อีซูซุวางแผนใช้ไทยเป็นฐานการผลิต Isuzu D-MAX EV ส่งขายยุโรป เบื้องต้นอยู่ระหว่างพัฒนารถต้นแบบ พร้อมเผยตัวเลขยอดจำหน่ายรถปิกอัพปี 65 ทำสถิติส่วนแบ่งการตลาด 45.2% สูงสุดในรอบกว่า 40 ปีที่ผ่านมา
อีซูซุวางแผนใช้ไทยเป็นฐานการผลิต Isuzu D-MAX EV ส่งขายยุโรป
มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ เปิดเผยถึงแผนพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าว่า แม้ว่าอีซูซุได้เปิดตัว Elf EV ที่ญี่ปุ่นไปแล้ว แต่การเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศอื่นๆ นั้น ต้องพิจารณาจากความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก จากนั้นบริษัทจะนำข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจวางจำหน่ายในประเทศอื่นๆ นอกจากประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง
ดังนั้นการตัดสินใจที่จะนำรถ Elf EV มาจำหน่ายที่ประเทศไทย จึงต้องพิจารณาจากความต้องการของลูกค้า ลักษณะการใช้งาน และสถานการณ์ต่างๆ ด้วยเช่นกัน โดยจะพิจารณา Solution ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า
D-MAX EV อยู่ระหว่างการพัฒนาต้นแบบ
สำหรับ ISUZU D-MAX EV นั้น อยู่ระหว่างการพัฒนาต้นแบบ (prototype) ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ ขณะเดียวกันได้วางแผนที่จะนำออกจำหน่ายที่ทวีปยุโรปที่มีความจำเป็นจะต้องใช้รถไฟฟ้าก่อน สำหรับประเทศอื่นๆ รวมทั้งไทย อีซูซุจะพิจารณาจากสถานการณ์ของแต่ละประเทศ และความต้องการของลูกค้าเป็นหลักแล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้ง
“หากมีการผลิตรถ EV คาดการณ์ว่าจะประกอบที่ไทย และส่งออกไปขายที่ทวีปยุโรป เนื่องจากเราได้ย้ายฐานการผลิตมาที่ไทยทำให้การที่จะประกอบในประเทศญี่ปุ่นเป็นเรื่องยากมาก ซึ่งเราไม่สามารถระบุระยะเวลาที่ชัดเจนได้ว่า จะดำเนินการเมื่อไรเพราะยังอยู่ในกระบวนการขั้นตอนการพัฒนา
กรณีที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิต ถามว่าจะต้องลงทุนเพิ่มหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด ถ้ามีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเราก็มีความจำเป็นต้องขยายโรงงาน ส่งผลให้มีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น หากบางชิ้นส่วนมีความคล้ายกับ ISUZU D-Max ในปัจจุบัน ก็สามารถใช้สายการผลิตเดิมได้ แต่บางชิ้นส่วน เช่น แบตเตอรี่ หรือมอเตอร์ต่างๆ มีความต่างกัน จำเป็นต้องเพิ่มสายการผลิตใหม่”
ส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในรอบ 40 กว่าปี
การดำเนินการในปีที่ผ่านมา อีซูซุจำหน่ายรถได้สูงถึง 212,491 คัน หรือมีส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์รวมจากทุกประเภท 25% โดยอีซูซุมียอดจำหน่ายรถปิกอัพจำนวน 175,425 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 45.2% ถือเป็นการครองส่วนแบ่งการตลาดที่สูงสุดของปิกอัพในรอบกว่า 40 ปีที่ผ่านมา
ภาพรวมยอดขายของปี 2023 ในช่วง 2 เดือนแรกของปีที่ผ่านมาจำนวน 134,027 คัน ถ้าเทียบกับปีที่แล้ว ลดลงคิดเป็น 6.9% มีผลมาจากหลายปัจจัย
- อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น กระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม
- เมื่อเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ ของปีที่แล้ว (2022) มียอดค้างส่งรถมาจากเดือนธันวาคมของปี 2021 ทำให้มีผลกระทบกับยอดขายในปีถัดมา เนื่องจากเกิดปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์จำนวนมาก เมื่อถึงช่วงต้นปี 2022 สถานการณ์ของการผลิตของเซมิคอนดักเตอร์กลับมาดีขึ้น ส่งผลให้เกิดยอดขายในปี 2022 สูงมากกว่าปกติ
คาดการณ์ในปี 2023 ตลาดรวมทั้งปีน่าจะมียอดขายจำนวน 860,000 คัน และน่าจะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ที่ขายได้จำนวน 850,000 คัน สำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ถ้าเทียบกับปี 2022 แล้วถือว่าในปีนี้ดีขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่อีซูซุที่ประสบปัญหาอย่างนี้ ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นก็ประสบปัญหาเดียวกัน สถานการณ์ดีขึ้นแต่ไม่เท่าเดิมยังมีปัญหาบางอย่างอยู่บ้าง
และยังจะมีความเสี่ยงเรื่องการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์แน่นอน เนื่องจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใช้เซมิคอนดักเตอร์เยอะขึ้นกว่าเดิม เช่น สินค้าไฮเทค กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ทโฟน ล้วนแล้วแต่ใช้เซมิคอนดักเตอร์เป็นจำนวนมาก จึงคาดว่าน่าจะส่งผลให้ขาดแคลนอีกในอนาคต
อัปเดตข่าวรถยนต์ ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสอง ทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น