นับเป็น Civic Type R รุ่นที่ 6 แล้ว ตั้งแต่เผยโฉมครั้งแรกในปี 1997 โดยในรุ่นนี้ใช้ Civic Hatchback เจเนอเรชั่นที่ 11 แต่ก็ได้เอาสไตล์ของ Type R เปิดตัวในปี 2017 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ที่ฮอนด้าอ้างว่าแรงที่สุดทเท่าที่เคยมีมา และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
2023 Honda Civic Type R
ตอนนี้ยังไม่มีตัวเลขในเรื่องของ Performance และน้ำหนักของตัวรถออกมาให้ประมาณการ แต่รถยนต์ที่เปิดในปี 2023 มีแนวโน้มที่จะไปในทาง Crazy ไม่น้อย การทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม. เวลาเพียง 4.9 วินาที ของรถ Type R รุ่นก่อนหน้านี้ โดยสำนักข่าว Car & Driver และรับประกันว่าจะเร็วกว่าในทุกสภาพถนน และมีการสร้างสถิติรถ Production car สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าในสนาม Suzuka Circuit ในญี่ปุ่น และเอาชนะเวลา 7.20 นาที ของ Lynk & Co 03 Cyan Concept ในปี 2019 มาแล้ว ในสนาม Nürburgring
จากที่เห็นในภาพการเปิดตัว จะเห็นเครื่องบันทึกข้อมูล Honda LogR ที่แสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับพฤติกรรมของการขับรถที่เป็นแบบดิจิทัล เบาะนั่งเป็นแบบบัคเก็ตซีทสีแดงตามแบบฉบับ Type R หุ้มด้วยผ้าสไตล์หนัง เพื่อป้องกันไม่ให้ลื่นไถลในขณะที่ใช้ความเร็วสูง
มาดูที่หัวเกียร์โลหะขัดมัน ดูเหมือนยกมาจากรุ่นเดิม แต่ส่วนอื่นๆ เกือบทั้งหมดเป็นของใหม่ การออกแบบแดชบอร์ดแนวนอนของ Civic เจนเนอเรชั่นที่ 11 และหน้าจอสัมผัสระบบ Infotainment ขนาด 10.2 นิ้ว ทำให้ 2023 Type R มีรูปลักษณ์ระดับพรีเมียมที่โดดเด่น และได้รับการปรับปรุงด้วยพวงมาลัยหุ้มหนังที่เรียบง่ายและแผงหน้าปัดดิจิตอลที่สามารถแสดงความเร็วของเครื่องยนต์และความเร็วบนท้องถนนทั่วไปได้ 2 โหมด คือ โหมดการขับขี่ปกติ และโหมดการขับขี่ R+ ซึ่งเป็นการขับขี่ที่ใช้สมรรถนะสูง มาพร้อมแผ่นโลหะ Type R ที่มีหมายเลขกำกับอยู่ที่คอนโซลหน้าตรงช่องเก็บหน้ารถ
ฮอนด้ายังไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการอัพเกรดแชสซีจาก Civic เจนเนอเรชั่นที่ 11 ให้เป็น Type R มากน้อยแค่ไหน หรือว่าพัฒนาจากรุ่นก่อนอย่างไร แต่ได้รับคำอธิบายได้ว่า “น้ำหนักเบาและแข็งแกร่งมาก” โดยอ้างว่าให้ความรู้สึกในการขับขี่ดีขึ้นเพราะ “ระบบกันสะเทือนและประสิทธิภาพการบังคับเลี้ยวที่ดีขึ้น”
ในรูปภาพแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญบางประการ ภาพด้านบนแสดงคาลิปเปอร์โมโนบล็อกของ Brembo สีแดง พร้อมยางขนาด 19 นิ้ว ซึ่งหมายความว่าจะมีน้ำหนักเบากว่าและมีมวลในการหมุนน้อยกว่า ดังนั้นจึงช่วยปรับปรุงการควบคุมให้ดียิ่งขึ้น แต่เพื่อให้เกาะถนนได้ดีขึ้น ใช้ยาง Michelin Pilot Sport 4 S จาก 245/30 ZR20 เป็น 265/30 ZR19
แม้จะสูญเสียเส้นผ่านศูนย์กลางไป 1 นิ้ว แต่ขอบล้อของรถปี 2023 Type R ก็เติมเต็มบังโคลนใหม่ได้ดี และฮอนด้าก็เปิดบานประตูเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนโค้งที่กว้างนั้นดูไม่เป็นส่วนเกินจนเกินไป เป็นเรื่องดีที่ Honda ได้ทิ้งกันชนตาข่ายที่ไม่ค่อยน่าชอบใจในรุ่นที่แล้วไป และได้การกลับมาของท่อไอเสียแบบสามท่อ และสปอยเลอร์ที่ได้แรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ตตัวใหม่
2023 Type R มีกลิ่นอายที่ละเอียดอ่อนกว่ารุ่นก่อนอย่างแน่นอน และคาดว่าแฟน ๆ Type R อยากให้มีรูปลักษณ์ที่ดึงดูดสายตามากกว่านี้อีกหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจอกับ GR Corolla รุ่นใหม่ที่ดุดันของ Toyota ฮอนด้าเลยใช้การเลือกสีที่เหมาะสมอาจช่วยได้ในระดับนึง โดย 2023 Type R มีจำหน่ายในสี Rallye Red, Racing Blue Pearl, Crystal Black Pearl, Sonic Grey Pearl และแน่นอน Championship White
ราคาและรายละเอียดที่แน่นอนจะเปิดเผยในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2022 สำหรับสาวก Type R ในไทย คงต้องรอกันต่อไป
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ ตรวจสอบราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn
ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น