Nissan kicks 2022 ใหม่ ถูกที่ ถูกเวลา ราคาดี Share this

Nissan kicks 2022 ใหม่ ถูกที่ ถูกเวลา ราคาดี

วรัญญู ยอดพรหม
โพสต์เมื่อ 07 July 2565

นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ 2022  เจเนอเรชั่น 2 (2nd Generation e-POWER) กลับมาอย่างถูกต้อง ภาวะตลาดที่กำลังคาดรถ


Nissan kicks 2022

 

Kicks e-POWER  Sub Compact Crossover SUV ในรุ่นที่สอง เตรียมตัวมาพร้อมกับตลาดที่หินที่มีคู่แข่งหลากหลายรุ่น ในกลุ่มที่มีทั้ง Honda HR-V, Toyota C-HR, MG ZS, Mazda CX-3 / CX-30, Hyundai CRETA, Subaru XV และ Peugeot 2008

การแข่งขันในตลาดนี้ไม่ใช้เรื่องง่าย รุ่นแรก อาจจะเจอปัญหาหลายประการในเวลาไม่เหมาะสม เจอเจ้าตลาดอย่าง Toyota ปล่อยหมัดเด็ดอย่าง Corolla Cross เข้าตลาดซึ่งสามารถกวาดยอดจอดแบบส่งรถไม่ทัน ทำให้นิสสัน คิกส์ เหงาไปเลยพร้อมการตั้งราคาที่ใกล้กับเจ้าตลาดยิ่งทำให้สู่ยากในตลาดนี้ 

นิสสันพยายามกระตุ้นยอดขายทุกทางแต่ก็ไม่เป็นผลอีกทั้งในปี 2021 เจ้าตลาดอย่าง ฮอนด้าได้ปล่อย Honda HR-V ก็มีรุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ ยิ่งทำให้ คิกส์ เงียบต่อไป 

มาในปีนี้กับการปรับโฉมใหม่ นิสสันได้เห็นความผิดพลาดหลายอย่างในตลาดนี้ จึงได้ทำการปรับเปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ความสับสนในความเข้าใจของผู้บริโภคที่ยังรู้สึกว่านิสสัน คิกส์ คือรถ ไฮบริด ไม่ใช้รถไฟฟ้านั้นก็ไม่ผิดอะไรมากนักแล้วแต่ความเข้าใจ แต่ที่แน่ๆเข้าใจแบบบ้านๆคือ เครื่องยนต์ของ คิกส์ เป็นเพียงเครื่องปั่นไฟ ให้มอเตอร์ในการขับเคลื่่อน ให้อารมณ์เดียวกับรถไฟฟ้า

นิสสันมาถูกทาง ในการปรับโฉมถึงหน้าตาจะไม่ปรับเปลี่ยนอะไรมากนักแต่ก็ถือว่าดูดีขึ้นสวยขึ้น ภายในก็ยังคงเดิมเป็นจุดอ่อนสุดสำหรับ นิสสัน คิกส์ ก็ว่าได้แต่สิ่งที่เปลี่ยนแล้วดูดีขึ้นคือหัวเกียร์แบบใหม่ 

จุดที่สำคัญสุดในการเปลี่ยนแปลงและสามารถทำให้คนสนใจอีกครั้งคือราคานั้นเอง ซึ่งถูกลงกว่ารุ่นเดิมเกือบ 2 แสน เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจได้มาก และช่วงนี้รถเจ้าตลาด Corolla Cross,HR-V ขาดตลาดยิ่งทำให้เป็นโอกาสของ คิกส์ ก็ว่าได้ 

Nissan kicks 1.2 e-POWER E :  759,000 บาท (ถูกลง 190,000 บาท)
Nissan kicks 1.2 e-POWER V :  829,000 บาท (ถูกลง 170,000 บาท)
Nissan kicks 1.2 e-POWER VL : 899,000 บาท (ถูกลง 150,000 บาท) 

Nissan kicks 1.2 e-POWER AUTECH : 949,000 บาท


 
3 จุดเด่นใหม่ ของนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่

เทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ เจเนอเรชั่นที่ 2 (2nd Generation e-POWER) มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 2.06 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWH) ให้พละกำลัง และแรงบิดสูงต่อเนื่อง ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เร่งเร็ว แรงมากยิ่งขึ้น มอเตอร์ไฟฟ้าเดินเงียบ มาพร้อมเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ "อี-เพดดัล สเต็ป" (e-Pedal step) ที่ถูกพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ขับสามารถเร่ง หรือชะลอความเร็วได้เพียงการใช้แป้นคันเร่งเดียวเท่านั้น ให้ความนุ่มนวลของการขับขี่ที่มากขึ้นกว่าเดิม 

นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่มาพร้อมลุคใหม่ เสริมดีไซน์ทันสมัย  พิเศษสุดกับครั้งแรกของรุ่น ออเทค (Autech) สุดสปอร์ต เท่ หรู ถูกใจคนรุ่นใหม่กับดีไซน์ภายนอกที่ดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น  อีกทั้งภายในห้องโดยสารยกระดับความหรูหราด้วยคอนโซลกลาง และ คันเกียร์ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ พร้อมเพิ่มวัสดุบุนุ่มที่จุดสัมผัสต่างๆ เติมเต็มสไตล์พรีเมียมด้วยการตกแต่งทูโทน ด้วยหลังคาสีดำ เสริมความเท่ หรูอีกระดับกับรุ่นออเทคที่มาพร้อมชุดแต่งสีเงินเมทัลลิภายนอกรอบคัน ภายในโทนสีดำเสริมการตกแต่งด้วยสีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของออเทค 

 

ขับขี่มั่นใจ ปลอดภัย และสะดวกสบายทุกการเดินทาง กับเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน 360° Safety Shield โดยได้เพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงครบครัน รวมถึงความสะดวกสบายของการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ผ่าน Android Auto และ Apple Car Play อรรถประโยชน์จากพื้นที่ขนสัมภาระ, คอนโซลกลางใหม่ที่ออกแบบมาให้เข้ากับสรีรศาสตร์ของผู้ขับขี่ และการปรับเบาะที่นั่งเพื่อรองรับทุกการใช้งาน  

อี-พาวเวอร์ (e-POWER) เจเนอเรชั่นที่ 2 พลังที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจมากยิ่งขึ้น

อี-พาวเวอร์ เจเนอเรชั่นที่ 2 (2nd Generation e-POWER) พัฒนาขึ้นโดยยึดมั่นในแนวคิดการเคลื่อนที่อัจฉริยะของนิสสัน หรือ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility)  ในเจเนอเรชั่นที่ 2 นี้ นิสสันยังคงใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนรถ และใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดเล็กทำหน้าที่เสมือนเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าส่วนตัว เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้ากำลังสูง ส่งเข้าแบตเตอร์รี่ลิเทียมไอออน ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่และการใช้รถยนต์ในชีวิตประจำวัน นั่นคือ ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จพลังงานไฟฟ้าจากภายนอกหรือการหาสถานีชาร์จ ขณะเดียวกันก็ยังได้ประสบการณ์ในด้านพละกำลังและสมรรถนะการขับขี่ที่คล่องแคล่ว ว่องไว เฉกเช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า

ภายใต้ระบบอี-พาวเวอร์ เจเนอเรชั่นที่ 2 นิสสันได้รวมเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) กับมอเตอร์ไฟฟ้า (Electric Motor) ไว้เป็นยูนิตเดียวกัน ทำให้ส่วนของ Inverter มีขนาดเล็กลง 40% น้ำหนักลดลง 30% และเพิ่มความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-ion battery) มากขึ้นเป็น 2.06 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ช่วยให้เครื่องยนต์มีการทำงานเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าน้อยครั้งลง ลดแรงสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนจากการสตาร์ทของเครื่องยนต์ได้ดีมากยิ่งขึ้น 

เครื่องยนต์สันดาปภายในของระบบอี-พาวเวอร์ ได้ถูกกำหนดให้มีการทำงานในรอบเครื่องยนต์ที่เหมาะสมที่สุดในการผลิตกระแสไฟฟ้า  และให้ความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างดีเยี่ยม โดยยังคงใช้เครื่องยนต์ HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร 3 สูบแถวเรียง DOHC (Double Overhead Camshaft) 12 วาล์ว ทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ต่อพ่วงไปยังส่วนประกอบของระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่สำคัญ ๆ อาทิ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) มอเตอร์ไฟฟ้า (Electric Motor) ที่ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า (PS) มีแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร (Nm) และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 2.06 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) มีจำนวน 4 โมดูล 96 เซลล์ มอบการเร่งความเร็วที่ราบรื่น ให้ความเงียบ และการประหยัดน้ำมันที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยอัตราประหยัดน้ำมันถึง 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร ในขณะที่อัตราประหยัดน้ำมันสำหรับการขับขี่ในเมืองถึงประหยัดถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร

โหมดการขับขี่และการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
Normal mode
การขับขี่ในแบบปกติที่ให้อัตราเร่งความเร็วดีเยี่ยม ลักษณะการใช้งานเหมือนขับขี่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในทั่วๆ ไป มีโหมด D สำหรับการขับขี่ปกติ และ B ที่เพิ่มแรงหน่วงขณะลดความเร็ว ลดการใช้ผ้าเบรก และสร้างกระแสไฟฟ้ากลับคืนได้มากขึ้น

Sport mode
เพิ่มสมรรถนะในการขับเคลื่อนและตอบสนองอัตราเร่งและการชะลอความเร็วที่ดียิ่งขึ้น

ECO mode
เน้นการออกตัวที่นุ่มนวล ปรับการทำงานของระบบอี-พาวเวอร์ ให้ลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลืองลง ทำให้เครื่องยนต์และระบบมีการใช้เชื้อเพลิงและพลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 

EV mode 
ปรับเปลี่ยนให้รถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เหลือภายในแบตเตอรี่ โดยเครื่องยนต์จะไม่ทำงานจนกระทั่งพลังงานในแบตเตอรี่อยู่ในระดับต่ำ สัมผัสถึงความเงียบ 

อี-เพดดัล สเต็ป(e-Pedal Step) เทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเร่งและลดความเร็วเพียงการใช้แป้นคันเร่งเดียวเท่านั้น ทำงานร่วมกับโหมดการขับขี่ Sport MODE และ ECO MODE (ทั้งตำแหน่ง D และ B) เมื่อผู้ขับขี่ยกเท้าจากคันเร่ง รถจะชะลอความเร็วลงอย่างนุ่มนวล โดยความเร็วจะลดลงต่ำสุด 5 กม./ชม. (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุกและความลาดชันของทางที่ขับขี่) ช่วยให้การขับขี่สะดวกสบายและง่ายมากขึ้น เช่น การกะระยะห่างระหว่างรถคันหน้า การชะลอเมื่อลงเขาหรือ เมื่อเจอลูกระนาดในเขตชุมชน  และยังช่วยให้ผู้ขับขี่มีความสนุก มั่นใจมากขึ้นด้วยการชะลอความเร็วอย่างนุ่มนวลขณะทำการเข้าโค้ง  นอกจากนี้ขณะที่ อี-เพดดัล สเต็ป ทำงาน เครื่องจะสามารถชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ขณะลดความเร็ว เมื่อมีการยกหรือถอนเท้าออกจากคันเร่ง

 

ภายในห้องโดยสาร

ออกแบบด้วยโทนสีดำ ตกแต่งด้วยสีน้ำเงิน สอดคล้องกับคอนโซลหน้า ขณะที่คอนโซลกลาง ตกแต่งด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์สีดำ เดินด้ายสีน้ำเงินที่ตัดกันอย่างลงตัว เสริมด้วยวัสดุสีดำเงา เปียโน แบล็ค ช่วยเพิ่มอารมณ์สปอร์ต สำหรับนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ทุกรุ่นนั้นมาพร้อมกับพวงมาลัยหุ้มด้วยหนังแท้ และคอนโซลกลางใหม่ ที่ถูกออกแบบให้พอดีกับการตอบรับทางสรีรศาสตร์ เพื่อประสบการณ์การขับขี่สุดพรีเมียม ทำให้ดูโดดเด่นสะดุดตา พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ TFT อัจฉริยะขนาด 7 นิ้ว ปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้หลายรูปแบบ และเพิ่มฟังก์ชันการแสดงสถานะไฟเบรกระหว่างใช้ระบบ อี-เพดดัล สเต็ป (e-Pedal Step) หัวเกียร์ดีไซน์ใหม่ทันสมัย ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ เปียโน แบล็ค พร้อมไฟตกแต่งที่ขอบ ทำให้มองเห็นชัดเจน สะดวกสบาย ง่ายต่อการใช้งาน นอกจากนี้ยังเพิ่มวัสดุบุนุ่มภายในถึง 3 จุด คือที่เท้าแขนตรงคอนโซลกลาง ขอบเบาะนั่ง และช่องเก็บของด้านหน้า ให้ผู้ขับขี่พักแขนได้อย่างสบาย ลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ทางไกล หรือเมื่อรถติด และเพิ่มขนาดพื้นที่วางแก้วน้ำตอนหน้า 2 ตำแหน่ง ที่สามารถปรับระดับ และขนาด เพื่อรองรับแก้วทรงสูงที่มีขนาดใหญ่ และแก้วกาแฟร้อนทรงเตี้ยได้เป็นอย่างดี
 
เทคโนโลยีแจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ Lane Departure Warning (LDW)
ในนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ เพิ่มเทคโนโลยี LDW เข้ามาเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาแนวการเดินรถในช่องทาง  และจะแจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลยโดยไม่ตั้งใจเมื่อขับขี่ในระดับความเร็วสูงกว่า 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist - HBA) ที่จะปรับระดับการส่องสว่างของไฟหน้า พร้อมตรวจจับและตอบสนองความเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของรถที่วิ่งสวนทางแบบอัตโนมัติ
 เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (Intelligent Cruise Control – ICC)
เทคโนโลยีนี้ควบคุมความเร็วที่สั่งการได้อัตโนมัติและช่วยลดภาระของผู้ขับขี่  เมื่อรถคันหน้าลดความเร็วลง ระบบจะรักษาระยะห่างระหว่างกับรถคันหน้าตามที่ตั้งค่าไว้ได้เองโดยอัตโนมัติจนถึงระดับรถหยุดนิ่งภายใน 2 วินาที และเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว ระบบจะปรับความเร็วขึ้นเองโดยอัตโนมัติกลับไปสู่ความเร็วที่ผู้ขับได้ตั้งไว้ และสามารถตั้งค่าระยะห่างจากรถคันหน้าได้ถึง 3 ระดับ
เทคโนโลยีเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning - IFCW)
เทคโนโลยีจะส่งสัญญาณเสียงพร้อมสัญลักษณ์เตือนบนหน้าปัด หากพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า
เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB)
ระบบจะทำงานร่วมกับเทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ โดยจะช่วยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อช่วยชะลอความเร็วและหยุดรถเพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดจากอุบัติเหตุ

เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW)
เทคโนโลยีเตือนอัจฉริยะนี้จะทำให้ทุกการขับขี่ของคุณมั่นใจยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเมื่อเปลี่ยนช่องทางการขับขี่  ทันทีที่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ระบบจะส่งเสียงพร้อมไฟกระพริบเตือนให้รู้ล่วงหน้าว่าขณะนั้น มีรถคันอื่นอยู่ในช่องทางขับขี่ด้านข้าง ในตำแหน่งที่ผู้ขับขี่มองไม่เห็น
เทคโนโลยีเตือนรถในทางสวนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert – RCTA)
ขณะเข้าเกียร์ถอยหลัง หากระบบตรวจพบรถที่กำลังเคลื่อนเข้ามาทางด้านหลังทั้งซ้ายและขวา จะส่งสัญญาณเตือนพร้อมไฟกระพริบเตือนในด้านเดียวกันกับที่มีรถเคลื่อนที่เข้ามา
เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) และเทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection – MOD)
เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยให้ผู้ขับมองเห็นพื้นที่ข้างรถได้รอบทิศทางผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน กล้องทุกตัวจะจับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอระบบสัมผัสแปดนิ้ว ซึ่งช่วยให้การจอดรถง่ายและปลอดภัยขึ้น และยังทำงานร่วมกับเทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคันหรือ Moving Object Detection (MOD) ซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่จับการเคลื่อนไหวได้ 
เทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ (Intelligent Rear View Mirror - IRVM)
กระจกมองหลัง ของ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ มีหน้าจอ LCD ที่แสดงภาพจากกล้องด้านหลังตัวรถ โดยภาพบนจอจะช่วยให้ผู้ขับขี่เห็นทัศนวิสัยด้านหลังได้ในมุมที่กว้างขึ้น ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนระหว่างจอแสดงภาพจากกล้องหรือจากกระจกได้ เพื่อช่วยให้เห็นสภาพการจราจรด้านหลังได้อย่างชัดเจนที่สุด เทคโนโลยี IRVM นี้ช่วยเสริมความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ในกรณีที่มีการบรรทุกสัมภาระหรือมีผู้โดยสารนั่งด้านหลัง
เทคโนโลยีช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA)
เมื่อขับรถขึ้นบนทางลาดชันระบบจะช่วยป้องกันไม่ไห้ตัวรถไหลลงขณะออกตัว เมื่อยกเท้าออกจากแป้นเบรก ระบบจะสั่งให้เบรกทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเหยียบคันเร่งและออกตัวอย่างนุ่มนวล
นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ ยังประกอบด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่

เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ  (Vehicle Dynamic Control – VDC)
เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ ควบคุมการชะลอความเร็ว รวมถึงการตอบสนองของกำลังเครื่องยนต์ ช่วยรักษาเสถียรภาพการทรงตัวของรถขณะหักหลบกะทันหัน ให้ความมั่นใจ ตอบสนองทุกการขับขี่อย่างฉับไว ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ในสถานการณ์คับขัน
เทคโนโลยีช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (Intelligent Trace Control – ITC)
ระบบจะช่วยตรวจสอบและแก้ไขการบังคับเลี้ยวหรือการเร่ง ซึ่งจะช่วยปรับและควบคุมและเบรกล้อทั้ง 4 ให้เป็นไปตามพฤติกรรมของผู้ขับขี่ ที่ง่ายต่อการควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง โดยระบบจะประเมินจากพฤติกรรมการขับขี่ ทั้งการบังคับพวงมาลัย การเบรก และการเร่งความเร็ว 
6 ถุงลมนิรภัย SRS
ถุงลมนิรภัย 6 จุด ประกอบด้วย ถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านหน้าฝั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร , ถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านข้างฝั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และ ถุงลมเสริมความปลอดภัยม่านด้านข้างซ้ายและขวา เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งในทุกรุ่นของนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์  ใหม่
เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter Seatbelts)
เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าสามารถปรับระดับได้ตามขนาดร่างกายของผู้โดยสารแต่ละคน เข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า ELR แบบสามจุด ELR และสามารถดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ เข็มขัดนิรภัยที่นั่งด้านหลัง ELR แบบสามจุดสามตำแหน่งที่นั่ง เสริมความปลอดภัยด้วยจุดยึดเบาะที่นั่งเด็กแบบ ISOFIX เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารที่เป็นเด็ก
ระบบเบรก ABS, EBD และ BA
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (Anti-lock Braking System – ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (Electric Brake Force Distribution System – EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (Brake Assist – BA) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบหยุดรถอัตโนมัติ (Auto Brake Hold) และไฟเบรกดวงที่สามพร้อมไฟ LED สามารถมองเห็นได้ชัดเจน

นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ มีทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ได้แก่:  E, V, VL และ AUTECH  มาพร้อม 7 สีภายนอกให้ลูกค้าเลือก ได้แก่ สีน้ำเงินไนท์บลู (Night Blue) สีเทากันเมทาลิค (Gun Metallic) สีขาวสตอร์มไวท์ (Storm White) สีดำแบล็คสตาร์ (Black Star) สีแดงเรเดียนท์เรด (Radiant Red) สีส้มโมนาร์ช (Monarch Orange) และ สีเงินบริลเลียนท์ซิลเวอร์ (Brilliant Silver) นอกจากนี้ยังนำเสนอสีทูโทนที่เป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ลูกค้า มอบความรู้สึกหรูหรามากขึ้น ด้วยหลังคาแบบลอยตัวสีดำ โดดเด่นสะกดทุกสายตา ซึ่งมีให้เลือกเฉพาะในรุ่น VL และรุ่น AUTECH โดยในรุ่น VL มีสีภายนอกแบบทูโทน 4 สี ได้แก่ สีส้มโมนาร์ช สีแดง เรเดียนท์เรด สีเทากันเมทาลิค และสีขาวสตอร์มไวท์  ขณะที่รุ่น AUTECH มี 4 สีภายนอก โดยเป็นสีทูโทน ที่มาพร้อม หลังคาสีดำ 3 สีได้แก่ สีน้ำเงินไนท์บลู สีเทากันเมทาลิค สีขาวสตอร์มไวท์ และ สีโมโนโทน สีดำ แบล็คสตาร์  

 

 

Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็กวันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ
ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ One2car


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ