Autospinn จัดเต็ม! คัดสรร 8 รุ่นเด็ดที่ไม่ควรพลาดกับรถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทในงาน Motor Expo 2022 ซึ่งแต่ละรุ่นมีดีไซน์ที่สวย สมรรถนะเด่น แถมฟังก์ชันการใช้งานครบเครื่องสุดๆ ส่วนจะมีรุ่นใดบ้างนั้น ไปดูกัน
1. POCCO - ราคาเริ่มต้น 379,000 บาท (ข้อเสนอพิเศษสำหรับ Motor Expo 2022)
เริ่มกันที่รถยนต์ไฟฟ้า POCCO ที่ดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกสุดน่ารัก ทันสมัยมาพร้อมกับคอนเซปท์ Fashion-Small-New-Trend-Fine ตอบโจทย์การใช้งานที่ครอบคลุม คล่องตัวสูง และฟังก์ชันครบครัน แถมยังคุ้มค่าคุ้มราคา ภายนอกดีไซน์สวยด้วยไฟหน้ารถ กระจกมองข้าง ฝากระโปรงหน้ารถ ผสมผสานกันอย่างลงตัว ภายในห้องโดยสารก็น่ารักด้วยการใช้สีดำและสีแดงเป็นสีหลักในการตกแต่งภายในให้หรูหราแต่ยังคงไว้ซึ่งการใช้งานที่สะดวกสบาย มี 2 รุ่นให้เลือก คือ รุ่น DD แบบ 5 ประตู และรุ่น MM แบบ 3 ประตู
ขุมกำลังของเจ้า POCCO ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 14 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงใน ในรุ่น MM และ 14.5 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง สำหรับรุ่น DD ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 170-178 กิโลเมตร ชาร์จด้วยไฟบ้าน 0-100 % ใช้เวลา 6-8 ชั่วโมง ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีที่ครบครันทั้งระบบกล้องมองหลังและระบบเซ็นทรัลล็อค เพิ่มความบันเทิงกับหน้าจอทัชสกรีน รองรับ 2 ภาษา อีกทั้งราคาจับต้องได้เริ่มต้นที่ 379,000 บาท ที่สำคัญ ภายในงาน Motor Expo 2022 ยังรับประกันรถยนต์ 2 ปี (หรือ 50,000 กิโลเมตร และรับประกันแบตเตอรี่ 4 ปี (หรือ 40,000 กิโลเมตร) หากใครมองหารถยนต์ไฟฟ้าในราคาสบายกระเป๋า POCCO ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
2. Volt City EV - (รุ่น Volt For-TWO ราคา 365,000 บาท และรุ่น Volt For-FOUR ราคา 425,000 บาท)
มาต่อกันที่ Volt City EV รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดที่ EV Primus นำเข้ามาจัดจำหน่ายในไทย โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่น่ารักตะมุตะมิ มีตัวถังให้เลือก 2 รูปแบบทั้งแบบ 3 ประตู และ 5 ประตู ในราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 365,000 บาทเท่านั้น
จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ระบบขับเคลื่อนและแบตเตอรี่ เป็นรูปแบบเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหญ่ โดยแบตเตอรี่ใช้เป็นแบตฯ ลิเธียมไอออน LFP มีขนาดความจุเริ่มต้นที่ 11.8 - 16.5 kWh ตามขนาดของตัวถังรถยนต์ และระยะเวลาในการชาร์จ AC ใช้เวลา 5 ชั่วโมง 30 นาที - 6 ชั่วโมง แถมทำความเร็วได้สูงสุด 105 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่ากัน ต่างกันที่ รุ่น Volt For-TWO ทำระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จหนึ่งสูงถึง 165 กิโลเมตร ส่วนรุ่น Volt For-FOUR ทำระยะทางที่วิ่งไฟฟ้าได้ 200 กิโลเมตร จึงเหมาะสำหรับการขับขี่ในตัวเมืองมากกว่า
สำหรับรถรุ่นนี้ มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางด้วยรูปแบบตัวถังแบบเดียวกับรถ Kei Car พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น หน้าจอเรือนไมล์และหน้าจอมัลติมีเดียเชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียว ช่วงล่างของ Volt City EV จัดว่านุ่มนวลมากๆ หากใครชื่นชอบรถสไตล์น่ารักๆ และขับเดินทางในระยะทางไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อวัน และราคาจับต้องได้ รุ่นนี้เหมาะกับคุณสุดๆ
3. NETA V - ราคา 549,000 บาท (หากจองภายในงาน Motor Expo 2022 แต่หากจองหลังเซ็น MOU จะปรับเพิ่มเป็น 599,000 บาท)
NETA V รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Compact Crossover มีขนาดตัวรถใกล้เคียงกับ Honda Jazz, Honda City Hatchback, Toyota Yaris และ Mazda 2 Hatchback เป็นต้นด้านหน้าของตัวรถ กระจังหน้าแบบปิดทึบ ตามพิมพ์นิยมของรถยนต์ไฟฟ้ายุคปัจจุบัน โดยมีช่องดักลมด้านล่าง เพื่อใช้งานกับระบบระบายความร้อนต่างๆ ของตัวรถ
ส่วนไฟหน้าเป็นรูปแบบฮาโลเจน พร้อมไฟ DRL แบบ LED เสริมความโดดเด่นในการขับขี่ช่วงกลางวัน ภายในห้องโดยสารออกแบบเรียบง่าย ทันสมัย มาพร้อมหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว เชื่อมต่อมือถือให้ความบันเทิงแบบครบวงจร
ด้านขุมกำลังของ NETA V ใช้มอเตอร์ตัวเดียวขับเคลื่อนล้อหน้า พละกำลัง 95 แรงม้า แรงบิด 175 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง แบทเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 38.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง วิ่งได้ระยะทาง 380 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) พร้อมอุปกรณ์เสริม V2L สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในกิจกรรมกลางแจ้ง จ่ายไฟจากแบตเตอรี่ 3.3 กิโลวัตต์ หากจะมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ทุกการเดินทางทั้งในเมืองและในพื้นที่ต่างๆ NETA V ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ
4. NISSAN LEAF 2022 - ราคา 959,000 บาท
รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดอีกรุ่นหนึ่งกับ Nissan Leaf 2022 ที่มีจุดเด่นเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์สุดล้ำ ด้วยการออกแบบที่ทันสมัยจาก NISSAN โดยเฉพาะด้านหน้ารูปแบบ V-MOTION มีลักษณะเพรียวบาง ไฟหน้าทรงบูมเมอแรง กระจังหน้าแบบแฟลชและคิ้วรถมีสีน้ำเงินของกันชนหลัง มาพร้อมระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (e-Powertrain) ให้อัตราเร่งดีขึ้นกับขุมกำลังเครื่องยนต์สูงสุด 110 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 7.9 วินาที และให้ระยะการขับขี่ 311 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ที่สำคัญ NISSAN LEAF 2022 เพิ่มเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ e-Pedal ช่วยให้ผู้ขับขี่ เร่งความเร็ว ลดความเร็ว และหยุดรถด้วยการใช้คันเร่งเพียงอย่างเดียว โดยการเหยียบหรือผ่อนคันเร่งเท่านั้น เสริมความปลอดภัยกับ Nissan Safety Shield ระบบเทคโนโลยีระดับสูง ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่ มีระบบเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ เสริมกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง
พร้อมเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน และยังมีเทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ คุ้มค่ากับการรับประกันรถยนต์ 3 ปี (หรือ 100,000 กิโลเมตร) รับประกันระบบไฟฟ้า 5 ปี (หรือ 100,000 กิโลเมตร) และรับประกันการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ 8 ปี (หรือ 160,000 กิโลเมตร) ในราคาไม่ถึง 1 ล้านบาท ถือเป็นรุ่นที่น่าสนใจหากใครต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ครบครันทุกมิติ
5. ORA Good Cat - ราคาเริ่มต้น 763,000 บาท (หลังเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าร่วมกับรัฐบาล)
ORA Good Cat 2022 รถยนต์ไฟฟ้าแฮทช์แบ็กที่โดดเด่นด้วยดีไซน์โค้งมนสไตล์ Retro Futuristic มีระบบการขับขี่ 5 รูปแบบ และระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระบบ 2+ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีอันล้ำสมัยอีกมากมาย ทั้งกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา หลังคา Panoramic Sunroof ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) และอื่นๆ อีกมากมาย
ขุมกำลังถือว่าโอเค เพราะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า อัตราเร่งจาก 0-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาภายใน 3.8 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดทำได้ 152 กิโลเมตร/ชั่วโมง มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม เทอร์นารี 63.1 กิโลวัตต์ วิ่งได้ไกลสูงสุด 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ดีไซน์ภายนอกน่ารักน่าจับกับกระจังหน้าแบบคลาสสิก โดดเด่นกับไฟหน้าทรงกลมตาแมว LED มีระบบไฟ Follow Me Home เมื่อดับเครื่องยนต์ไฟยังส่องสว่าง มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 17-18 นิ้วให้เลือก ภายในตกแต่งสไตล์โมโนโทร เบาะนั่งหุ้มหนัง เบาะหน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้า เบาะหลังปรับพับแบบ 60:40 เสริมความบันเทิงครบทุกรูปแบบด้วยหน้าจอทัชสกรีน 10.2 นิ้ว ลำโพง 6 จุด รองรับการสั่งการด้วยเสียง และการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน พร้อมการอัปเกรดระบบผ่านทางออนไลน์ หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมกรองอากาศ PM2.5
6. MG4 ELECTRIC ICON - ราคา 869,000 บาท (รุ่น D), ราคา 969,000 บาท (รุ่น X)
หนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับตามองใน Motor Expo 2022 กับ MG4 รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ C-Segment Hatchback 5 ประตู ที่โฉบเฉี่ยวและคล่องตัวสูง รองรับกับระบบช่วงล่างสมรรถนะสูงแบบอิสระ 4 ล้อ โดดเด่นด้วยแนวคิดการออกแบบ Energetic Agile ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายและระบบความปลอดภัยครบครันตามแบบฉบับ MG
ขุมกำลังแน่นปึ้กด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร แบตเตอรี่มาในรูปแบบ Rubik's Cube ความจุ 51 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการชาร์ตไว 88 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ชาร์จ 10-80% ใช้เวลาเพียง 35 นาที วิ่งได้ไกลสุด 425 กิโลเมตร ระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อหลัง ส่วนช่วงล่างด้านหน้ามาในรูปแบบแมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังเป็นรูปแบบอิสระ 5-ลิงค์
นอกจากนี้ ระบบความปลอดภัยของรุ่นดังกล่าวมีครบถ้วนทั้งถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันที่ความเร็วต่ำ ไฟสูงอัตโนมัติและระบบเตือนการเปิดประตู และอื่นๆ อีกเพียบ สำหรับใครที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันครบ สมรรถนะเยี่ยมสไตล์สปอร์ต MG4 ELECTRIC ICON ตอบโจทย์ได้แน่นอน
7. MG ZS EV รุ่น D - ราคา 949,000 บาท
ยังอยู่ในค่าย MG กับรุ่น ZS EV D รุ่นปรับโฉมของรถยนต์ไฟฟ้าแบบ SUV มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ Truly Easy ด้วยดีไซน์สะดุดตา ภายนอกหรูหรา และขุมกำลังดีเยี่ยม
ภายนอกดีไซน์สปอร์ต โดยเฉพาะกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่าง Daytime Running Lights ไฟท้ายแบบ และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED สปอยเลอร์หลังพร้อมราวหลังคา มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อแบบ Aero Wheel Cover ภายในกว้างขวางดีไซน์เรียบหรูตามแบบฉบับของ MG แฝงความสปอร์ตพรีเมี่ยมด้วยคอนโซลหน้าลายคาร์บอนไฟเบอร์ และเบาะหนังดำเดินด้ายแดง พร้อมวัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน
ขุมกำลังของรุ่นนี้ยอดเยี่ยมเหนือใครกับระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง อยู่ที่ 8.6 วินาที และมีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ ความจุ 50.3 กิโลวัตต์ ทำให้ขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) พร้อมระบบระบายความร้อนให้มอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ Liquid Cooling System ให้ทั้งคู่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
8. MG EP PLUS - ราคา 771,000 บาท (งดรับจอง)
ปิดท้ายกันด้วย MG EP รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์สเตชันแวกอน 5 ที่นั่งที่ในงาน Motor Expo 2022 ที่นอกจากได้รับความนิยมจากลูกค้าแล้ว รุ่นนี้ยังลดราคาจากนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า 100% ตามมาตรการรัฐบาล เหลือเพียง 771,000 บาท จนต้องงดรับจองกันเลยทีเดียว
สำหรับ MG EP 2022 มีดีไซน์ภายนอกที่ทันสมัย กระจังหน้า Suspended Wing Grille ตกแต่งด้วยโครเมียม และ Piano Black ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน LED Daytime Running Light พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟท้าย LED แบบ Electric Pulse Design และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED มาพร้อมล้ออัลลอยด์ดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว
ส่วนภายในห้องโดยสารกว้างขวางมาก โดยเฉพาะเบาะนั่งด้านหลังปรับพับได้แบบ 60:40 ทำให้มีพื้นที่ความจุสัมภาระสูงถึง 1,456 ลิตร แถมยังนุ่มนวลในการขับขี่ด้วยระบบช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension เสริมด้วยระบบช่วงล่างหน้าแบบ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลังแบบทอร์ชั่นบีม ขับขี่มั่นใจทุกสภาพถนน
ส่วนขุมกำลังของรุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับเกียร์ไฟฟ้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ภายใน 8.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง มาพร้อมรูปแบบการขับขี่ 3 รูปแบบ คือ โหมด Normal, Eco และ Sport ส่วนพลังงานไฟฟ้าใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 50.3 กิโลวัตต์ ขับได้ไกลถึง 380 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) และยังได้รับการทดสอบตามมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น ระดับ IP67 พร้อมด้วยระบบระบายความร้อนแบบ Liquid Cooling System
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn
ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถมือสอง One2car
ความคิดเห็น