รวมไว้ที่นี่! แอปฯ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า 2023 คิดค่าบริการอย่างไร Share this
EV Trends
โหมดการอ่าน

รวมไว้ที่นี่! แอปฯ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า 2023 คิดค่าบริการอย่างไร

Nunthapong Laongwan
โดย Nunthapong Laongwan
โพสต์เมื่อ 22 February 2566

แอปฯ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า 2023 มีแอปฯ ใดที่น่าสนใจบ้าง ฟังก์ชันการใช้งานเป็นอย่างไร พร้อมคิดอัตราค่าบริการอย่างไร Autospinn รวมไว้ที่นี่แล้ว

กระแสผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่อง โดยค่ายรถยนต์หลายๆ แบรนด์ เริ่มทยอยมอบรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีบางส่วนสงสัยว่า แม้การใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่กังวลเรื่องของการชาร์จหากไฟฟ้าเริ่มหมดหรือเหลือน้อยจะสามารถชาร์จไฟได้ที่ไหนบ้าง ทำให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนต่างเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแพร่หลายและครอบคลุมพื้นที่ให้บริการมากขึ้น ที่สำคัญยังมีแอปพลิเคชันช่วยค้นหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้สะดวกให้ง่ายต่อการใช้งานอีกด้วย วันนี้ Autospinn มีแอปหาสถานีชาร์จรถไฟฟ้ามาฝากกัน ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูเลย 

AC Charge กับ DC Charge ต่างกันอย่างไร แบบไหนชาร์จเร็วกว่ากัน

ก่อนจะเข้าเรื่องแอปฯ หาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า โดยแบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ AC Charge กับ DC Charge

  • AC Charge หรือการชาร์จไฟแบบธรรมดา โดยจ่ายไฟฟ้าแบบกระแสสลับซึ่งต้องใช้เวลาในการชาร์จค่อนข้างนานเพราะการปล่อยไฟค่อนข้างน้อย หากชาร์จเต็มจะใช้เวลาประมาณ 7-10 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับอัตราการจ่ายกระแสไฟฟ้าของเครื่องนั้นๆ และความจุแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าของคุณ)
  • ส่วน DC Charge หรือการชาร์จไฟแบบเร็ว (Quick Charge) จะเป็นการจ่ายไฟฟ้ากระแสตรง ทำให้การชาร์จแบตเตอรี่ 0-80% ใช้เวลาสั้นๆ ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ส่วนจะนานขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ภายในรถของคุณเช่นกัน

รวมแอปฯ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า 2023 คิดค่าบริการอย่างไร

รวมไว้ที่นี่! แอปฯ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า 2023 คิดค่าบริการอย่างไร

1. MEA EV

แอปฯ ที่จัดทำโดยการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ใช้สำหรับค้นหา จอง และชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทุกชนิดทุกค่ายทั่วไทย จุดเด่นของแอปฯ นี้ อยู่ที่คุณสามารถวางแผนและคำนวณเส้นทาง พร้อมระบุจุดแวะพักระหว่างทาง อีกทั้งยังสามารถจองตู้ชาร์จของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเครือการไฟฟ้านครหลวงได้อีกด้วย สะดวกง่ายดายเนื่องจากรองรับทั้งระบบชาร์จ AC และ DC โดยในปัจจุบันมีจำนวนให้บริการทั้งสิ้น 34 สถานี 138 หัวจ่าย ตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 500 หัวจ่ายภายในปี 2569

  • อัตราค่าบริการ 7.5 บาท/หน่วย (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

รวมไว้ที่นี่! แอปฯ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า 2023 คิดค่าบริการอย่างไร

2. PEA VOLTA 

แอปฯต่อไปจัดทำโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ. หรือ PEA) กับ PEA VOLTA ซึ่งเปิดให้ใช้บริการเพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้า สำหรับหัวจ่ายกระแสไฟฟ้าตามมาตรฐาน จุดเด่นอยู่ที่การช่วยค้นหาสถานีสำหรับชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าในเครือของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมระบุผลการค้นหาตำแหน่งสถานีที่ตั้งที่อยู่ใกล้เคียงกับผู้ใช้ในรูปแบบแผนที่ พร้อมนำทางไปยังสถานีด้วย GPS ที่จะคำนวณระยะทางจากตำแหน่งปัจจุบัน พร้อมทั้งเวลาและจำนวนการเดินทางโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ สถานีชาร์จฯ PEA VOLTA มีจำนวนให้บริการทั้งสิ้น 118 สถานี และภายในปี 2566 ตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนเป็น 263 สถานี รวมกว่า 1,000 หัวจ่าย

  • อัตราค่าบริการ ช่วง Peak 6.90 บาท/หน่วย และช่วง Off Peak 4.50 บาท/หน่วย

รวมไว้ที่นี่! แอปฯ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า 2023 คิดค่าบริการอย่างไร


3. EleXA

แอปฯ ที่จัดทำโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ. - EGAT)  ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานสถานีชาร์จ "EleX by EGAT" ตั้งแต่ค้นหาสถานี จองคิวชาร์จ และจ่ายค่าบริการ มาพร้อมบริการสอบถามปัญหาการใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทาง Line : @ElexaEV อีกด้วย ส่วนสถานีชาร์จไฟฟ้า EleX by EGAT ในปัจจุบันมีทั้งสิ้น 50 แห่ง (อัพเดทล่าสุด ก.พ.2566)  พร้อมให้บริการทั้งในสถานีบริการน้ำมัน PT รวมทั้งภายในเขื่อน โรงไฟฟ้า และศูนย์การเรียนรู้ของ กฟผ. โดยตั้งเป้าจะขยายสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นเป็น 150 แห่ง ภายในสิ้นปี 2566

  • อัตราค่าบริการ แบ่งออกได้ดังนี้ 
  1. ในพื้นที่สถานีบริการน้ำมัน PT ตู้ชาร์จ AC ขนาด 22 kW 7.5 บาท/หน่วย และตู้ชาร์จแบบ DC ขนาด 120 kW 7.5 บาท/หน่วย 
  2. ในพื้นที่ กฟผ. ตู้ชาร์จ AC ขนาด 22 kW 5.5 บาท/หน่วย และตู้ชาร์จ DC ขนาด 50 kW 6.5 บาท/หน่วย

 

รวมไว้ที่นี่! แอปฯ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า 2023 คิดค่าบริการอย่างไร


4. EA Anywhere

แอปฯ ที่จัดทำขึ้นโดย บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ผู้ให้บริการสถานีชาร์จรถไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) โดยสถานี EA Anywhere ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นหลัก ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่คุณสามารถค้นหาสถานีได้สะดวก พร้อมระบบช่วยนำทางไปยังสถานีชาร์จที่ผู้ใช้ต้องการใช้บริการ โดยปัจจุบันมีจำนวนมีจำนวนให้บริการทั้งสิ้นกว่า 500 สถานี (อัพเดทล่าสุด สิ้นปี 2565) 

  • อัตราค่าบริการ 
  1. แบบ AC Charger แยกเป็นรายชั่วโมง คือ 1 ชม. 50 บาท / 2 ชม. 80 บาท / 3 ชม. 110 บาท และ 4 ชม. 150 บาท
  2. แบบ DC Charger เริ่มต้นที่ 6.50 บาท และ 7.50 บาท/kWh

 

รวมไว้ที่นี่! แอปฯ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า 2023 คิดค่าบริการอย่างไร


5. EV Station PluZ

แอปฯ ค้นหาสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในเครือ ปตท. ตอบโจทย์ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งรถยนต์ PHEV รวมทั้งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยสามารถเช็กความพร้อมในการให้บริการของแต่ละสถานี และเช็กสถานะขณะชาร์จได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังมีบริการจองเวลาชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าล่วงหน้า ปัจจุบันมีจำนวนสถานีมากกว่า 300 แห่ง (อัพเดทล่าสุด ก.พ.2566) และจะขยายเพิ่มอีก 500 แห่งในปี 2566 ครอบคลุมการเดินทางบนถนนสายหลักทั่วประเทศ และตั้งเป้าที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 7,000 สถานี ภายในปี 2573

  • อัตราค่าบริการ แบ่งได้ดังนี้

  1. ค่าชาร์จ ช่วง On-Peak ราคา 7.5 บาท/หน่วย ส่วนช่วง Off-Peak 4.5 บาท/หน่วย
  2. ค่าจองเวลาชาร์จล่วงหน้า 20 บาทต่อช่วงเวลา

 

รวมไว้ที่นี่! แอปฯ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า 2023 คิดค่าบริการอย่างไร

6. EVolt

แอปฯ ที่ให้คุณสามารถค้นหาสถานีชาร์จรถไฟฟ้าได้สะดวกและง่ายดายผ่านมือถือ โดยสามารถดูข้อมูลได้ว่าแต่ละสถานีว่างหรือมีคิวเต็มหรือไม่ และยังสามารถสั่งเริ่มและหยุดการชาร์จได้ผ่านแอปฯ บนสมาร์ทโฟนได้ด้วย ปัจจุบันมีสถานีชาร์จทั้งหมด 188 แห่ง (อัพเดทล่าสุด ต.ค.2565) และตั้งเป้าที่จะติดตั้งเพิ่มรวม 12,000 แห่ง ภายในปี 2573

  • อัตราค่าบริการ จะขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่และผู้ให้บริการ โดยราคาช่วง On Peak จะอยู่ที่ 8-9 บาท/หน่วย (ราคาเมื่อเดือน พ.ย.2565)

 

รวมไว้ที่นี่! แอปฯ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า 2023 คิดค่าบริการอย่างไร

7. on|ion  by Arun+

อีกหนึ่งแอปฯ ที่น่าสนใจจาก อรุณพลัส (Arun+) หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจรใน กลุ่ม ปตท.  มีบริการจำหน่ายและติดตั้ง EV Charger ในที่พักอาศัย ที่มีการวางระบบและติดตั้งโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ โดยเน้นพื้นที่ศูนย์การค้าและย่านที่พักอาศัย มีจุดเด่นที่ผู้ใช้บริการ สามารถควบคุมการใช้งานผ่าน on-ion Mobile Application ทั้งจากระบบ Android และ iOS สามารถเลือกสถานีใกล้เคียงที่ต้องการ จากนั้นกดเข้าไปเช็กสถานะและรายละเอียดต่าง ๆ ของจุดชาร์จนั้น ๆ เช่น ประเภทหัวชาร์จ เวลาเปิด-ปิด อัตราค่าบริการ หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ เป็นต้น และเมื่อชาร์จเสร็จแล้วสามารถกดจ่ายเงินผ่านแอปฯ ได้ทันที ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสถานีทั้งสิ้น 45 แห่ง 

  • อัตราค่าบริการ คิดเหมาชาร์จ ชั่วโมงละ 60 บาท

รวมไว้ที่นี่! แอปฯ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า 2023 คิดค่าบริการอย่างไร

8. SHARGE

แอปฯ SHARGE ของบริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด หนึ่งในผู้ให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ ด้วยจำนวนสถานีให้บริการมากกว่า 600 แห่ง (ปี 2565) และมีแผนขยายสถานีฯ เพิ่มขึ้นเป็น 300,000 แห่งในปี 2568 และ ในปี 2573 จะมีสถานีฯ เพิ่มขึ้นเป็น 700,000 แห่ง ซึ่งจุดเด่นของแอปฯนี้ สามารถค้นหาสถานที่ชาร์จที่ครอบคลุมหลายแห่งทั่วประเทศ สามารถจองล่วงหน้าได้สะดวกรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมชำระเงินได้ผ่านหลากหลายช่องทาง อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับแอปฯ พันธมิตร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า 

  • อัตราค่าบริการ จะแยกออกเป็น

  1. เครื่องชาร์จ AC ขนาด 22 kW Type 2 ค่าบริการชั่วโมงละ 50 บาท 
  2. เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC Fast Charge กำลังสูงสุดถึง 120 kW ราคา 7.5 บาท/หน่วย 

รวมไว้ที่นี่! แอปฯ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า 2023 คิดค่าบริการอย่างไร

9. MG iSMART

แอปฯ MG iSMART ของค่าย MG แบรนด์ที่กำลังมาแรงในวงการรถยนต์ไฟฟ้าของไทย ซึ่งจะใช้งานควบคู่กับ MG Super Charge สามารถตรวจเช็กรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมฟีเจอร์อื่นๆ ให้สะดวกและปลอดภัย อีกทั้งยังมีระบบตรวจสอบสานะแบตเตอรี่ และการชาร์จ พร้อมค้นหาสถานีชาร์จ MG Super Charge ได้ง่ายๆ ปัจจุบันมีสถานีบริการแล้วกว่า 129 สถานี

  • อัตราค่าบริการ คิดราคาเดียวเพียง 7.5 บาท/หน่วย

 

นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่สามารถหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของผู้ให้บริการรายอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น 

รวมไว้ที่นี่! แอปฯ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า 2023 คิดค่าบริการอย่างไร

  • ChargeLOMA แอปฯ ค้นหาสถานีชาร์จที่คิดค้นและพัฒนาโดยคนไทย ซึ่งค้นหาสถานีชาร์จจากผู้ให้บริการรายใหญ่ทั้งหมดในประเทศไทยได้

รวมไว้ที่นี่! แอปฯ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า 2023 คิดค่าบริการอย่างไร

  • PlugShare แอปฯ ค้นหาสถานีชาร์จจากต่างประเทศ เป็นแอปฯ ที่ผู้ใช้งาน จะเป็นกระบอกเสียงในการแจ้งสถานีชาร์จด้วยตนเองลงไปในแอปฯ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถหาสถานีชาร์จหน่วยย่อยๆ แบบหัวปลั๊กไฟธรรมดาได้ อีกทั้งเมื่อไปขับรถยนต์ไฟฟ้าในต่างประเทศ ก็สามารถดูสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอย่างสะดวกง่ายดาย

ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการค้นหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า แต่ไม่ว่าจะชาร์จในสถานีใดๆ สิ่งที่ผู้ใช้รถควรตระหนักคือ ควรศึกษารถยนต์ไฟฟ้าจากคู่มือว่าหัวชาร์จรถยนต์เป็นแบบไหน และใช้เวลาในการชาร์จเท่าไร ที่สำคัญ ควรวางแผนการเดินทางก่อนทุกครั้ง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางหรือการหาที่ชาร์จนั่นเอง และเมื่อชาร์จเสร็จทุกครั้งไม่ควรจอดทิ้งไว้นานๆ เพื่อรักษามารยาทในการใช้จุดชาร์จ หรือบางแห่งอาจต้องเสียค่าปรับอีกด้วย

ที่มา: infoquest

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ ตรวจสอบราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn 

ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car

 


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ