น้ำกลั่นแบตเตอรี่ คือะไร ทำไมจึงเหมาะกับการเติมแบตเตอรี่รถยนต์ และวิธีการเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่ มีขั้นตอนการเติมอย่างไรบ้าง Autospinn มีคำตอบมาฝากกัน
น้ำกลั่นแบตเตอรี่รถยนต์ คืออะไร
น้ำกลั่นแบตเตอรี่ (Distilled Water) เป็นน้ำที่ได้จากการถูกความร้อนโดยเครื่องกลั่นน้ำ ทำให้ระเหยกลายเป็นไอน้ำ และควบแน่นจนกลายเป็นน้ำบริสุทธิ์ไร้สิ่งเจือปนใดๆ ซึ่งสามารถใช้เติมในแบตเตอรี่ได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติเหนี่ยวนำไฟฟ้า ทำให้รถสตาร์ตติดง่าย อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการทำงานของน้ำกรดภายในแบตเตอรี่ โดยทุกวันนี้ น้ำกลั่นแบตเตอรี่ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย มีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ
น้ำกลั่นรถยนต์แบบไม่มีสี เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรม
น้ำกลั่นรถยนต์สีชมพู เหมาะสำหรับรถที่ถูกจอดทิ้งไว้นาน ๆ เพราะมีคุณสมบัติช่วยลดความร้อนในแบตเตอรี่ เพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บกำลังไฟ
ทั้งนี้ น้ำกลั่นแบบไม่มีสี และน้ำกลั่นสีชมพู จะต้องเติมในแบตเตอรี่ชนิดน้ำ และแบตเตอรี่ชนิดกึ่งแห้ง ส่วนแบตเตอรี่ชนิดแห้ง ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำกลั่น
วิธีดูน้ำกลั่นแบตเตอรี่ ดูอย่างไรไม่ให้แห้งสนิท
สำหรับใครที่เลือกใช้แบตเตอรี่แบบแห้ง จะไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน แต่แบตฯ ชนิดกึ่งแห้ง ต้องเติมน้ำกลั่นทุกๆ 6 เดือน หรือวิ่งได้ระยะครบ 10,000 กิโลเมตร ขณะที่แบตฯ ชนิดน้ำ ผู้ใช้รถควรเติมเมื่อรถวิ่งครบระยะ 1,000 กิโลเมตร หรือเติมทุกๆ 1-2 สัปดาห์
วิธีเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่รถยนต์ ทำง่ายไม่ยุ่งยาก แต่ต้องระมัดระวัง
วิธีเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่ แม้จะมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก แต่ต้องเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมเพื่อความปลอดภัย ดังนี้
1. ก่อนเติมน้ำกลั่น ควรเช็ดทำความสะอาดแบตเตอรี่ภายนอกให้สะอาดด้วยการฉีดน้ำยาทำความสะอาดบนกระดาษทิชชู่หรือผ้าแห้ง หรือใครที่เพิ่งเช็กน้ำมันเครื่องเสร็จ นำกระดาษทิชชู่เปื้อนคราบน้ำมันเครื่อง เช็ดให้ทั่วแบตเตอรี่ ส่วนรูเติมน้ำกลั่นควรเช็ดให้ระมัดระวัง ห้ามไม่ให้เศษผ้าหรือเศษกระดาษหล่นลงไปในรูน้ำกลั่น
2. เช็กระดับน้ำกลั่น ถ้าเป็นแบตเตอรี่รุ่นเก่า ควรสังเกตปริมาณน้ำกลั่นบริเวณแผ่นทองแดง แต่ถ้าใช้แบตเตอรี่รุ่นใหม่ เพียงเช็กจากสัญลักษณ์ตาแมว (Indicator Sign) ที่ติดอยู่ในแบตเตอรี่ ก็ทราบได้แล้ว
3. เปิดฝาแบตเตอรี่ออกให้หมด ทั้ง 6 ฝา แล้วเช็คดูว่าน้ำกลั่นอยู่ในระดับมาตรฐานหรือไม่ ถ้าน้ำกลั่นมีระดับต่ำกว่ามาตรฐาน ให้ค่อย ๆ เติมน้ำกลั่นช้าๆ ลงไปทีละน้อย ไม่ควรเติมจนล้นแบตเตอรี่ เพื่อป้องกันสิ่งเจอปนของสารอื่นๆ หากเป็นแบตเตอรี่รุ่นเก่า ให้เติมน้ำกลั่นลงไปจนท่วมแผ่นทองแดงในเกณฑ์ที่แบตเตอรี่กำหนด
4. เมื่อเติมน้ำกลั่นครบทุกช่องแล้ว ให้ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ หากอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานแล้ว ให้ปิดฝาน้ำกลั่นและเช็ดแบตเตอรี่ให้สะอาดด้วยผ้าแห้งทันที
หากเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่ ควรเติมให้อยู่ระดับใด
แบตเตอรี่ที่ต้องเติมน้ำกลั่น ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ เมื่อน้ำกลั่นลดระดับลง ควรเติมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตามเกณฑ์ที่แบตเตอรี่ยี่ห้อนั้นๆ กำหนด
ทำไมไม่ควรใช้น้ำเปล่าเติมแบตเตอรี่แทนน้ำกลั่น
สิ่งสำคัญและควรจดจำในการเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่ ผู้ขับขี่ไม่ควรใช้น้ำเปล่าเติมแทนน้ำกลั่นโดยเด็ดขาด เพราะน้ำดื่มทั่วไปมีสารเจือปนเยอะ และมีความเป็นด่าง นอกจากจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วแล้ว หากเติมลงไปภายในแบตเตอรี่ที่มีน้ำกรดอยู่อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาขึ้นจนเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ นอกจากนั้น หากพบว่า น้ำกลั่นระเหยออกจนแห้งหมด รีบนำรถยนต์เข้าศูนย์ซ่อมให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบทันที เนื่องจากอาจเป็นไปได้ว่า ภายในแบตเตอรี่หรือเครื่องยนต์อาจเกิดการรั่วซึมนั่นเอง
ทั้งนี้ น้ำกลั่นจะไม่มีแบคทีเรียใดๆ เนื่องจากมีความบริสุทธิ์สูงมากและไม่มีแร่ธาตุ ดังนั้น ในทางการแพทย์จึงนำไปใช้ในการเตรียมสารละลายต่างๆ เช่น ทำน้ำเกลือ หรือสารละลายทางการแพทย์ ดังนั้นจึงไม่ควรนำมาดื่ม ขณะเดียวกัน น้ำกลั่นที่ใช้เติมแบตเตอรี่รถยนต์ มาจากกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม อาจทำให้ไม่ได้มาตรฐาน ที่จะนำมาบริโภคได้ เพราะอาจมีสารเคมี หรือโลหะหนักปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
เราจะรู้มาตรฐานของน้ำกลั่นได้อย่างไร
สำหรับการตรวจสอบระดับมาตรฐานของน้ำกลั่น เริ่มจากถอดสายขั้วบวกและขั้วลบออกจากแบตเตอรี่ให้ถูกต้องเสียก่อน ต่อมาให้ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่เพื่อลดการสะสมของสารกัดกร่อนหรือขี้เกลือออก จากนั้นใส่ขั้วบวกขั้วลบทั้งสองสายกลับที่เดิม
ต่อมาให้ใช้ไขควงแงะฝาครอบบนของแบตเตอรี่ออก เพื่อเช็กระดับของเหลวในแต่ละช่อง ซึ่งจะมีวงแหวนบอกระดับให้เห็นอย่างชัดเจน หากของเหลวต่ำกว่าระดับมาตรฐานให้เติมน้ำกลั่นลงไป
แม้การเติมน้ำกลั่นอาจดูว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าทำตามให้ถูกวิธีจะทำให้เราดูแลรักษาและยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ของรถยนต์ได้อย่างยาวนาน ซึ่งผู้เขียนแนะนำว่า ควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นและดูแลขั้วแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อไม่ให้สารกัดกร่อนหรือขี้เกลือมาเกาะ ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาการจ่ายไฟของแบตเตอรี่นั่นเอง
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn
ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถมือสอง One2car
ความคิดเห็น