Nissan Navara Black Edition 2022 สวย ดุ เข้ม กับชุดแต่งรอบคัน Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

Nissan Navara Black Edition 2022 สวย ดุ เข้ม กับชุดแต่งรอบคัน

วรัญญู ยอดพรหม
โพสต์เมื่อ 11 October 2565

Nissan Navara Black Edition รถแต่งสไตล์สปอร์ต ดุดัน ในราคาที่เอื้อมถึงได้ไม่ยาก พร้อมตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งรถจากโรงงาน เพื่อความแตกต่าง


Nissan Navara Black Edition 2022

Nissan Navara Black Edition 2022 รุ่นตกแต่งพิเศษเป็นการต่อยอดจาก Navara รุ่น E หรือรองท็อปมาตกแต่งเพิ่มภายใต้โฉมที่เข้ม แกร่ง มากขึ้นกับชุดแต่งสีดำ ให้อารมณ์สปอร์ตทั้งภายนอกภายใน

แน่นอนว่ากลุ่มลูกค้านั้นมีหลากหลาย และบางส่วนชื่นชอบในการตกแต่งรถกระบะให้ดูแตกต่างสำหรับ นิสสันก็มีตัวเลือกอย่างเช่น PRO-2X หรือ PRO-4X แต่หลายท่านอาจจะรู้สึกว่าราคาแรงไปหน่อย ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือก นิสสัน จึงได้จัดรุ่น BLACK EDITION ที่มีราคาไม่เกินล้าน แต่ยังคงได้รับการตกแต่ง หล่อๆเหมือนกับ PRO-2X หรือ PRO-4X นั้นเอง

การขับขี่ทดสอบ Nissan Navara Black Edition

Nissan Navara Black Edition มีตัวเลือกของเครื่องยนต์ 2 แบบ แต่คันที่ใช้ในการทดสอบครั้งนี้เป็น 2.3 Twin-Turbo AUTO ซึ่งมีพละกำลังถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร รองรับน้ำมัน B20 ซึ่งมองจากขนาดของเครื่องยนต์นั้นอาจจะรู้สึกว่า ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก 2.3 ลิตร ต้องแบกรถขนาดใหญ่ 4 ประตู จะเป็นอย่างไงนะ?

การเดินทางทดสอบในครั้งนี้ ทำการทดสอบระยะทางรวมประมาณ 300 กิโลเมตร (เดินทาง 3 คน) ความรู้สึกในการขับนั้นต้องบอกตามตรงว่า ช่วงแรกรู้สึกว่ารถค่อนข้างหน่วง แต่พอจับจังหวะคันเร่งได้แล้วบอกได้เลยว่ามาแบบทันใจมาก เหมือนรถคันเล็กเร่งได้ตามใจสั่งทุกครั้งเมื่อกดออก ในการปรับตัวนั้นถ้าคุณกดคันเร่งแบบจมเลย รถจะไม่มาโดยทันทีอาการเหมือนรอรอบ แต่ถ้าคุณค่อยๆเติมคันเร่ง รถจะมาตามเท้าแบบทันใจขับขี่ได้อย่างสนุกสนานก็ว่าได้ จริงๆ แล้วข้อดีของคันเร่งที่ไม่ไวจนเกินไปจะช่วยในหลายเรื่องทั้งการประหยัดน้ำมันเหมือนเราค่อยๆ เหยียบออกตัว และในเรื่องการขับขี่ที่นุ่มนวลเพราะเมื่อรถมีแรงบิดมากกดคันเร่งเบาๆ รถก็ออกตัวได้ทันที

วิ่งทางไกลด้วยตัวช่วย ระบบควบคุมความเร็ว Cruise Control ทำให้การเดินทางนั้นสบายมากยิ่งขึ้นลดความเมื่อยล้าในการเดินทางได้เป็นอย่างดีและเป็นอีกวิธีในการวิ่งไม่ให้เกินกฎหมายกำหนดอีกด้วย เพราะการที่รถเก็บเสียงค่อนข้างดีและเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลังที่ดีนั้นบางครั้งอาจจะลืมว่าวิ่งเกินความเร็วที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ได้

จุดเด่น ของเครื่องยนต์นอกจากเรื่องพละกำลังที่ดีแล้ว ยังให้การประหยัดน้ำมันที่ดีด้วยเช่นกันในการวิ่งทดสอบแบบใช้งานจริงตัวเลขที่ทำออกมาได้เฉลี่ยอยู่ที่ 14 km/L ถือว่าประหยัดสำหรับรถขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักเยอะพร้อมทั้งมีสัมภาระด้วย ในเมืองอยู่ที่ประมาณ 11-12km/L ก็ยังให้ความประหยัดอยู่ สิ่งที่ทำให้ Nissan Navara ทำตัวเลขออกมาค่อนข้างดี คือ เกียร์ 7 สปีด และอัตราทดที่เหมาะสมกับการใช้งาน เพราะเมื่อขับลอยตัวที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. จะใช้รอบเครื่องยนต์เพียงแค่ 1,750 รอบ/นาที เท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับในยุคที่น้ำมันค่อนข้างแพง

ระบบความปลอดภัย Nissan Navara Black Edition

Nissan Navara Black Edition เป็นรถขนาดใหญ่ สิ่งที่หลายท่านมักกังวลเวลาขับรถคันใหญ่คือ กลัวว่าจะไปเฉี่ยวชนกับคันอื่น เพราะรถคันใหญ่มักมีมุมอับเยอะ โดยเฉพาะการขับใช้งานในเมืองที่การจราจรแออัด แต่จากการทดสอบ ใช้งานจริงบนถนน บอกเลยว่า Nissan Navara  เป็นรถที่ขับง่ายมาก ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน แบบจัดเต็ม อย่างเช่น Intelligent Around View Monitor (IAVM) หรือ กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง ผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน โดยกล้องทุกตัวจะจับภาพขณะเคลื่อนไหวจริง และแสดงผลเป็นภาพจากมุมสูงผ่านหน้าจอกลาง เมื่อขับผ่านที่แคบ หากเซนเซอร์ตรวจจับได้ว่ารอบข้างมีสิ่งกีดขวางที่อาจก่อให้เกิดอันตราย จะแสดงภาพเป็นกล้องมุมมองรอบคัน เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งมีประโยชน์มากๆ สำหรับการใช้งานในเมืองที่แคบหรือการเข้าที่จอดรถต่างๆ การมีกล้องรอบคันช่วยได้มากจริงๆ

●    กล้อง 360 องศา เพิ่มความปลอดภัย

นอกจากนี้  ยังมีโครงสร้างนิรภัย Zone Body,ถุงลมนิรภัยคู่หน้า,ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะถนนลื่น (ABLS),ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ VDC,ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว TCS,ระบบควบคุมเสถียรภาพของรถ ขณะลากจูง (TSA),ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED,เข็มขัดนิรภัยเบาะนั่งด้านหน้า ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง พร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ,ระบบกุญแจอัจฉริยะ,ระบบกุญแจ Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย,กล้องมองหลัง,สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหลัง,คานกันกระแทกด้านข้าง,พวงมาลัยแบบยุบตัวได้ เมื่อเกิดการชนด้านหน้า,ระบบตัดวาล์วน้ำมันเชื้อเพลิงอัตโนมัติ ในกรณีรถพลิกคว่ำ
 

สรุป Nissan Navara Black Edition

Nissan Navara Black Edition เป็นรถกระบะอีกหนึ่งรุ่นจากค่าย นิสสัน ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเพราะด้วยการตกแต่งที่เรียกว่ามีความโดดเด่นเรียกสายตาจากผู้รวมทางได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญกับการตกแต่งที่มาจากโรงงานมั่นใจได้ทั้งในเรื่องมาตราฐานในการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งสบายใจได้พร้อมทั้งหมดนี้รวมอยู่ในค่าผ่อนรถแล้วด้วย

ในส่วนของสมรรรถนะการขับขี่นิสสันยังคงเป็นอีกค่ายที่ทำรถกระบะมายาวนานซึ่งมีมาตราฐานไว้ใจได้ทั้งในเรื่องความคงทนทั้งตัวรถและครื่องยนต์ และให้ความแรงด้วยเช่นกันเร่งแบบทันใจ แถมให้การประหยัดน้ำมันด้วย ดังนั้น Nissan Navara Black Edition ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่ชอบในการตกแต่งรถที่แตกต่างในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

 

โดยรุ่น BLACK EDITION จะมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น

ตัวถัง 2 ประตู King Cab

  • Calibre E BLACK EDITION 2.3 Turbo 6MT: 799,000 บาท
  • Calibre E BLACK EDITION 2.3 Twin-Turbo 7AT: 849,000 บาท

ตัวถัง 4 ประตู Double Cab

  • Calibre E BLACK EDITION 2.3 Turbo 6MT: 884,000 บาท
  • Calibre E BLACK EDITION 2.3 Twin-Turbo 7AT: 934,000 บาท

มาพร้อมการขยายเวลารับประกันคุณภาพตัวรถเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร

แต่วันนี้ทางทีมได้ทำการทดสอบ Nissan Navara Calibre E BLACK EDITION 2.3 Twin-Turbo 7AT เพื่อให้เห็นถึงประสิทธิภาพของตัวรถ ว่าเมื่อหน้าตาดีเพิ่มความดุดันเข้าไปอีก ความแรงของเครื่องยนต์จะมีประสิทธิภาพดีแค่ไหน

ความพิเศษที่ Nissan ได้แต่งเพิ่มเติมในรุ่น Black Edition

 

  • กระจังหน้าแบบ Interlock สีเทาดำ
  • ชายล่างกันชนหน้าสีดำ
  • สติ๊กเกอร์ Black Edition ด้านข้างตัวรถ
  • สติ๊กเกอร์ Black Edition บนฝากระโปรงหน้า
  • กระจกมองข้างสีดำ
  • มือจับเปิดประตูสีดำ
  • เสาอากาศ Shark Fin สีดำ
  • กันชนหลังสีดำ
  • มือจับเปิดฝาท้ายสีดำ
  • คิ้วซุ้มล้อสีดำ
  • ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว สีดำ ยาง ขนาด 255/60 R18
  • แดชบอร์ดด้านหน้าและกรอบช่องแอร์ ตกแต่งด้วยสีดำ
  • ช่องวางแก้วบริเวณคอนโซลกลาง ตกแต่งด้วยสีดำ
  • ฐานเกียร์ ตกแต่งด้วยสีดำ
  • แผงด้านข้างประตู ตกแต่งด้วยสีดำ

**รถที่นำมาถ่ายมีการตกแต่งเพิ่มเติมบางรายการ สามารถติดต่อรายละเอียดได้ที่โชว์รูมนิสสัน**

โดย Nissan Navara Black Edition จะมีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่

ดีเซล 2.3 Turbo  (เฉพาะรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 MT)

เครื่องยนต์รหัส YS23DDT ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.3 ลิตร 2,298 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศ VGS Turbo พร้อม Intercooler กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง รองรับน้ำมันสูงสุดถึงดีเซล B20 ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน

 

ดีเซล 2.3 Twin-Turbo  (เฉพาะรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 7AT)

เครื่องยนต์รหัส YS23DDTT ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.3 ลิตร 2,298 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศ Twin-Turbochared พร้อม Intercooler กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง รองรับน้ำมันสูงสุดถึงดีเซล B20 ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมัน

ดีไซน์ภายนอก Nissan Navara Black Edition

สิ่งที่ทำให้ Nissan Navara Black Edition มีความโดดเด่นขึ้นมา ต้องยอมรับว่าชุดแต่งมีผลมาก เพราะทำให้รถมีความเด่นขึ้น จุดหลักคือ สติ๊กเกอร์ Black Edition รอบคันตั้งแต่ฝากระโปรงหน้า พาดไปที่ด้านข้างจนถึงท้ายรถ ทำให้รถดูแปลกตาและเด่นขึ้นมาจากรุ่นปกติมาก แต่สิ่งที่ทำให้ตัวรถดูมีความดุดันมากคือ กระจังหน้า Interlock สีเทาดำ ซึ่งเหมือนกับ PRO-4X ทำให้ตัวรถดูมีพลังขึ้นมากชัดเจน ล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว สีดำดูดุเข้ากับซุมล้อขนาดใหญ่สีดำ

  • กระจังหน้าแบบ Interlock สีเทาดำ

  • คิ้วกันสาดรถยนต์ เพิ่มความดุดัน

  • สติ๊กเกอร์ Black Edition บนฝากระโปรงหน้า

  • สติ๊กเกอร์ Black Edition ด้านข้างตัวรถ

  • สติ๊กเกอร์ Black Edition ด้านท้าย

  • สติ๊กเกอร์ Black Edition ด้านข้างตัวรถ

  • เสาอากาศ Shark Fin สีดำ

  • ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว

  • ชุดแต่งกันชนหน้าเสริมความดุ

ความโดดเด่นอีกอย่างถือว่าเป็นจุดขายก็ว่าได้ กับ ระบบไฟหน้า LED Projector Quad-Eyes ให้ความสวยงามเวลามองเข้าไปเห็นลูกแก้วเรียงชั้น แต่ยังใช้งานได้ดีอีกด้วยเวลาขับขี่ในเวลากลางคืนทางไกล ถนนมืด ไม่มีไฟถนน ประสิทธิภาพของไฟหน้าแสดงออกมาให้เห็นว่ามีความสว่างมากซึ่งจะช่วยในเรื่องการขับขี่ในเวลากลางคืนได้เป็นอย่างดีมองเห็นได้อย่างชัดเจนและที่สำคัญคือลำแสงไม่แยงตารถคันที่ขับสวนมาหรือคันที่เราขับตามอีกด้วย

  • ไฟหน้าส่องสว่างในเวลากลางคืน

  • ไฟหน้า LED Projector Quad-Eyes

ซึ่งโดยรวมกับชุดแต่ง BLACK EDITION ที่เสริมเข้ามาในตัวรถนั้นถือว่าทำได้อย่างลงตัว ให้ทั้งความสวยงามและประสิทธิภาพของการใช้งานได้อีกด้วย ไม่ได้เน้นที่ความสวยเพียงอย่างเดียวแต่ก็ต้องใช้งานได้ดีด้วย

 

ดีไซน์ภายใน Nissan Navara Black Edition

  

  • ห้องโดยสารตกแต่งโทนสีดำ

ห้องโดยสารกว้างนั่งสบาย ในส่วนของการปรับแต่งภายในนั้นอาจจะไม่ได้เยอะมากแต่เน้น โทนสีดำ ตั้งแต่ แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศสีดำ ตกแต่งด้วย Piano Black  ช่องวางแก้วบริเวณคอนโซลกลาง ตกแต่งด้วยสีดำ แผงด้านข้างประตู ตกแต่งด้วยสีดำ ซึ่งโดยรวมแล้วทำให้รถดูมีความดุดันมากยิ่งขึ้น

  • เบาะหลังกว้างขวางพร้อมที่วางแก้วน้ำ

  • ช่องวางแก้วน้ำคอนโซนกลาง

  • ตกแต่งรอบคันด้วยหนังสีดำตัดด้วยด้ายสีน้ำตาล

  • เชื่อมต่อด้วยระบบ Apple CarPlay และ Android

  • หน้าจอแสดงผล สี TFT ขนาด 7 นิ้ว

สิ่งอำนวยความสะดวกสบาย  หน้าจอความบันเทิงระบบสัมผัส ขนาด 8  นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ที่มีการเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดายถ้าเชื่อมต่อแล้วขึ้นรถทุกครั้งระบบจะเชื่อมเองอย่างรวดเร็วทันใจ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี TFT ขนาด 7 นิ้ว แสดงข้อมูลของตัวรถได้ง่ายสามารถปรับได้ที่พวงมาลัย

  • ช่องเก็บของค่อนข้างลึก พร้อมช่องเสียบ USB

  • ช่องเสียบ USB ด้านหน้า วางในตำแหน่งที่ใช้งานได้ง่าย

  • แอร์ผู้โดยสารแถวหลังเลือกปรับทิศทางเองได้ พร้อมช่องUSB

 

สิ่งสำคัญภายในรถ ณ ปัจจุบัน คือช่องเสียบ USB Type A และ USB Type C ซึ่ง Nissan Navara ใส่มาให้ครบทุกแบบหลายจุดเพียงพอต่อการใช้งาน แอร์ก็เป็นสิ่งจำเป็นของประเทศไทย ต้องบอกว่าเป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่สู้กับความร้อนบ้านเราได้เป็นอย่างดี และถ้าผู้นั่งหนาวแอร์ก็แยกเป็น 2 โซน สามารถเลือกปรับเองได้

  • ระบบควบคุมความเร็ว Cruise Control ด้านขวา

  • พวงมาลัยทรงสปอร์ทพร้มอปุ่มความคุมต่างๆ ง่ายต่อการใช้งาน

พวงมาลัยแบบ 3 ก้านหุ้มหนัง ปุ่มควบคุมที่อยู่ฝั่งซ้าย สำหรับควบคุมระบบเครื่องเสียง และกดดูค่าต่าง ๆ ของหน้าจอเรือนไมล์ ส่วนปุ่มทางฝั่งขวาสำหรับปรับตั้งค่า Cruise Control นอกจากนี้ ที่ปัดน้ำฝน และไฟหน้า เรายังสามารถตั้งแบบออโต้ได้อีกช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่แบบไม่ต้องกังวลใจเมื่อเราตั้งแบบอัตโนมัติ

  • แผนที่แสดงหน้าจอกลางชัดเจน ใช้งานได้สะดวกสบาย

 

สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 3 สี ได้แก่

  • สีแดง Burning Red
  • สีขาว White Pearl
  • สีดำ Black Star

สนใจทดลองขับสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ผู้จำหน่ายนิสสัน 177 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงศูนย์บริการลูกค้านิสสัน โทร. 02 401 9600 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย https://www.nissan.co.th/

 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ ตรวจสอบราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn 

ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ