บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ร่วมฉลองครบรอบ 100 ปี เปิดตัว BMW R 18 และBMW R nineT รุ่นพิเศษ ผลิตเพียง 1,923 คันในแต่ละรุ่นทั่วโลก พร้อมรุ่นใหม่อีก 2 รุ่น
BMW ฉลอง 100 ปี เปิดตัว BMW R 18 และ R nineT รุ่นใหม่
บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ 4 รุ่นใหม่ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองมรดกอันยาวนานของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศของแบรนด์ โดยบีเอ็มดับเบิลยู R 18 และบีเอ็มดับเบิลยู R nineT รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี จะผลิตขึ้นเพียง 1,923 คันในแต่ละรุ่นทั่วโลก เพื่อรำลึกถึงปี ค.ศ. 1923 (พ.ศ. 2466) ซึ่งมีการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู R 32 รถมอเตอร์ไซค์รุ่นแรกจากแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
นอกจากนั้น บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Urban G/S และบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Scrambler ยังมาพร้อมสีตัวถังภายนอกแบบใหม่ ช่วยเสริมรูปลักษณ์ให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม
BMW R 18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี (สี Classic Chrome)
- ราคา 1,219,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
BMW R 18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ที่สื่อถึงแก่นแท้ของมอเตอร์ไซค์ในแบบดั้งเดิม การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากต้นกำเนิดของแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ด้วยชิ้นส่วนแฮนด์เมดต่าง ๆ ที่ล้วนตอกย้ำถึงความเรียบง่ายที่ยังคงตอบโจทย์การใช้งานในทุกองค์ประกอบ สัดส่วนที่ลงตัวของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี ยังได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์ไซค์คลาสสิกรุ่นพี่อย่างบีเอ็มดับเบิลยู R 5 ถ่ายทอดออกมาเป็นเอกลักษณ์
เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 4 จังหวะ 2 สูบขนาดใหญ่ ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ให้ทรงพลังทั้งในด้านดีไซน์และประสิทธิภาพ มาพร้อมความจุ 1,802 ซีซี ส่งพละกำลังสูงสุด 67 กิโลวัตต์ (91 แรงม้า) ที่ 4,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 158 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที ให้ความเร็วสูงสุดมากกว่า 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ยังใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยเพลา มาพร้อมกับชุดเกียร์ 6 สปีด แบบ claw-shift และคลัทช์เดี่ยวแบบแห้ง และยังโดดเด่นด้วยมาตรฐานการผลิตคุณภาพสูงและความประณีตในรายละเอียดต่าง ๆ เช่น การเชื่อมข้อต่อระหว่างโครงสร้างเหล็กและการขึ้นรูปชิ้นส่วนเหล็กหล่อต่าง ๆ นอกจากนี้ สวิงอาร์มหลังยังได้รับแรงบันดาลใจจากบีเอ็มดับเบิลยู R 5 ยึดต่อกับเพลาหลังด้วยข้อต่อสลักเกลียวแบบดั้งเดิม
ระบบช่วงล่างของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี ยังคงความคลาสสิกด้วยการใช้ช่วงล่างแบบเทเลสโคปิกแทนการควบคุมด้วยไฟฟ้า โดยมีคานรับน้ำหนักกลางที่ปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ เพื่อการควบคุมที่เฉียบคมและนุ่มสบาย ระยะยุบตัวโช้คหน้า 120 มิลลิเมตร และระยะยุบตัวโช้คหลัง 90 มิลลิเมตร ระบบเบรกของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี มาพร้อมดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า ดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลัง และคาลิปเปอร์เบรกแบบตายตัว 4 ลูกสูบ พร้อมล้อซี่ลวดที่เสริมลุคให้สะดุดตายิ่งขึ้น
มาพร้อม 3 โหมด ได้แก่ ‘Rain’ ‘Roll’ และ ‘Rock’ เลือกปรับได้ตามความชอบเฉพาะตัว พกพาเทคโนโลยีด้านการขับขี่ที่ครบครันมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการเสริมความปลอดภัยด้วยฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมระบบล๊อก ระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ (ASC) ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (Hill Start Control) ระบบเกียร์ถอยหลัง (Reverse Gear) ระบบสัญญาณกันขโมย ระบบป้องกันรถกระชาก (Anti-hopping Clutch) เสริมความล้ำสมัยด้วยระบบสตาร์ทแบบไร้กุญแจ (Keyless Ride) นอกจากนี้ ไฟหน้า Adaptive LED แบบใหม่ พร้อมระบบไฟส่องสว่างตอนกลางวันยังช่วยสร้างเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวให้แก่รถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้
BMW R nineT มาพร้อมกัน 3 รุ่น
- BMW R nineT รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี (สี Classic Chrome) ราคา 1,099,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- BMW R nineT Urban G/S (สี Imperial Blue Metallic) ราคา 809,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- BMW R nineT Scrambler (สี Manhattan Metallic Matt) ราคา 809,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
การออกแบบของบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Urban G/S และ R nineT Scrambler ใหม่ ยังคงรักษาองค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ของรถมอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์ด้วยไฟหน้า LED มาพร้อมไฟส่องสว่างตอนกลางวัน ไฟเลี้ยวแบบ LED ล้อซี่ลวดสีทอง และยางล้อออฟโรด ในขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู R nineT รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี มากับไฟส่องสว่างแบบ LED พร้อมไฟหน้าแบบปรับได้และไฟส่องสว่างตอนกลางวัน ระบบทำความร้อนที่แฮนด์ (Heated Grips) และโช๊คหน้าแบบกลับหัวซึ่งสามารถปรับได้ยังช่วยเสริมการควบคุมรถและเสถียรภาพให้ดีขึ้น
ทั้ง 3 รุ่นล้วนขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน ความจุเครื่องยนต์ 1,170 ซีซี ที่ได้รับการพัฒนาให้มีคุณสมบัติตามมาตรฐานมลพิษ EU-5 ส่งพละกำลังสูงสุด 80 กิโลวัตต์ (109 แรงม้า) ที่ 7,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 116 นิวตันเมตรที่ 6,000 รอบต่อนาที ให้ความเร็วสูงสุดมากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งสามรุ่นมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 5.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และรองรับน้ำมันเบนซินค่าออกเทน 95 ถึง 98
นอกจากนั้น ระบบคลัทช์แห้งแผ่นเดียวทำงานด้วยระบบไฮโดรลิก และระบบเกียร์ 6 สปีด พร้อม Helical gear teeth ได้รับการติดตั้งมาเพื่อให้การส่งกำลังที่เหนือกว่าอีกด้วย
โหมดการขับขี่แบบ Pro ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานในทั้ง 3 รุ่น ประกอบด้วยโหมดการขับขี่มาตรฐาน Rain และ Road เพิ่มเติมด้วยโหมด Dyna สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู R nineT รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู R nineT Urban G/S และ R nineT Scrambler มาพร้อมโหมด Dirt โดยขณะขับขี่ด้วยโหมด Dyna หรือ Dirt ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสความสปอร์ตยิ่งขึ้น ระบบ Dynamic Brake Control หรือ DBC และ ABS Pro จะทำงานขณะขับขี่บนถนนที่มีแรงเสียดทานสูง ระบบ Dynamic Traction Control หรือ DTC ช่วยเสริมความปลอดภัยยิ่งขึ้นเมื่อเร่งความเร็ว ในขณะที่ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) จากการชะลอตัวหรือลดเกียร์ ช่วยให้ควบคุมรถได้มั่นคงและแม่นยำยิ่งขึ้น แม้ขณะเบรกในสภาวะการขับขี่ที่ยากลำบาก
BMW R nineT รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามด้วยสี Classic Chrome และ
ชุดแต่ง Option 719 Wheel classic และ Option 719 Billet pack shadow คุณภาพสูง
ขณะที่ BMW R nineT Urban G/S และ BMW R nineT Scrambler มาในสีฟ้า Imperial Blue Metallic และสี Manhattan Metallic Matt ตามลำดับ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn
ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถมือสอง One2car
ความคิดเห็น