เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวประจำปีอย่างเป็นทางการกับฤดูหนาวแบบนี้ หลายๆ คนน่ากำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์สำหรับใช้ท่องเที่ยวสักคันหนึ่ง แต่ก็เลือกไม่ถูกว่าจะเอาแบบไหนดี บทความนี้จะพามาทำความรู้จักกับ Triumph Tiger 1200 2023 กัน
Triumph Tiger 1200 2023
Triumph Tiger 1200 Rally Pro และ Triumph Tiger 1200 Rally Explorer รถจักรยานยนต์ตระกูลแอดเวนเจอร์ 2 รุ่นท็อปโฉมใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อรวมความเป็นที่สุดในทุกด้าน ด้วยศักยภาพเครื่องยนต์ 3 สูบอันทรงพลัง ขนาด 1,160 ซีซี ที่ให้พละกำลังและแรงบิดที่มากขึ้นจากการปรับแต่งเพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-plane ใหม่ รวมถึงจุดเด่นด้านเทคโนโลยีขั้นสูงของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับการขับขี่ เพิ่มความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และการควบคุมรถ
ตลอดจนรูปลักษณ์โดยรวมที่ดูเพรียวบางแต่โฉบเฉี่ยวคล่องตัว สู่การสร้างมาตรฐานใหม่และส่งมอบประสบการณ์การขับขี่แนวผจญภัยบนถนนและทางออฟโรด ตอบโจทย์ทุกความเหนือชั้นแก่ผู้ขับขี่ ที่จะมาสร้างสีสันและปลุกกระแสให้กับตลาดรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์พรีเมียมในไทย โดย Triumph มั่นใจว่าจะสามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดสำหรับรถจักรยานยนต์ในเซกเมนต์นี้ได้อย่างแน่นอน
Triumph Tiger 1200 2022 การออกแบบ
Triumph Tiger 1200 ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ ได้รับการพัฒนาและปรับแต่งมาเพื่อให้เหมาะกับการขับขี่แนวผจญภัยรองรับทุกความท้าทายครอบคลุมทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่ให้การตอบสนองต่อการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเครื่องยนต์สามสูบ ขนาด 1,160 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 9,000 รอบต่อนาที และแรงบิดมากขึ้นถึง 130 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบต่อนาที นอกเหนือจากกำลังและแรงบิดที่เพิ่มขึ้นแล้ว เครื่องยนต์ยังได้ปรับแต่งเพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-plane ใหม่ ช่วยเพิ่มอัตราเร่ง รวมถึงกระบอกสูบและระยะชัก ฝาสูบ กระปุกเกียร์ คลัตช์ ตลอดจนเพลาขับและเฟืองบีเวลแบบใหม่ทั้งหมด
ท่อไอเสียแบบมินิมอลน้ำหนักเบาแบบใหม่ ทำให้เครื่องยนต์ส่งมอบเสียงที่นุ่มนวลขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญไฮไลท์คือ รูปลักษณ์ที่ออกแบบมาให้มีความเพรียวบางคล่องตัวขึ้นด้วยน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นก่อนถึง 25 กิโลกรัม เฟรมน้ำหนักเบาแบบใหม่ พร้อมซับเฟรมหลังและชุดพักเท้าอะลูมิเนียมที่ยึดด้วยสกรู สวิงอาร์มแบบ 'tri-link' แบบใหม่ที่เบาขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น
พร้อมตอบสนองความต้องการในการขับขี่ระยะทางไกลและการขี่แบบออฟโรดขั้นสูงด้วยเบรก Brembo Stylema® ระบบเบรก ABS ขณะเข้าโค้ง พร้อมระบบ IMU และระบบกันสะเทือนแบบ semi-active ที่ล้ำสมัยของ Showa เพื่อสมรรถนะสูงสุดของการขับขี่ รวมถึงล้อซี่ลวดแบบ tubeless ขนาด 21 นิ้ว และ 18 นิ้ว พร้อมยาง Metzeler Karoo Street™ เพื่อการขับขี่บนทุกสภาพถนน และยาง Michelin Anakee Wild เป็นอีกตัวเลือกที่แนะนำสำหรับการขี่แบบออฟโรด
เบาะนั่งที่ปรับตำแหน่งได้พร้อมตัวถังแบบใหม่ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อการทรงตัวที่ยอดเยี่ยมและให้ความรู้สึกถึงความสบายขณะขับขี่ และยังมีกระจกบังลมแบบใหม่ที่ปรับได้ง่ายพร้อมกลไกที่ปรับได้ด้วยมือเดียวขณะขับขี่ ด้านความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 875 มม. และ 895 มม. โดยลูกค้าสามารถลดตำแหน่งเบาะนั่งได้อีก 20 มม. ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์เสริมเบาะนั่งแบบ low seat ตลอดจนด้านความจุถังน้ำมันขนาดใหญ่ โดย
Triumph Tiger 1200 2022 ความแตกต่าง
Triumph Tiger 1200 Rally Pro มาพร้อมถังน้ำมันขนาด 20 ลิตร ส่วน Triumph Tiger 1200 Rally Exploror มาพร้อมถังน้ำมันขนาด 30 ลิตร
Triumph Tiger 1200 2022 เทคโนโลยี
สำหรับอีกหนึ่งไฮไลท์ของไทเกอร์ 1200 มาพร้อมกับเทคโนโลยีครบวงจรที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมดในการกำหนดคุณสมบัติขั้นสูงของอุปกรณ์มาตรฐานที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับการขับขี่ ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และการควบคุมรถ ประกอบด้วย แผงหน้าปัด TFT ขนาด 7 นิ้ว แบบใหม่ พร้อมระบบเชื่อมต่อ My Triumph Connectivity ที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งสามารถเข้าถึงระบบนำทางแบบ turn-by-turn การควบคุมกล้อง GoPro รวมถึงสามารถใช้งานโทรศัพท์และเล่นเพลงได้
โหมดการขับขี่มีทั้งหมด 6 โหมด ได้แก่ Road, Rain, Sport, Rider-configurable, Off-Road และ Off-Road Pro โดยการทำงานของเครื่องยนต์ควบคุมด้วยระบบคีย์เลสที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด ทั้งการสตาร์ทรถ ล็อคแฮนด์ และเปิดฝาถังน้ำมัน
ในส่วนของระบบไฟมีการออกแบบไฟ LED แบบใหม่ พร้อมไฟ DRL และไฟหน้าปรับทิศทางตามการเข้าโค้ง (Adaptive Cornering Lights)
ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์แบบไม่ใช้คลัตช์ (Triumph Shift Assist)
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
เบาะนั่งปรับอุณหภูมิสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
Tyre Pressure Monitoring System หรือระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) ที่ช่วยตรวจสอบแรงดันลมยางเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่
ทั้งยังมีฟังก์ชันที่เพิ่มความสะดวกสบายด้วยปลอกแฮนด์แบบปรับความร้อนได้
ที่เก็บสัมภาระใต้ที่นั่งพร้อมช่องชาร์จไฟผ่านพอร์ท USB
สวิตช์คิวบ์แบบมีไฟส่องสว่างที่แฮนด์บาร์และจอยสติ๊กควบคุม 5 ทิศทาง เพิ่มความพรีเมียมขึ้นอีกระดับและช่วยเหลือผู้ขับขี่ในยามค่ำคืน
พร้อมกันนี้ยังมีระบบควบคุมความเร็วคงที่อิเล็กทรอนิกส์แบบปรับได้
ขาตั้งกลางที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานมาให้อีกด้วย
ในขณะที่รุ่น “ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์” (Tiger 1200 Rally Explorer) มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่มีความพิเศษเพิ่มเติมจากรุ่นอื่น ๆ อาทิ เทคโนโลยีเรดาร์จุดอับสายตา (Triumph Blind Spot Radar) ระบบช่วยเหลือขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist) ซึ่งจะแจ้งเตือนได้แม่นยำยิ่งขึ้นหากผู้ขับขี่กำลังจะเปลี่ยนเลนและมีรถกำลังเข้ามาใกล้ เป็นต้น
นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการคัสตอมยังสามารถเพิ่มเติมสมรรถนะของรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 รุ่นให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์เสริมแท้มีให้เลือกมากกว่า 50 รายการ ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถ ความสะดวกสบาย สไตล์ และการปกป้องของรถจักรยานยนต์ เพื่อยกระดับประสบการณ์การผจญภัยของผู้ขับขี่ โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมความสุดพิเศษกับการรับประกันคุณภาพ Triumph Warranty 3 ปีแบบไม่จำกัดระยะทาง รวมถึงความคุ้มค่าของช่วงเวลาการเข้ารับบริการเช็คระยะที่สูงถึง 16,000 กิโลเมตร หรือ 12 เดือน ตลอดจนฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง (Triumph Roadside Assistance) เป็นระยะเวลา 2 ปี
สเปค Triumph Tiger 1200 2023
เครื่องยนต์ | 3 สูบเรียง 4 จังหวะ 12 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ |
ความกว้างกระบอกสูงบ x ช่วงชัก | 90.0 x 60.7 มม. |
ความจุกระบอกสูบ | 1,160 ซีซี |
พละกำลังสูงสุด | 148 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ / นาที |
แรงบิดสูงสุด | 130 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบ / นาที |
อัตราส่วนกำลังอัด | 13.2 : 1 |
ระบบเกียร์ | คลัทช์มือ 6 สปีด |
ระบบขับเคลื่อน | เพลาขับ |
ตัวรถ Triumph Tiger 660
เฟรม | เฟรมท่อเหล็ก พร้อมแขนค้ำอลูมิเนียม |
ระบบกันสะเทือนหน้า | โช๊คหัวกลับระบบไฟฟ้าขนาด 49 มม. จาก Showa ระยะยุบ 220 มม. |
ระบบกันสะเทือนหลัง | โช๊คอัพเดี่ยว ระยะยุบ 150 มม. พร้อมตัวปรับพรีโหลด จาก Showa |
เบรคหน้า | ดิสเบรคคู่ ขนาด 320 มม. ปั้มเบรค Brembo M4 4 พอต |
เบรคหลัง | ดิสเบรคเดี่ยว ขนาด 282 มม. ปั้มเบรค 1 พอตจาก Brembo |
ยางหน้า | 90/90 R21 ชนิดไม่มียางใน |
ยางหลัง | 150/70 R18 ชนิดไม่มียางใน |
มิติรถ Triumph Tiger 660
ขนาด ยาว x กว้าง x สูง (มม.) | n/a |
ความสูงเบาะ (มม.) |
875 / 895 |
ระยะฐานล้อ (มม.) | 1,560 |
ระยะห่างจากพื้น (มม.) | n/a |
น้ำหนักตัวพร้อมใช้งาน (กก.) |
Rally Pro 249 Rally Exploror 261 |
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง (ลิตร.) |
Rally Pro 20 Rally Exploror 30 |
ทดลองขับ Triumph Tiger 1200 2023
ในส่วนของการทดสอบขับขี่ Triumph Tiger 1200 2023 นี้ เราทำการทดสอบกันทั้งในรูปแบบ On road และ Off road โดยเราจะขอแบ่งเป็นหัวข้อๆ การใช้งานขับขี่ดังนี้
On Road : ในส่วนของการขับขี่บนทางดำ ถือเป็นรูปแบบการขับขี่โดยส่วนใหญ่ของรถรุ่นนี้ ด้วยพละกำลังของตัวรถ น้ำหนักตัวรถ และที่สำคัญ "ราคา" ของตัวรถ แน่นอนว่า 90% ของผู้ใช้งานรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ เลือกขับขี่บนทางดำอย่างแน่นอน
สัมผัสแรกที่ได้จากรถคันนี้นั่นคือ "เบาะสูงมาก" ด้วยความสูงของเบาะนั่งที่ 875 มม. เมื่อปรับต่ำสุดแล้ว โดยผู้ทดสอบมีความสูงอยู่ที่ 168 ซม. น้ำหนัก 70 กก. เมื่อขึ้นไปนั่งบนรถแล้ว รถจะยุบตัวลงเล็กน้อย โดยหากต้องการวางเท้าลงพื้นทั้ง 2 ข้าง "ทำไม่ได้" เนื่องจากเบาะนั่งมีความสูงค่อนข้างมาก แต่ถ้าอาศัยการสไลด์ก้นมาข้างหนึ่งเลย ก็จะสามารถวางเท้าลงพื้นได้เต็มๆ เลย 1 ข้าง และอีกข้างวางไว้บนพักเท้าได้ แต่อาจจะเจอปัญหาเรื่องของการเตะขาตั้งไม่ถึงในช่วงแรกๆ ต้องอาศัยความเคยชินในการช่วงชิงจังหวะการเตะขาตั้งขณะรถกำลังบาลานซ์อยู่ หรืออาจจะเลือกเตะขาตั้งขึ้นก่อนขึ้นก็ก็สามารถทำได้ แต่ก็ควรฝึกฝนมาก่อนด้วย
น้ำหนักโดยรวมของตัวรถถือว่าจัดศูนย์ถ่วงได้ค่อนข้างต่ำ แต่จะไม่ได้ต่ำมากเหมือนกับ 1250 GS เนื่องจากเครื่องยนต์ของ Tiger 1200 เป็นแบบสูบเรียง เพราะงั้นแล้วจุดศูนย์ถ่วงขอเค้าก็จะสูงกว่า 1250 GS อย่างมีนัยยะสำคัญ
พละกำลังของรถเรียกได้ว่า "เหลือเฝือ" ด้วยพลังของเครื่องยนต์ 3 สูบเรียง ลักษณะของเครื่องยนต์จะมีอัตราเร่งติดมือตลอดในทุกช่วงความเร็ว ตั้งแต่ต้นถึงปลาย เป็นจุดเด่นที่สุดของเครื่องยนต์ 3 สูบเรียง เพราะมันเป็นการรวมเอาจุดเด่นด้านแรงบิดของเครื่องยนต์ 2 สูบเรียงมา และปลายไหลดีจากเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง จับมาไว้ในรถคันเดียวกันได้อย่างกลมกล่อม มันจึงสามารถเป็นได้ทั้งรถมอเตอร์ไซค์แบบทัวร์ริ่งเน้นขี่นุ่มๆ หรือจะเป็นรถสปอร์ตยกสูงขี่แบบเรซซิ่งได้ในคันเดียว
ช่วงล่างติดรถ ถือว่าน่าประทับใจมากๆ ตัวช่วงล่างถือเป็นจุดเด่นของตระกูล Triumph Tiger มาแต่ไหนแต่ไร ลักษณะนิสัยของช่วงล่างสามารถซับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม เก็บได้ทุกรอยต่อ ทุกความไม่เรียบเนียนของถนน สามารถซับแรงกระแทกได้อย่างอยู่หมัด หายห่วงได้เลย ส่วนลักษณะนิสัยในโค้งถือว่าทำได้ดี แม้จะเป็นรถที่มีระยะยุบโช๊คสูง มีรูปร่างสูง แต่กลับพลิกรถได้ง่าย เข้าโค้งได้ไว อันเนื่องมาจากแฮนด์ที่มีลักษณะกว้าง พร้อมกับหน้ายางที่แคบ ส่งผลให้มันสามารถพลิกเข้าโค้งได้เร็วอีกด้วย
Off Road : ในส่วนของการขับขี่ Triumph Tiger 1200 2023 ในทางออฟโรดนั้น ตัวรถจะมีโหมด Off road มาให้ ซึ่งจะช่วยจัดการระบบความปลอดภัยต่างๆ ให้สอดคล้องกับการขับขี่ในทางออฟโรด โดยระบบ ABS ด้านหลังจะถูกปิด แต่ด้านหน้าจะถูกบังคับเปิดไว้ ส่วน Traction control จะทำงานอยู่ในระดับต่ำ เพื่อรองรับการลุย
สัมผัสแรกที่ได้จากรถคันนี้นั่นคือ "ช่วงล่างเค้าพร้อมลุยจริงๆ" ด้วยระยะยุบที่เยอะมากๆ ทำให้ทุกอุปสรรคความเป็นหลุม เป็นบ่อ มันสามารถผ่านไปได้อย่างง่ายดาย บาลานซ์ของรถในย่านความเร็วต่ำถือว่าทำบาลานซ์ได้ดี ควบคุมรถได้ง่าย
พละกำลังของตัวรถเรียกได้ว่า "เหลือแบบไม่รู้จะเหลือยังไง" ด้วยแรงบิดมหาศาลที่สามารถส่งถ่ายออกมาด้วยความรวดเร็วสุดๆ งานนี้หวังพึ่งเพียงทักษะของผู้ขับขี่แล้วเท่านั้น เพราะรถสามารถไปได้ในหลากหลายเส้นทางอย่างแน่นอน แต่ไม่อาจถึงขั้น Hard Enduro แบบรถมอเตอร์ไซค์ Enduro แท้ๆ เนื่องด้วยน้ำหนักของตัวรถที่มากกว่า 240 กิโลกรัม ประกอบกับตัวรถที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ หากเอาไปลุยทางโหดๆ แบบนั้นมีหวัง "ไม่คุ้มค่าอะไหล่" แนะนำว่าลุยแค่พอประมาณ อารมณ์ถนนลูกรัง โคลนเละๆ แบบนี้ ไปได้สบายมากๆ
สรุป Triumph Tiger 1200 2023 เหมาะกับใคร?
โดยสรุปแล้ว Triumph Tiger 1200 2023 เป็นรถทัวร์ริ่งแอดเวนเจอร์ที่เหมาะสำหรับท่านที่กำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์สำหรับท่องเที่ยว แต่ไม่อยากขี่รถเครื่องยนต์ 2 สูบแล้ว จงหันมาหาเจ้า 3 สูบตัวนี้ เพราะมันยังคงให้แรงบิดจัดจ้านไม่ต่างกัน แต่แรงปลายเนี้ยบอกเลยว่า 2 สูบให้ไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะเค้าดึงทุกเกียร์จริงๆ ส่วนตัวผู้ขับขี่ก็ควรมีทักษะการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งแอดเวนเจอร์มาก่อนหน้านี้ หรือขับขี่รถวิบากมาเลยก็จะได้ เพราะจะทำให้คุณขับขี่เจ้า Triumph Tiger 1200 2023 ได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นครับ
ราคา Triumph Tiger 1200 2023
ราคาจำหน่ายของ ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ โปร (Tiger 1200 Rally Pro) เปิดที่ 972,000 บาท และ ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ (Tiger 1200 Rally Explorer) เปิดที่ 1,039,000 บาท โดยมีให้เลือกถึง 3 โทนสี ได้แก่ สี Snowdonia White สี Sapphire Black และสี Matt Khaki พร้อมรับรถได้ทันทีไม่ต้องรอที่โชว์รูมไทรอัมพ์ทั้ง 13 แห่งทั่วประเทศ
พิเศษสุดๆ! สำหรับลูกค้าที่จองรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 รุ่น 30 ท่านแรก ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 เท่านั้น รับฟรีทันที Pannier Set และ Top Box Set พร้อมอุปกรณ์ติดตั้ง และชุดเบาะ Low Seat มูลค่ารวมกว่า 92,000 บาท
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ ตรวจสอบราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn
ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น