LAMBRETTA X300 พรีเมี่ยมคลาสสิกที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นแลม กับขุมพลัง 300cc แรงสะใจคนยุคใหม่ในกลิ่นอายพรีเมี่ยมคลาสสิก กับราคาสุดเร้าที่ 154,900 บาท ได้รถพรีเมี่ยมขนาดนี้ !
LAMBRETTA X300
LAMBRETTA X300 พรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์สุดคลาสสิกที่เพิ่งเปิดตัวกันไปสดๆ ร้อนๆ ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นการเปิดตัวตามตลาดโลกที่เร็วมากๆ เพราะเจ้ารถคันนี้ถูกเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2565 ภายในงาน Milan Design Week 2022 ที่จัดขึ้น ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี
และความพิเศษของ LAMBRETTA X300 ในประเทศไทยนั่นคือการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์อย่างเป็นทางการด้วยนักแสดงชื่อดัง ‘มาริโอ้ เมาเร่อ’ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์
LAMBRETTA X300 การออกแบบ
LAMBRETTA X300 มาในคอนเซปต์ ‘Heritage To Future’ ถือเป็นโมเดลฉลองครบรอบ 75 ปี กับดีไซน์มิติใหม่ ในจิตวิญญาณเดิม กับรูปทรง Diamond lines ของการออกแบบเส้นสายบนตัวรถ ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของ LAMBRETTA ด้วยงานดีไซน์สไตล์อิตาเลียน ที่ใช้แนวคิดแห่
ไฟหน้า ใช้เป็นไฟหน้า LED เต็มระบบทั้งไฟสูงและไฟต่ำในโคม 6 เหลี่ยม อันเป็นเอกลักษณะของแบรนด์ LAMBRETTA อีกทั้งยังมีการใส่ชื่อของแบรนด์เอาไว้ที่ภายในโคมไฟหน้าด้วย ส่วนตัวไฟเลี้ยวแบบ LED ติดตั้งอยู่ที่ด้านข้างของชุดหน้าตัวรถ มาพร้อมกับโลโก้ของแบรนด์ และชื่อรุ่นรถติดตั้งอยู่ที่ด้านหน้าด้วยเช่นกัน
กระจกมองข้าง เป็นสีโครเมี่ยมสุดเงางาม ช่วยเพิ่มความพรีเมี่ยมให้กับตัวรถได้เป็นอย่างดี
ส่วนบริเวณกึ่งกลางด้านหน้า จะมีลักษณะเป็นโป่งยื่นออกมา และมีช่องเล็กๆ อยู่ด้านล่าง ซึ่งในนั้นจะเป็นที่อยู่ของแตร
ช่วงล่าง ใช้ช่วงล่างแบบดับเบิ้ลอาร์มลิ้งค์ ซึ่งช่วงล่างแบบนี้มีจุดเด่นตรงที่ทำให้รถทรงตัวบนความเร็วสูงได้ดี ด้านระบบเบรกก็จัดเต็มด้วยดิสก์เบรกเดี่ยวพร้อมปั้มเบรก 2 พอต และ ABS ป้องกันล้อล็อก ส่วนล้อใช้เป็นล้ออัลลอยขนาด 12 นิ้ว รัดยางขนาด 120/70 R12 ชนิดไม่มียางในจาก IRC
เรือนไมล์ของ LAMBRETTA X300 ถูกออกแบบให้มีความร่วมสมัยแต่แฝงด้วยเทคโนโลยีได้อย่างกลมกล่อม โดยใช้เป็นเรือนไมล์ทั้งแบบเข็มและดิจิตอลผสมกันภายในกรอบไมล์ทรง 4 เหลี่ยมดีไซน์คลาสสิก
ด้านบน จะเป็นมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ โดยมี Redline อยู่ที่ 8,000 รอบ/นาที ส่วนด้านล่างจะเป็นหน้าจอดิจิตอล บอกข้อมูลการขับขี่อื่นๆ ครบครัน ทั้งมาตรวัดความเร็ว, ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง, อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น, นาฬิกา, จับทริป, มาตรวัดแรงดันแบตเตอรี่ เป็นต้น
ประกับแฮนด์ซ้าย ประกอบด้วยปุ่มเปิด/ปิดไฟสูง ไฟเลี้ยว และแตร
ประกันแฮนด์ขวา ประกอบด้วยปุ่มควบคุมเมนูบนเรือนไมล์, ปุ่มไฟฉุกเฉิน และปุ่มติดเครื่องยนต์
ด้านซ้าย ใต้แฮนด์ สามารถเปิดออกมาได้ โดยจะเป็นช่องเติมน้ำหล่อเย็นของตัวรถ มาพร้อมช่องเสียบ USB-C สำหรับใช้ชาร์จมือถือ ซึ่งจ่ายไฟได้มากถึง 3A ด้วยกัน
ระบบกุญแจ เป็นกุญแจแบบคีย์เลสมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมทุกระบบของตัวรถที่บริเวณนี้ จะเปิด/ปิดรถ, ล็อกรถ, เปิดเบาะ ก็ที่ตรงนี้เลย
ครีปด้านข้างของตัวรถ เป็นตำแหน่งของหม้อน้ำที่ติดตั้งอยู่ภายใน ซึ่งมีพัดลมหม้อน้ำมาให้ถึง 2 ตำแหน่งด้วยกัน
เบาะนั่ง เป็นเบาะนั่งตอนเดียว ความสูงจากพื้นอยู่ที่ 790 มม.
ใต้เบาะนั่ง มีพื้นที่สำหรับเก็บสัมภาระ สามารถเก็บหมวกกันน็อกแบบครึ่งใบได้ ส่วนด้านหลังจะเป็นตำแหน่งของถังน้ำมัน ความจุอยู่ที่ 7.5 ลิตร
พื้นที่วางเท้าเป็นแบบฟลอบอร์ด ขึ้น-ลงรถได้ง่าย และควบคุมรถได้ง่าย
เมื่อมองจากด้านข้าง จะเห็นลายเส้นของรถแบบ Diamond Cut อย่างชัดเจน ตัวทรวดทรงต่างๆ ของตัวรถถูกออกแบบไว้อย่างปราณีต โดยเฉพาะตัวถังโลหะของรถคันนี้ที่ดูเรียบหรู ดูดีมีสไตล์วินเทจเป็นอย่างยิ่ง ประกอบกับโครงสร้างตัวรถแบบ Low & Long ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ LAMBRETTA มาตั้งแต่อดีต สู่รุ่นปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถควบคุมบาลานซ์
ไฟท้าย ถือเป็นส่วนที่โดดเด่นมากๆ ของรถคันนี้ ด้วยดีไซน์ที่ไม่เหมือนใครในท้องตลาด ดูมีความพรีเมี่ยมเหนือระดับด้วยรูปทรงแท่งคริสตัลที่มีการเพิ่มชั้นด้วยการซ้อมโคมด้านนอกอีกชั้น ตัวไฟเป็นไฟ LED เต็มระบบ มาพร้อมกับระบบ IFS (Integrate-Function Signals) ที่ออกแบบให้ทั้ง ไฟเลี้ยว/ไฟฉุกเฉิน/ไฟเบรก build-in อยู่ภายใต้โคมไฟท้ายเดียวกัน
เครื่องยนต์ LAMBRETTA X300
LAMBRETTA X300 ตอบโจทย์ความต้องการด้านความแรงด้วยเครื่องยนต์ LSP (Lambretta Super Performance) ขนาด 275 ซีซี 1 สูบ 4 จังหวะ 4 วาล์ว จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้
สเปค LAMBRETTA X300
เครื่องยนต์ | 1 สูบ 4 จังหวะ 4 วาล์วต่อสูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ |
ปริมาตรกระบอกสูบ | 275 ซีซี |
พละกำลังสูงสุด | 25 แรงม้า ที่ 8,250 รอบ/นาที |
แรงบิดสูงสุด | 24.5 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบ/นาที |
เกียร์ | CVT |
ระบบขับเคลื่อน | สายพาน |
ตัวรถ LAMBRETTA X300
โช๊คหน้า | ดับเบิ้ลอาร์มลิ้งค์ |
โช๊คหลัง | โช๊คอัพคู่ |
เบรคหน้า | ดิสเบรคเดี่ยว ปั้มเบรค 2 พอต พร้อม ABS |
เบรคหลัง | ดิสเบรคเดี่ยว ปั้มเบรค 1 พอต พร้อม ABS |
ยางหน้า | 120/70 R12 |
ยางหลัง | 130/70 R12 |
มิติรถ LAMBRETTA X300
ขนาด ยาว x กว้าง x สูง (มม.) | 1,922 x 741 x 1,117 |
ความสูงเบาะ | 790 มม. |
ระยะฐานล้อ | 1,370 มม. |
ความสูงจากพื้นถึงเครื่อง | 135 มม. |
น้ำหนักตัวพร้อมใช้งาน | 160 กก. |
น้ำมันเชื้อเพลิง | 7.5 ลิตร |
ทดลองขับ LAMBRETTA X300
ในส่วนของการทดสอบขับขี่ LAMBRETTA X300 เราได้ทำการทดสอบขับขี่ในหลากหลายเส้นทาง เพื่อเฝ้นหาประสิทธิภาพของตัวรถคันนี้ว่าเป็นอย่างไร สัมผัสแรกที่ได้รับนั่นคือเป็นรถที่มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำมาก และมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบากว่าที่คิด แม้ว่าจะใช้ตัวถังเป็นโลหะทั้งหมด แต่ด้วยความที่น้ำหนักส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้พื้นมาก ทำให้รู้สึกว่ารถคันนี้ไม่ได้หนักอย่างที่คิดไว้
พละกำลัง ถือเป็นจุดเด่นของรถคันนี้ อัตราเร่งช่วง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 8 วินาที ซึ่งถือว่าทำได้ดีสวนทางกับหน้าตาที่ดูเน้นขี่ชิวๆ เอาว่าเรื่องพละกำลังของรถคันนี้ถือว่าหายห่วงเลยทีเดียว โดยความเร็วสูงสุดที่ทำได้อยู่ที่ 155 กม./ชม. กับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเพียง 33 กม./ลิตร เท่านั้น ถือว่าเป็นรถที่ค่อนข้างประหยัดน้ำมัน เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้รับมา
ช่วงล่าง ถือว่าออกแนวอารมณ์สปอร์ตซะมากกว่า ด้วยความที่รถมีพละกำลังที่สูง จึงไม่แปลกนักที่จะให้ช่วงล่างอารมณ์ประมาณนี้มา ซึ่งข้อดีของช่วงล่างประเภทนี้นั่นคือเวลาเราขับขี่ด้วยความเร็วสูง รถยังมอบความมั่นใจในการควบคุมรถให้กับเราได้เป็นอย่างดี ยิ่งเวลาขับเข้าโค้งด้วยจะยิ่งเห็นผลมาก เพราะด้วยศูนย์ถ่วงของรถที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้เราเลี้ยวพลิกรถได้ง่าย
การขับซอกแซกในเมืองก็ถือว่าทำได้ง่าย ด้วยขนาดตัวรถที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก ประกอบกับฐานล้อที่ยาวกำลังดี ทำให้วงเลี้ยวของรถถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง ขับขี่ในเมืองได้สะดวก ซอกแซกได้ง่าย ด้านระบบเบรกติดรถถือว่าให้มาดีเลย ด้วยดิสก์เบรกหน้า-หลัง พร้อม ABS ทั้งคู่ ถือว่าสบายใจหายห่วงเรื่องระบบเบรกได้
ในส่วนของการใช้ LAMBRETTA X300 คันนี้ในการเดินทางไกล บอกได้เลยว่าคันนี้แหละตอบโจทย์ด้วยประการทั้งปวง ด้วยพละกำลังจากเครื่องยนต์ 275cc ที่สามารถทำความเร็วได้มากกว่า 120 กม./ชม. ได้แบบสบายๆ กับอัตราสิ้นเปลืองราวๆ 33 กม./ลิตร ด้วยความจุถังน้ำมัน 7.5 ลิตร นั่นหมายความว่าคุณสามารถเดินทางได้ยาวๆ กว่า 200 กิโลเมตร ค่อยแวะเติมน้ำมันสักครั้งหนึ่งก็สามารถทำได้แบบสบายๆ เอาว่าจัดทริปขี่ขึ้นเชียงใหม่ ใช้เวลาสัก 8 ชม. เต็มที่ก็จอดแวะพักคน+เติมน้ำมันแค่ 4 ครั้ง ก็ถึงแบบสบายๆ ไม่เหนื่อยแน่นอน แต่อาจจะเจอเรื่องของแรงลมปะทะหน้าอกเยอะสักหน่อย ซึ่งถ้าจะนำรถคันนี้ไปเดินทางไกล ก็อาจจะต้องใส่ของแต่งเป็นพวกชิวบังลมกันสักหน่อย จะได้ขี่ทางไกลสบายขึ้น
นอกจากนี้ ตัวมือจับหลังของคนซ้อน ก็สามารถเปลี่ยนเป็นแร๊คสำหรับติดกล่องบรรทุกสัมภาระเพิ่มเติมได้อีกด้วย ตอบโจทย์สายทัวร์ริ่งแน่นอน
ราคา LAMBRETTA X300
LAMBRETTA X300 เปิดราคาวางจำหน่ายที่ 154,900 บาท มีมาให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 4 สี 4 สไตล์ ได้แก่ Milano Green (สีเขียว) , Lucente Black (สีดำ) , Gemma White (สีขาว) และ Argento Grey (สีเทา) สามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ Lambretta ทั่วประเทศ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ ตรวจสอบราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn
ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น