MG4 ELECTRIC รถยนต์ไฟฟ้า ขับหลังคันแรกจากค่าย MG ที่มาพร้อมพละกำลัง 170 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร แต่ขับได้สนุกเกินตัว
MG4 ELECTRIC
NEW MG4 ELECTRIC รถแฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมคอมเซ็ปต์ “ICON” นิยามของการเป็น “ต้นแบบ” และมาตรฐานใหม่ของรถ EV
MG4 ELECTRIC
ครั้งแรกของ NEW MG4 ELECTRIC กับการพัฒนาบนแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ดีไซน์มาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ กับความสามารถในการนำไปปรับใช้ร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้าได้ครอบคลุมหลากหลายเซกเมนต์ หลายขนาด ตั้งแต่รถแฮทช์แบ็ค ซีดานไปจนถึงรถกระบะ รวมถึงรองรับแบตเตอรี่หลากหลายความจุ
มิติตัวถัง MG 4 EV
ยาว 4,287 มิลลิเมตร
กว้าง 1,836 มิลลิเมตร
สูง 1,504 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ wheelbase 2,705 มิลลิเมตร
ขนาดตัวถังรถเทียบเท่ากับ Mazda 3 (Hatchback)
จุดเด่นสำหรับ MG4 ระบบขับหลัง
ขุมพลัง Standard Range
มอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ 51 kWh ขับเคลื่อนล้อหลัง
ตัวเลขเคลมจากโรงงาน
อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.5 วินาที
Top Speed ความเร็วสูงสุด 161 km/h
วิ่งระยะไกลสุด 425 km. (มาตรฐาน NEDC)
Charging การชาร์จไฟฟ้า
หัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo พร้อมระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) 2200W จ่ายพลังงานจากรถ สู่เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้
Standard Range
กระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 6.6 kW ใช้เวลา 8 ชั่วโมง 30 นาที
กระแสตรง DC รองรับสูงสุด 88 kW ใช้เวลา 35 นาที
โหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่
ECO
NORMAL
SPORT
CUSTOM
SNOW
การทดสอบ MG4 ELECTRIC
ครั้งแรกกับตัวจริง MG4 หลายท่ายอาจจะได้เห็นภายในสื่อต่างมาแล้วแต่ต้องบอกว่าคันจริงดู สวยและลงตัวมากกว่าที่เห็นในรูปมาก มีขนาดกระทัดรัดดูเป็นรถซีดาน Hatchback แนวสปอร์ต รถไม่ใหญ่ไม่เล็กเกิน ถือว่าดูลงตัวมาก
ทาง MG ได้จัดให้ขับขี่ทดสอบแบบเล็กๆในสนามแบบปิดเพื่อให้ได้รับรู้สึกสมถรรนะของตัวรถก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง เข้ามานั่งภายในรถต่ำแหน่งเบาะนั่งทำได้ดีปกติรถในกลุ่มไฟฟ้า จากMG จะมีรุ้สึกว่าตัวลอยที่นั่งสูงเพราะมีแบตเตอรี่อยุ่ใต้ท้องแต่สำหรับ MG4 ด้วยการออกแบบแบตเตอรี่ให่ทำให้มีขนาดเล็กลงแต่มีกำลังไฟที่มากขึ้นทำให้พื้นที่ในห้องโดยสารเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งเบาะหน้าและเบาะหลัง
วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารต้องบอกว่าตามราคา แต่ถ้าเทีบบหน้าตาแล้วก็รู้สึกว่าชอบมากกว่า MG ZS EV เพราะทุกอย่างดูลงตัวมากกว่าตำแหน่งต่างๆหรือการเลือกวัสดุที่นำมาใช้งานถือว่าดีในราคาที่ไม่แพงมากนัก พวงมาลัยถือเป็นจุดเด่น สองก้านทรงหัวท้ายแบบตัด ดูรวมๆก็สวยดีหุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง
หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen แบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) ตำแหน่งผู้ขับขี่ดูได้ชัดเจน ใช้งานง่าย จอหลักระบบสัมผัสขนาด 25 นิ้ว ใช้งานง่ายเพราะมีขนาดใหญ่ แต่อาจจะยังไม่ลงลึก(เวลามีน้อย)
เข้าสู้การขับขี่ ถ้าคุณเป็นแฟน MG รถไฟฟ้าจะรู้ได้เลยว่ารถจะให้การขับขี่แบบย้วยๆนุ่มเน้นใช้งานไม่เน้นสปอร์ต ดังนั้นก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับ MG4 วิ่งทดสอนในสนามแข่งรถปทุมธานี สปีดเวย์ ที่ใช้แข่งรถดริฟเป็นหลัก
วิ่งทดสอบคร้้งแรกโดยมี instructor ขับให้นั่งก่อน เพื่อดูลายสนามก่อนวิ่งทดสอบเอง ไม่พูดเยอะนั่ง 4 คันเต็มคัน กดคันเร่งออก เข้าโค้งสาดท้ายออกแบบ รถดริฟ อุ๊ย!!!! รถบ้านทำได้ขนาดนี้เลยหรือ ลงรถสอบถาม instructor ว่าทำได้แบบนี้เลยหรือแน่นอนว่า MG4 เป็นรถขับหลังและเมื่อแรงบิดขนาด 250 นิวตันเมตรทำงานพร้อมปิด ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี trc หักพวงมาลัยกดคันเร่ง ท้ายจะออกอย่างรวดเร็ว มันว้าวมาก
ถึงการทดสอบรอบจริงขับเอง ออกตัวรถทะยานออกอย่างรวดเร็วไม่ได้กระชากจนหลังติดเบาะแต่ก็ให้แรงดึงแบบพอดี เข้าโค้งทดสอบกดคันเร่งแรงรถให้การควบคุมได้อย่างดีท้ายออกเล็กน้อย เพราะเปิดระบบ trc อยู่ให้คุ้นชินกับรถก่อน วิ่งยาวๆตามโค้ง ที่ทางทีมงานจัดเตรียมไว้ให้ต้องบอกว่าเอาอยู่ทุกโค้ง ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบอิสระ 5-Link Suspension ทำงานได้อย่างดี รอยต่อถนนต่างๆซับแรงกระแทกได้อย่างสบายไม่ตึงตัง เข้าโค้งได้อย่างมันใจไม่มีอาการย้วยเหมือนรุ่นเดิมจาก MG แบบต่างมากกกก
วิ่งอีกรอบปิดระบบ trc ปรับไปเป็นโหมด sport กดคันเร่งทางตรงเข้าโค้งกดคันเร่ง ท้ายออกอย่างรวดเร็วแบบขวางดึงพวงมาลัยกลับเดินคันเร่งต่อเมื่อรถตรง ว้าววววว นี้สิรถขับหลังที่ต้องการด้วยการออกแบบให้ตัวรถกระจายน้ำหนักแบบ สมมาตร 50:50 ควบคู่กับการออกแบบลักษณะ Low Centre of Gravity ที่ให้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำเพื่อการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม มันแสดงผลทำให้การควบคุมรถกับพวงมาลัยเป็นไปอย่างง่ายดายขับสนุกคุมรถง่าย
ขับขี่วนอยู่หลายรอบต้องบอกว่าเป็นรถที่ขับสนุกมากเกินความคาดหมายก็ว่าได้เพราะว่าในตลาดรถขนาดเล็กขับหลังนั้นแทบจะไม่เหลือในตลาดแล้ว ประกอบกับแรงบิดของรถไฟฟ้าที่ปล่อยมาแบบเต็มกำลังทำให้การตอบสนองของคันเร่งเป็นไปแบบ 100% ก็ว่าได้
ในส่วนของอัตราการประหยัดหรือตัวเลขที่วิ่งได้จริงในการชาร์จหนึ่งครั้งนั้นอาจจะต้องเอามาทดสอบกันอีกครั้ง
สรุป MG4
MG4 เป็นรถไฟฟ้าคันแรกที่ขับหลัง ออกแบบบนแพลตฟอร์มใหม่ ซึ่งทำให้เป็นรถที่ขับขี่ได้อย่างสนุกสนานมาก เรื่องออฟชั่นถือว่าจัดเต็มตามแบบ MG ต้องบอกว่าจุดเด่นสำหรับ MG4 คือการขับขี่ เพราะเป็นรถที่ขับขี่ได้อย่างสนุกมาก ขนาตัวรถไม่ใหญ่ไม่เล็กทำให้การขับขี่ในเมืองคล่องตัว
สุดท้ายคงต้องรอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในงาน Motor Expro 2022 กับราคาค่าตัวและถ้าเปิดมาในราคาที่หลายท่านคาด เริ่มต้น 8-9 แสน บอกเลยว่าเตรียมส่งรถให้ทันก็พอ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn
ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถมือสอง One2car
ความคิดเห็น