Audi e-tron Sportback 55 Quattro S-Line รถยนต์ไฟฟ้าแบบ SUV สไตล์สปอร์ตตัวแรงจากทาง Audi มาพร้อมขนาดตัวใหญ่โตมโหฬาร และพละกำลังกว่า 408 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ กับค่าตัว 5.299 ล้านบาท
Audi e-tron รถยนต์ไฟฟ้าอาวดี้
แบรนด์ Audi เป็นแบรนด์รถยนต์ระดับพรีเมี่ยมสัญชาติเยอรมัน ที่ดูออกจะเน้นหนักไปในสไตล์สปอร์ตซะมากกว่า นอกจากรถยนต์น้ำมันที่เค้าได้สร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนานแล้วนั้น ทางอาวดี้เองก็มีรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองด้วยเช่นกันในกลุ่มรหัส e-tron นั่นเอง โดยมีการแชร์พื้นฐานตัวรถหลายๆ รุ่นกับแบรนด์ Porsche ที่อยู่ในเครือเดียวกันอีกด้วย
Audi e-tron เป็นรหัสที่สื่อถึงรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์อาวดี้ โดยในประเทศไทยจะมีรถยนต์ Audi e-tron อยู่ทั้งหมด 4 โมเดลด้วยกัน ได้แก่
- Audi e-tron รถยนต์ไฟฟ้าแบบ SUV
- Audi e-tron GT รถยนต์ไฟฟ้าแบบซีดาน
- Audi RS e-tron GT รถยนต์ไฟฟ้าแบบสปอร์ตซีดาน
- Audi e-tron Sportback รถยนต์ไฟฟ้าแบบ SUV สไตล์สปอร์ต
Audi e-tron Sportback 55
Audi e-tron Sportback 55 Quattro S-Line ที่เราจะมารีวิวกันในบทความนี้ เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารูปทรง SUV ท้ายลาดตามแบบฉบับของรหัส Sportback หรือจะเรียกว่าทรงคูเป้ก็ว่าเช่นนั้นได้ มันจะดูมีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้นจากรุ่นโมเดล e-tron ปกติที่เป็นรถยนต์ SUV ทั่วไป
Audi e-tron Sportback โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบรถยนต์ SUV ขนาดใหญ่ ที่ออกแบบผสมผสานทั้งด้านการใช้งานสไตล์รถครอบครัว และดีไซน์แบบรถสปอร์ต ถือเป็นรูปแบบรถยนต์ที่ถูกใจใครไม่น้อย เพราะด้วยดีไซน์ของมันที่ยังดูซิ่งอยู่ แถมสามารถใช้งานได้ดีจากความอเนกประสงค์ของมัน
Audi e-tron Sportback รุ่นที่ขายเมืองไทย มีรหัสรุ่นย่อยว่า 55 Quattro S-Line ซึ่งมีความหมายดังนี้
- รหัส 55 หมายถึงขนาดแบตเตอรี่ความจุสูง โดยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ให้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุมากถึง 95 kWh
- Quattro ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออันทรงพลัง จากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว
- S-Line ชุดแต่งรอบคัน
การออกแบบ Audi e-tron Sportback
ดีไซน์ภายนอกของ Audi e-tron Sportback โดดเด่นด้วยความเป็นรถยนต์ SUV ขนาดใหญ่ พิกัด D-Segment ด้านหน้าของตัวรถดูมีความสปอร์ตแทบไม่ต่างจากรถยนต์สันดาป เอาว่าถ้าไม่สังเกตุดีๆ ว่ากระจังหน้าของเค้าปิดทึบอยู่ก็แทบดูไม่ออกเลยว่าเจ้ารถคันนี้ไม่ใช่รถน้ำมัน
ไฟหน้า ใช้ไฟหน้า Matrix LED มาพร้อมระบบเปิด/ปิด ไฟสูงอัตโนมัติ พร้อมไฟส่องสว่างขณะเข้าโค้ง
ดีไซน์ด้านข้างของตัวรถ เห็นลายเส้นที่มีความโค้งมนอย่างสวยงาม เป็นการยกด้านหน้าสูงขึ้นและลาดลงด้านหลังเป็นเส้นเดียวได้อย่างสวยงาม
ล้อ ใช้ล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 21 นิ้ว รัดยาง 265/45 R21 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรก พร้อมคาลิปเปอร์สีเหลืองสดใส
มองจากท้ายรถจะเห็นได้ถึงความลาดลงมาของแนวหลังคารถ ดูสวยงาม อ่อนช้อย และแน่นอนว่ารถยนต์รูปแบบนี้ "ไม่มีใบปัดน้ำฝนหลัง" ทำให้ตอนฝนตกแล้วเราขับรถไม่เร็วมากนัก เราจะมองกระจกหลังเห็นภาพได้ไม่ค่อยชัดเจนนัก
ไฟท้าย LED Light Guilding ลากยาวจากซ้ายจรดขวา
ประตูท้ายระบบไฟฟ้า พร้อมระบบเตะเปิด
ภายในห้องโดยสารของ Audi e-tron Sportback 55 มาในรูปแบบสปอร์ต ใช้โทนสีดำเป็นหลัก
เบาะนั่งทรงสปอร์ต ปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรงสปอร์ตท้ายตัด พร้อมหุ้มหนังที่ให้สัมผัสนุ่มนวล กระชับมือ
รถยนต์ไฟฟ้ายุคปัจจุบัน เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ เพราะทุกสิ่งอย่างภายในตัวรถล้วนควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้มันต้องมีหน้าจอแสดงผลอยู่ในทุกๆ ตำแหน่ง โดยด้านหน้าของตัวรถมีทั้งหมด 3 หน้าจอหลักๆ ได้แก่
หน้าจอเรือนไมล์ของผู้ขับขี่ บอกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ครบครัน
หน้าจอมัลติมีเดีย แสดงข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับตัวรถ, การปรับแต่ง, ตั้งค่าตัวรถ อัดแน่นอยู่ในหน้าจอนี้ ซึ่งรวมไปถึงระบบความบันเทิง, Apple CarPlay, Andriod Auto
สุดท้าย หน้าจอที่ 3 ควบคุมระบบปรับอากาศภายในตัวรถ
ตัวคันเกียร์ จะเป็นชิ้นสีน้ำเงิน ติดอยู่ด้านขวาของที่พักแขนตรงกลาง (บริเวณด้านบนของภาพนี้) ส่วนตรงกลางมีช่องวางแก้วน้ำ พร้อมที่ใส่ของชิ้นเล็กๆ
ระบบเสียง ใช้ของ Bang & Olufsen ให้เสียงคุณภาพสูงมาก
ด้านหลัง แม้จะดูเป็นรถยนต์แบบท้ายลาด แต่ก็มีความโปร่ง โล่งสบายอยู่
ตรงกลาง สามารถดึงออกมาเป็นที่พักแขนได้ โดยถูกออกแบบให้มีพื้นที่วางของไว้ด้วย ใหญ่เพียงพอที่จะวางโทรศัพท์มือถือ iPhone 12 Pro Max ได้ 2 เครื่อง
หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ช่วยเพิ่มความโปร่งให้กับห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี
มีม่านบังแดดมาให้ทั้ง 2 ข้าง
ตรงกลาง มีช่องแอร์ให้ 2 ช่อง พร้อมที่วางมือถือ และช่องชาร์จ
ด้านข้างบริเวณเสา B มีช่องแอร์ให้ด้วยเช่นกัน ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังเย็นสบาย
สเปค Audi e-tron Sportback 55 Quattro
มอเตอร์ | 2 มอเตอร์ |
---|---|
พละกำลังสูงสุด | 408 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด | 664 นิวตันเมตร |
ระยะทางขับขี่สูงสุด / 1 การชาร์จ มาตรฐาน NEDC | 463 กิโลเมตร |
ระบบขับเคลื่อน | AWD ขับเคลื่อน 4 ล้อ |
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม | 5.7 วินาที |
ความเร็วสูงสุด | 200 กม./ชม. |
แบตเตอรี่ | ลิเธียมไอออน ระบายความร้อนด้วยน้ำ |
พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด (kWh) | 95 |
แรงดันไฟฟ้า (V) | 400 |
รองรับการชาร์จ AC Type 2 (kW) | 22 |
รองรับการชาร์จ DC CCS 2 (kW) | 150 |
ตัวถัง | e-tron |
พวงมาลัย | พวงมาลัยไฟฟ้าแบบสปอร์ต |
ระบบกันสะเทือนหน้า / หลัง | ถุงลมไฟฟ้า |
ระบบเบรคหน้า/หลัง | ดิสก์เบรก |
ขนาดยางล้อ | หน้า 265/45 R21 หลัง 265/45 R21 |
มิติตัวรถ Audi e-tron Sportback 55 Quattro
ขนาดตัวรถภายนอก ยาว x กว้าง x สูง (มม.) | 4,901 x 1,935 x 1,661 |
---|---|
ระยะฐานล้อ (มม.) | 2,928 |
ระยะห่างจากพื้น (มม.) | Standard 172 Offroad 248 Sport 152 |
น้ำหนักรถเปล่า (กก.) | 2,455 |
พื้นที่เก็บสัมภาระ
ช่องเก็บของด้านหน้า (Frunk) | 60 ลิตร |
---|---|
พื้นที่เก็บสัมภาระ | 615 ลิตร |
พื้นที่เก็บสัมภาระ เมื่อพับเบาะหลังทั้งหมด | 1,665 ลิตร |
รายละเอียดตัวรถรถอื่นๆ ดูได้ที่ https://www.audi.co.th/dam/nemo/sea/th/pdf/technical-data/2021/e-tron_Sportback_WebBrochure_Oct2021.pdf
ทดลองขับ Audi e-tron Sportback 55 Quattro
ในส่วนของการทดสอบขับขี่ Audi e-tron Sportback 55 Quattro ผมได้ทำการทดสอบทั้งการขับในเมืองแบบใช้ชีวิตประจำวัน และการเดินทางไกลระยะทางรวมราวๆ 400 กิโลเมตร ขอแบ่งเป็นส่วนๆ ดังนี้
ในส่วนของการขับในเมือง Audi e-tron Sportback 55 ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ โดยขนาดของตัวรถอยู่ในพิกัดใกล้เคียงกับ Porsche Cayenne Coupe กันเลยทีเดียว ส่งผลให้เรื่องการขับในเส้นทางที่มีความแคบอาจจะต้องใช้ความระมัดระวังบ้างเล็กน้อย
ทางด้านอัตราสิ้นเปลืองพลังงานกับการขับขี่ในเมืองถือว่าทำได้ดี โดยอัตราสิ้นเปลืองอยู่ราวๆ 200-250 Wh / km. หรือราวๆ 4-5 km/kWh ซึ่งก็ถือว่าประหยัดไม่ใช่น้อยกับขนาดของตัวรถที่ใหญ่ระดับนี้
ทัศนวิสัยการมองเห็นของตัวรถถือว่าทำได้ดี ตัวรถดูภายนอกออกแนวสปอร์ต ส่วนภายในก็ยังคงความกว้างขวางสไตล์รถยนต์ SUV อยู่
ตัวช่วงล่าง สามารถปรับได้ตามความพึงพอใจ โดยส่วนตัวผมสำหรับการขับในเมืองจะชื่นชอบช่วงล่างที่นุ่มนวลมากกว่า เพราะอย่างที่ทราบกันดี ถนนในกรุงเทพ "ไม่ค่อยจะเรียบเท่าไหร่นัก" ซึ่งการเลือกใช้โหมด Comfort จะช่วยทำให้การขับขี่นั้นมีความนุ่มสบายมากยิ่งขึ้น
ส่วนพละกำลัง อย่าได้ห่วงไป รถยนต์ไฟฟ้าทุกคันที่จดทะเบียนได้ "กดปุ้บพุ่งเลย" เป็นเรื่องปกติ
ในส่วนของการขับทางไกลกับ Audi e-tron Sportback 55 ถือว่าตอบโจทย์ไม่ใช่น้อย โดยโหมดการขับขี่ที่อยากแนะนำขอให้เป็นโหมด Efficiency หรือโหมดประหยัดพลังงาน ตัวรถจะทำการเพิ่มความหน่วงของคันเร่งให้มากยิ่งขึ้น ทำให้รถประหยัดพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ส่งผลให้เราขับรถได้ระยะทางที่ไกลมากขึ้น อีกทั้งตัวรถยังปรับลดความสูงลงไปอยู่ระดับเดียวกับโหมดสปอร์ต แต่ยังคงความนุ่มนวลไว้อยู่ ทำให้ตัวรถลู่ลมมากขึ้น ส่งผลให้ขับขี่ได้ระยะทางไกลขึ้นไปอีกขั้น
สำหรับสายซึ่ง หากใช้ Audi e-tron Sportback 55 แนะนำเป็นโหมด Sport เพราะเมื่อเข้าโหมดนี้ ตัวรถจะปลดล็อก Boost ออกมา, เพิ่มความไวของคันเร่ง และเซ็ตพวงมาลัยแข็งขึ้น ส่งผลให้เราขับขี่ได้อย่างกระชับ และมั่นใจมากขึ้น ใครที่เป็นสายซึ่งอยากขับแบบ 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.7 วินาทีตามสเป็ค ต้องใช้โหมดนี้
Audi e-tron Sportback 55 จุดเด่น
- รถ SUV สไตล์สปอร์ต ตอบโจทย์ครอบครัวที่อยากได้รถยนต์ไฟฟ้าที่มีพื้นที่ใช้งานอเนกประสงค์ แต่ยังอยากได้ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว
- ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมพละกำลังสูงมากถึง 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 660 นิวตันเมตร ทำ 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.7 วินาที
- แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ถึง 95 kWh
- ชาร์จแบตเร็วมากๆ แม้กำลังชาร์จอยู่ช่วง 80-100% ก็สามารถรับไฟได้มากถึง 50 kW (รถทั่วไปรับอยู่ 10-30 kW)
- มี Frunk ช่องเก็บของด้านหน้า ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า
Audi e-tron Sportback 55 ข้อเสีย
- ไม่มี Adaptive Cruise Control
- ไม่มีระบบรักษาตัวรถให้อยู่ในเลน
- บริโภคไฟฟ้าสูงถึง 200-300 Wh/km ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะ และเส้นทางการขับขี่ด้วย
Audi e-tron Sportback 55 แม้จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ยังมีข้อด้อยอยู่นั่นคือ "ออปชั่น" สำคัญที่ขาดหายไปอย่าง Adaptive Cruise control และระบบรักษาตัวรถให้อยู่ในเลน ซึ่งถือว่าเป็นฟังก์ชั่นที่ช่วยทำให้การขับขี่เดินทางไกลสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น น่าเสียดายมากๆ ที่ไม่มีฟังก์ชั่นนี้มาให้
และอีกจุดหนึ่ง นั่นคือ "กินไฟ" รถคันนี้ถือว่าค่อนข้างบริโภคพลังงานไฟฟ้าที่สูงพอสมควร โดยมีอัตราสิ้นเปลืองระดับ 200-300 Wh/km เลยทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเร็ว และสไตล์ในการขับขี่ด้วย และด้วยข้อด้อยนี้ แม้ตัวรถจะให้แบตเตอรี่ใหญ่ขนาด 95 kWh มาให้ แต่ระยะทางขับขี่ที่เราแนะนำก็ควรจะอยู่ราวๆ 300-350 กิโลเมตร ก็ควรแวะชาร์จได้แล้วครับ
Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็กวันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ
ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น