Porsche 911 GT3 RS ใหม่ ขุมพลัง 4.0 ลิตร 525 แรงม้า Share this
รถเปิดตัวใหม่
โหมดการอ่าน

Porsche 911 GT3 RS ใหม่ ขุมพลัง 4.0 ลิตร 525 แรงม้า

Champ Autospinn
โพสต์เมื่อ 24 August 2565

Porsche 911 GT3 RS ใหม่ เปิดเผยตัวตนแห่งความสปอร์ตที่แท้จริง ด้วยงานออกแบบดีไซน์ที่ไร้ขีดจำกัด และมาพร้อมพละกำลัง 525 แรงม้า


ปอร์เช่ 911 จีทีสาม อาร์เอส (911 GT3 RS) ใหม่ โดดเด่นสง่างามด้วยส่วนประกอบทางอากาศพลศาสตร์รอบคัน ส่วนของอุปกรณ์ที่ตอกย้ำความเป็นรถสปอร์ต GT ตัวแรงเห็นจะหนีไม่พ้นปีกหลังทรงสูง ซึ่งยึดด้วยฐานแบบ swan- neck ที่มีขนาดขยายใหญ่ขึ้นในทุกมิติ ปีกหลังดังกล่าวประกอบด้วยครีบรับอากาศหลัก และครีบรับอากาศตัวบน ควบคุมการปรับระดับด้วยระบบไฮดรอลิก นับเป็นครั้งแรกของรถปอร์เช่จากสายการผลิตปกติ ที่ขอบด้านบนสุดของครีบรับอากาศมีความสูงมากกว่าหลังคารถ

นอกจากนี้ ตัวถังด้านหน้าของปอร์เช่ 911 จีทีสาม อาร์เอส (911 GT3 RS) จะไม่มีการติดตั้งชิ้นส่วนสปอยเลอร์ แต่จะถูกแทนที่ด้วยลิ้นอากาศ front splitter ทำหน้าที่แบ่งแยกทิศทางการไหลของกระแสอากาศทั้งด้านบน และใต้ท้องรถ ส่วนครีบ Sideblades ด้านข้างจัดระเบียบตัวรถให้แหวกอากาศที่เข้าปะทะได้อย่างดีเยี่ยม ช่องระบายอากาศบริเวณซุ้มล้อหน้ารับบทบาทเสมือนบานหน้าต่างเปิดปิดรับอากาศเข้าสู่ปีกหน้า ช่องลมด้านหลังล้อคู่หน้าเป็นเอกลักษณ์ของรถแข่งปอร์เช่ 911 GT1 ในฐานนะแชมเปี้ยนสนาม  Le Mans ช่วยลดแรงดันอากาศภายในซุ้มล้อ ส่วนของครีบ Sideblades หลังช่องรับอากาศให้เข้าเครื่องกำกับทิศทางเพื่อให้มั่นใจว่าอากาศจะถูกส่งตรงเข้าไปยังด้านข้างของตัวรถ ส่งผลให้อากาศที่ผ่านออกจากหม้อน้ำระบายความร้อนกึ่งกลางรถจะถูกบังคับให้ไหลผ่านรูจมูกอากาศขนาดใหญ่ซึ่งติดตั้งอยู่บนฝากระโปรงหน้า ส่วนครีบอากาศบนหลังคาแยกอากาศให้ไหลเข้าสู่ระบบระบายความร้อนไอดี cooler intake

ในส่วนของช่องเปิดด้านข้างตัวถัง จะทำหน้าที่เสริมประสิทธิภาพให้กับระบบอากาศพลศาสตร์ โดยไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อกระบวนการหมุนเวียนของกระแสอากาศที่วิ่งผ่านตัวรถแม้แต่น้อย ทั้งนี้ในส่วนของซุ้มล้อหลังยังคงได้รับการติดตั้งช่องรับอากาศ และครีบ sideblade เพื่อผลด้านการเรียงตัวของทิศทางลม diffuser ท้ายรถ ยกมาจากรถแข่งปอร์เช่ 911 GT3 โดยมีการดัดแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ระบบช่วงล่างได้รับการปรับปรุงโดยคำนึงถึงอากาศพลศาสตร์เป็นหลัก เนื่องจากซุ้มล้อของปอร์เช่ 911 จีทีสาม อาร์เอส (911 GT3 RS) รับหน้าที่ควบคุมกระแสอากาศที่เต็มไปด้วยความรุนแรง ชิ้นส่วนของปีกนกคู่หน้าจึงได้รับการออกแบบในรูปทรง teardrop-shaped ซึ่งให้ประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ด้วยการเพิ่มแรงกดให้แก่ล้อคู่หน้าได้ถึงประมาณ 40 กิโลกรัมในการทำความเร็วสูง และมักจะถูกนำมาใช้ในแวดวงกีฬาความเร็วระดับโลก เหตุผลจากระยะฐานล้อที่มีความกว้างมากขึ้น (กว้างกว่าปอร์เช่ 911 GT3 ถึง 29 มิลลิเมตร) ส่งผลต่อเนื่องไปยังจุดยึดปีกนกบนคานหน้าที่จำเป็นต้องมีความยาวมากขึ้นเช่นเดียวกัน

เพื่อให้มั่นใจในความสมดุลของแรงกดระหว่างด้านหน้า และด้านหลัง ซึ่งมีผลต่อการเบรกเมื่อวิ่งในความเร็วสูง วิศวกรผู้ดูแลระบบช่วงล่างตั้งใจลดการโคลงตัวภายใต้สภาวะข้างต้น ทำให้ปอร์เช่ 911 จีทีสาม อาร์เอส (GT3 RS) ใหม่ ได้รับการปรับตำแหน่งของลูกหมากปีกนกล่างคู่หน้าให้ต่ำลง รวมทั้งปรับตั้งช่วงล่างหลัง multi-link พร้อมเปลี่ยนแปลงค่าความแข็งของชุดสปริงให้เหมาะสม ด้านระบบช่วยเหลือการขับขี่ และระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง rear-axle steering ยังได้รับการปรับแต่งให้ตอบสนองได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นอีกด้วย

ปอร์เช่ 911 จีทีสาม อาร์เอส (911 GT3 RS) ใหม่ มาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ คือ Normal, Sport และ Track ในส่วนของโหมด Track ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าพื้นฐานต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ นอกเหนือจากนั้น ยังสามารถปรับตั้งค่า rebound และ compression damping ของโช๊คอัพหน้า และหลังได้อย่างอิสระหลากหลายระดับ ดิฟเฟอเรนเชียล (differential) หลังสามารถปรับตั้งการทำงานผ่านสวิทช์ rotary controls บนพวงมาลัยได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำจากการทำงานร่วมกันกับหน้าจอแสดงผล

สำหรับสวิทช์ rotary controls ทั้ง 4 ตัว และปุ่มควบคุมระบบ Drag Reduction System (DRS) วางตำแหน่งรายรอบวงพวงมาลัย เมื่อใช้งานสวิทช์ rotary  controls จะมีการแสดงข้อมูลด้วยกราฟฟิกบนหน้าปัทม์อย่างชัดเจนในทุก ๆ ขั้นตอนการปรับตั้งค่า อีกทั้งปอร์เช่ 911 จีทีสาม อาร์เอส (GT3 RS) ใหม่ ยังได้เพิ่มเติมฟังก์ชั่นหน้าจอ track screen ในลักษณะแบบเดิมที่คุ้นเคยกันดีจากปอร์เช่ 911 GT3 เพียงปลายนิ้วสัมผัส ผู้ขับขี่สามารถลดปริมาณข้อมูลที่แสดงบนหน้าจอขนาด 7 นิ้วทั้งสองลง ให้เหลือเพียงข้อมูลที่จำเป็นต่อการขับขี่เท่านั้น ตัวเลขระบุตำแหน่งเกียร์บริเวณฝั่งซาย และขวา ของมาตรวัดรอบแบบเข็ม คืออีกสิ่งหนึ่งที่ถ่ายทอดมาจากรุ่น GT3

ปอร์เช่ 911 จีทีสาม อาร์เอส (911 GT3 RS) ใหม่ ใช้เครื่องยนต์รอบจัดขนาดความจุกระบอกสูบ 4.0 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ผ่านการพัฒนาในหลายจุดเมื่อเปรียบเทียบกับปอร์เช่ 911 GT3 พละกำลังขยับเพิ่มขึ้นเป็น 525 แรงม้า (386 กิโลวัตต์) โดยหลักแล้วได้มาจากเพลาลูกเบี้ยวชุดใหม่ที่ผ่านการปรับแต่งเพิ่มประสิทธิภาพ ระบบประจุไอดีแบบลิ้นปีกผีเสื้อเดี่ยว single-throttle intake และวาล์วที่แข็งแรงทนทาน

  • ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC: อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย: 7.8 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 12.7 ลิตร/100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย: 289 กรัมต่อกิโลเมตร
  • ทดสอบตามมาตรฐาน  WLTP: อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย: 7.4 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 13.4 ลิตร/100 กิโลเมตร;อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย:  305 กรัมต่อกิโลเมตร

ระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะคลัทช์คู่ 7 จังหวะ Porsche Dop- pelkupplung (PDK) อัตราทดที่กระชับฉับไวมากกว่าปอร์เช่ 911 GT3 ช่องรับอากาศระบายความร้อนบริเวณใต้ท้องรถช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบเกียร์จะสามารถทำงานได้เต็มสมรรถนะแม้อยู่ภายใต้สถานการณ์สุดทรหดในสนามแข่ง

ปอร์เช่ 911 จีทีสาม อาร์เอส (GT3 RS) ใหม่ มีอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลา 3.2 วินาที ท็อปสปีดสูงสุด 296 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ระบบเบรกจัดเต็มด้วยคาลิเปอร์หน้า Aluminium monobloc 6 ลูกสูบ และจานเบรกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 408 มิลลิเมตร เมื่อเปรียบเทียบกับปอร์เช่ 911 GT3 ขนาดของลูกสูบเบรกเพิ่มขึ้นจาก 30 เป็น 32 มิลลิเมตรเสริมด้วยความหนาจานเบรกที่เพิ่มขึ้นจาก 34 เป็น 36 มิลลิเมตร ส่วนระบบเบรกหลังติดตั้งจานเบรกขนาด 380 มิลลิเมตร ประกบด้วยคาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ สามารถเลือกสั่งติดตั้งอุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติมระบบเบรกเซรามิก Porsche Ceramic Composite Brake (PCCB) ที่มีจานเบรกหน้าขนาด 410 มิลลิเมตร และจานเบรกหลังขนาด 390 มิลลิเมตร

ปอร์เช่ 911 จีทีสาม อาร์เอส (911 GT3 RS) ใหม่ ติดตั้งล้ออัลลอยด์ฟอร์จ เซ็นเตอร์ล๊อค (forged light-alloy centre-lock wheels) เป็นมาตรฐาน พร้อมยางสปอร์ตคู่หน้าขนาด 275/35 R20 และคู่หลังขนาด 335/30 R21

ปอร์เช่ 911 จีทีสาม อาร์เอส (911 GT3 RS) ใหม่ มีน้ำหนักเพียง 1,450 กิโลกรัม (น้ำหนักรถเปล่าวัดตามมาตรฐาน DIN) ถึงแม้ชิ้นส่วนตัวถังหลายจุดจะมีขนาดใหญ่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประตู ปีกหน้า หลังคา และฝากระโปรงหน้า ซึ่งทั้งหมดนี้ผลิตขึ้นจากวัสดุ CFRP ทั้งสิ้น นอกจากนั้นวัสดุน้ำหนักเบาสุดแกร่งอย่าง CFRP ยังได้รับการนำมาใช้ภายในห้องโดยสาร ตัวอย่างเช่น เบาะนั่งมาตรฐาน full bucket seats

ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมด้วยหนังแท้สีดำ วัสดุ Racetex และชิ้นงานตกแต่ง carbon-weave ให้อารมณ์สปอร์ตเต็มพิกัด สามารถติดตั้งชุดแต่ง Clubsport package เพิ่มเติมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งในชุดแต่งดังกล่าวจะประกอบด้วยโครงสร้างนิรภัยเหล็กกล้า steel rollover bar อุปกรณ์ดับเพลิงแบบพกพา และเข็มขัดนิรภัย 6 จุดสำหรับผู้ขับขี่

ในส่วนของชุดแต่ง Weissach package มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการติดตั้ง โดยจะเพิ่มอุปกรณ์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ฝากระโปรงหน้า หลังคา ส่วนประกอบของปีกหลัง และกรอบกระจกมองข้างด้านบน สร้างขึ้นจาก carbon-weave เหล็กกันโคลงหน้า และหลัง ชิ้นส่วน coupling rods และ shear panel ผลิตจากวัสดุ CFRP ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อการยกระดับสมรรถนะการขับขี่สไตล์สปอร์ต นับเป็นครั้งแรกที่โครงสร้างนิรภัย rollover bar สร้างขึ้นด้วยวัสดุ CFRP ลดน้ำหลักลงได้ถึง 6 กิโลกรัมเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้เหล็ก high- light อื่น ๆ ที่มีในชุดแต่ง Weissach package คือ PDK shift paddles พร้อมนวัตกรรมจากมอเตอร์สปอร์ต magnet  technology ช่วยให้การเปลี่ยนจังหวะเกียร์เฉียบคม แม่นยำในทุกสภาพการขับขี่ ต้องยกประโยชน์ให้ระบบควบคุมการทำงานที่เที่ยงตรง และตอบสนองต่อการสัมผัสอย่างเป็นธรรมชาติ อุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติมสำหรับชุดแต่ง Weissach package คือล้ออัลลอยด์แมกนีเซียมฟอร์จ (magnesium forged wheels)  ลดน้ำหลักลงได้อีกถึง 8 กิโลกรัม

 


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ