ช่วยทำให้การนำทางมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ช่วยลดโอกาสที่จะขับหลงทาง หรือขับเลยซอยได้ 

ซื้อรถ MG HS มือสอง กับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจสภาพ 175 จุด พร้อมรับประกันสูงสุด 2 ปีเต็ม ราคาคงที่ ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินเต็มจำนวนภายใน 30 วัน

นอกจากเทคโนโลยีที่ NEW MG HS ให้มาเหนือกว่าคู่เปรียบเทียบในคลาสแล้วถือว่าล้ำ พอสมควรเลยทีเดียว และสามารถเป็นเจ้าของรถ SUV รุ่นนี้ในราคาเริ่มต้นไม่ถึงล้าน

ดีไซน์ภายนอกของ NEW MG HS

ภายนอกของ NEW MG HS โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ดูหรูหรา ดูพรีเมี่ยมผสานกับความสปอร์ตค่อนข้างลงตัว

จุดเด่นเลยคือกระจังหน้าดีไซน์ Digital Burning Grille สีทูโทน พร้อมกันชนหน้า และกันชนท้ายดีไซน์ใหม่ ที่ช่วยเพิ่มความพรีเมี่ยมให้กับตัวรถ ติดตั้งกล้องด้านหน้าอยู่บริเวณเหนือโลโก้ MG โดยกล้องตัวนี้ทำหน้าที่เป็นกล้อง 360 องศา ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่

ไฟหน้าแบบ QUAD LED Projector มาพร้อมกับไฟ Daytime Running Lights ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control) ช่วยให้การขับขี่ยามค่ำคืนสะดวกสบายมากขึ้น ลดการรบกวนผู้ใช้ถนน

มุมมองด้านข้างของตัวรถจะเห็นได้ถึงมิติของตัวถังที่เน้นความโอ่โถง ตัวหลังคาของตัวรถเป็นแบบท้ายตัด ส่งผลให้ห้องโดยสารตอนหลังมีความโปร่งมากยิ่งขึ้น

คิ้วขอบหน้าต่างเป็นสีโครเมี่ยม

ตัวล้อ ใช้ล้ออัลลอยแบบทูโทน เสริมความสปอร์ตให้กับตัวรถ

ด้านท้าย โดดเด่นด้วยไฟท้ายแบบ LED เต็มระบบ มาพร้อมกับท่อไอเสียคู่สไตล์รถสปอร์ตหรู

ภายในของ NEW MG HS

ภายในห้องโดยสารของ NEW MG HS เป็นการผสมผสานกันระหว่างความหรูหราและความสปอร์ตแต่เพิ่มความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุ เบาะนั่งคู่หน้ามาเป็นแบบเบาะนั่งสไตล์สปอร์ตที่ออกแบบมาให้โอบรับกับตัวผู้ขับและผู้โดยสารตอนหน้าได้อย่างลงตัวหุ้มด้วย Alcantara

ซื้อรถ MG มือสอง มั่นใจ ได้มาตรฐาน ต้อง CARSOME

คอนโซลของตัวรถ ตกแต่งในโทนสีแบบทูโทน โดดเด่นด้วยหน้าจอกลางแบบมัลติฟังก์ชันขนาด 10 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Andriod

ระบบเสียง Surround เหนือระดับ กับ BOSE 8.1 Sound System พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบ Dual Zone ที่กรองฝุ่น PM 2.5 ได้ด้วย และเพิ่มความสวมงามในห้องโดยสารไปอีกขั้นด้วย Ambient Light ในห้องโดยสาร ปรับสีได้มากถึง 64 เฉดสี

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสปอร์ตจับกระชับมือ รวมทุกการควบคุมของตัวรถเอาไว้บนพวงมาลัย พร้อมปุ่มเลือกโหมด "Super sport" เพื่อเรียกประสิทธิภาพสูงสุดของตัวรถ

ตัวหน้าจอเรือนไมล์ของตัวรถ ใช้หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว บอกข้อมูลการขับขี่ครบครัน แสดงระบบนำทาง AR Navigation ช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ให้เดินทางได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

บริเวณคอนโซลกลาง ตกแต่งแบบทูโทนสอดรับกับคอนโซลด้านหน้าด้วยเช่นกัน โดยเป็นส่วนควบคุมการขับขี่ของตัวรถเป็นหลักจะอยู่ที่บริเวณนี้

บริเวณกึ่งกลางกระจกบังลมด้านหน้า เป็นจุดที่ติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ไว้ รวมถึงระบบ AR Navigation ด้วย

หลังคา Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่ ช่วยทำให้ห้องโดยสารมีความโปร่ง โล่งสบาย

พื้นที่โดยสารตอนหลัง ตอบโจทย์ทุกความต้องการของครอบครัว มาพร้อมกับที่พักแขนตรงกลางและช่องแอร์ 2 ช่อง

ระบบความปลอดภัยของ NEW MG HS ที่ให้มาสูงสุดถึง 26 ระบบ

ใส่ระบบช่วยควบคุมขับขี่ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทั้งด้านหน้าและด้านท้ายรถที่เทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2 ถึง 12 ระบบ ดังนี้

1. ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
2. ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
3. ระบบช่วยเตือนการเปิดประตูDOW (Door Open Warning)
4. ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
5. ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
6. ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
7. ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
8. ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
9. ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
10. ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
11. ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
12. ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake)

การเชื่อมต่อกับ NEW MG HS

เทคโนโลยีการเชื่อมต่อสื่อสาร ถือเป็นอีกหนึ่งในไฮไลท์ของ NEW MG HS เลยทีเดียว สำหรับรุ่นปรับโฉมได้เพิ่มฟังก์ชันใหม่ คือ กุญแจดิจิตอล ที่เจ้าของรถสามารถสั่งงานผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ไม่ต้องใช้กุญแจในการสตาร์ทรถและยังสามารถส่งกุญแจดิจิตอลให้กับผู้อื่นเพื่อใช้งานรถได้ด้วยการรับ-ส่งโค้ดผ่านทางแอพพลิเคชั่น i-SMART อันเลื่องชื่อของ MG ที่ได้สร้างการจดจำแบรนด์นี้ให้กับคนไทย อีกทั้ง i-SMART สามารถอัพเดตฟังก์ชันการทำงานใหม่ๆ ผ่านทางออนไลน์ได้แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาขับรถเข้าไปที่ศูนย์บริการอีกต่อไป

เครื่องยนต์ NEW MG HS

NEW MG HS ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 เทอร์โบ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ มอบพละกำลังสูงสุด 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์แบบคลัทช์คู่ 7 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า

อีกหนึ่งทางเลือกกับ NEW MG HS PHEV เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด มอบพละกำลังสูงสุดถึง 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ EDU II 10 สปีด ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.5 วินาที และมาพร้อมกับแบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออนความจุ 16.6 kWh สามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางมากถึง 67 กิโลเมตร ซึ่งถือว่ามากพอสมควรหากเทียบกับรถ PHEV รุ่นอื่น

ราคาค่าตัว NEW MG HS

NEW MG HS รุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร

1. รุ่น C ราคา 939,000 บาท
2. รุ่น D ราคา 1,089,000 บาท
3. รุ่น X ราคา 1,159,000 บาท

NEW MG HS PHEV รุ่นเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด

1. รุ่น D ราคา 1,299,000 บาท
2. รุ่น X ราคา 1,379,000 บาท

ท่านที่สนใจ NEW MG HS สามารถสัมผัสตัวจริง พร้อมจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ MG ทั่วประเทศ

Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็กวันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ
ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ One2car