กลับมาทำงานหลังท่องเที่ยวเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่กันแล้ว ควรตรวจเช็กสภาพรถยนต์ให้ใช้งานได้ปกติตามเดิม เช็กสภาพรถยนต์หลังเดินทางไกล ลดปัญหากวนใจ ลดอุบัติเหตุ
เช็กสภาพรถยนต์หลังเดินทางไกล ลดปัญหากวนใจ ลดอุบัติเหตุ
จุดที่ต้องตรวจสอบ ต้องเปลี่ยนให้ตรวจเช็กอย่างละเอียดก่อนนำรถยนต์มาใช้งาน มีอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกัน
1. ล้อรถยนต์
เช็กได้ง่ายๆ โดยดูรอยบนหน้ายาง หากขับไปบนพื้นถนนที่ขรุขระไม่เรียบ ให้ตรวจเช็คดูว่ามีรอยชำรุด ยางปูดบวม ดอกยางสึกไม่สม่ำเสมอกัน มีรอยแห้งแตกอยู่บนแก้มยางรถหรือไม่ นอกจากนี้ให้เช็กลมยางให้ได้มาตรฐาน หากนำรถไปเช็กแล้วพบว่าล้อใดล้อหนึ่งมีความดันลมน้อยกว่าปกติ เป็นไปได้ว่า อาจจะรั่วซึม ควรจะทำการปะยางหรือเปลี่ยนใหม่
2. น้ำมันเครื่อง
ระดับน้ำมัน ต้องเช็คว่ามีการรั่วซึมหรือไม่ สามารถใช้ก้านตรวจวัดระดับน้ำมันเครื่อง ถ้าการแสดงผลโชว์ระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่างขีด F กับ L หรือ Max กับ Min แสดงว่าอยู่ในระดับที่ปกติไม่มากและไม่น้อยเกินไป หากนอกเหนือกว่านั้น เช่น ตรวจพบว่าอยู่ในระดับปกติแต่สีของน้ำมันเครื่องมีความดำมากแสดงว่าน้ำมันเครื่องมีความสกปรกอาจจะทำให้ประสิทธิภาพการหล่อลื่นลดลง ถ้าตรวจเช็คแล้วพบว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าตัว L แสดงว่าน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติอาจทำให้เครื่องยนต์เกิดการสึกหลอได้ และสุดท้ายหากตรวจพบว่าระดับน้ำมันอยู่สูงเกินกว่าระดับตัว F แสดงว่าน้ำมันเครื่องมีมากเกินไป และอาจจะทำให้เกิดความร้อนสูงสิ้นเปลืองพลังงานได้อีกเช่นกัน
3. น้ำยาหล่อเย็น
ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์เป็นจุดที่ต้องตรวจเช็กบ่อยๆ ให้สังเกตที่หม้อพักน้ำยาหล่อเย็นจะมีสัญลักษณ์บอกระดับน้ำ คือ Min และ Max ถ้าระดับน้ำอยู่ต่ำกว่า Min แสดงว่าน้ำน้อยเกินไปซึ่งเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์และเป็นเหตุทำให้เครื่องยนต์ฮีต วิธีแก้เพียงเติมน้ำยาหล่อเย็นที่สามารถหาซื้อได้จากร้านขายอะไหล่ทั่วไป โดยเติมน้ำยาเข้าไปให้ได้ระดับที่พอดีไม่มากเกินขีด Max เพราะถ้ามากเกินจะทำให้น้ำที่เดือดแล้วล้นออกมาส่งผลให้เป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์เช่นกัน
4. ช่วงล่างรถยนต์ และระบบการสั่นสะเทือน
ส่วนใหญ่ถ้าหากอาการสั่นสะเทือน หรืช่วงล่างมีปัญหาให้ลองสังเกตเช็คลูกหมากปีกนก ลูกหมากคันชักตัวนอก ลูกหมากแร๊ค รวมไปถึงลูกปืนล้อ วิธีเช็คคือเมื่อขับขี่จะรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหมุนเลี้ยวจะมีระยะมากกว่าปกติ มีอาการเสียงดังเวลารถตกหลุม หรือตอนที่รถเอียงตัว เป็นต้น
5. สภาพตัวถัง
ตรวจสอบร่องรอยตามตัวถังรถเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรอยเพิ่มขึ้น อีกหนึ่งวิธีที่สังเกตและสามารถตรวจเช็คได้ด้วยตัวเอง ว่ามีรอยบุบหรือรอยขีดใดๆ เพิ่มมาใหม่หรือมีลักษณะที่ผิดปกติไปจากเดิมหรือไม่ หากพบจะได้ซ่อมแซม
6. ไส้กรองอากาศ
ฝุ่นละอองสร้างความสกปรกให้ไส้กรองมาก ยิ่งเดินทางไกลรถยนต์ยิ่งต้องเผชิญกับฝุ่นละอองต่างๆ เป็นอีกจุดที่ควรเช็กด้วยเช่นกัน สามารถทำได้ ให้เปิดฝากระโปรงขึ้นจะเห็นหม้อกรองอากาศ สามารถถอดเพื่อเคาะฝุ่นออก หรือใช้ลมเป่าออกได้ เพราะถ้าหากปล่อยเอาไว้จะทำให้เศษฝุ่นเหล่านี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเต็มพื้นที่ตัวไส้กรองทำให้ประสิทธิภาพในการดักจับฝุ่นลดลง
หากไม่มีการดูแลรถก็จะเสื่อมถอยไปตามสภาพการใช้งาน แต่ถ้าเราตรวจเช็คสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ จะส่งผลดีต่อระบบการทำงานของรถยนต์ สามารถประหยัดเงินในกระเป๋าทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานรถยนต์อีกด้วย
ที่มา kmotor,วิริยะประกันภัย
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn
ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถมือสอง One2car
ความคิดเห็น