ลอง Honda CL300 & CL500 ทรงหล่อ ช่วงล่างดี พร้อมใช้งาน

เปิดตัว Honda CL300 และ CL500 มอเตอร์ไซค์ Scrambler รุ่นใหม่ล่าสุด สไตล์สายลุยแบบคลาสสิก กระตุ้นกระแสตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทย เปิดจองใน Motor Show 2023

Honda CL Series

New Honda CL300 และ CL500 เป็นรถ Scrambler ที่มาพร้อมคอนเซปต์ A Reflection of You ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนแอคทีฟ ที่รักการท่องเที่ยว ชื่นชอบการผจญภัย สะท้อนตัวตนความเป็น Scrambler โดย New CL Series แบ่งออกเป็น 2 รุ่นประกอบด้วย New Honda CL500 มาพร้อมเครื่องยนต์ 500cc และ New Honda CL300 มาพร้อมเครื่องยนต์ 300cc

Honda CL300 และ CL500 ใช้โครงสร้างพื้นฐานเดียวกับ Honda CB500X โดยตัวรถถูกประกอบในประเทศไทย ส่งออกทั่วโลก

Honda CL ใช้ไฟหน้า LED เต็มระบบ ในโคมไฟดีไซน์ทรงกลม มาพร้อมกับไฟเลี้ยว LED ทรงกลม เข้ากันกับไฟหน้าของตัวรถ

ชุดช่วงล่าง ใช้โช๊คอัพเทเลสโกปิก ขนาดแกน 41 มม. ระยะยุบ 150 มม. พร้อมยางหุ้มโช๊ค ช่วยเสริมความดุดันให้กับตัวรถ และยังป้องกันสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดี ด้านระบบเบรก ใช้ดิสก์เบรกเดี่ยว พร้อมปั้มเบรก 2 พอตจาก Nissin และระบบ ABS ป้องกันล้อล็อก

ตัวล้อ ใช้ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว รัดยางกึ่งลุยขนาด 110/70 R19 ชนิดไม่มียางใน

เรือนไมล์ทรงกลมแบบดิจิตอล บอกข้อมูลการขับขี่ครบครัน

ควบคุมรถดั่งใจด้วยแฮนเดิลบาร์ยกสูง ออกแบบองศาให้รับกับท่านั่ง พร้อมเบาะสไตล์ Scrambler นั่งสบายไปได้ทุกสภาพเส้นทาง ถังน้ำมันดีไซน์เป็นเอกลักษณ์สไตล์ CL ขนาด 12 ลิตร พร้อม Rubber Pad ให้ความกระชับขณะขับขี่

ท่อไอเสีย มาในแบบยกสูง ตามสไตล์รถ Scrambler

เบาะนั่งตอนเดียว ความสูง 790 มม.

ล้อหลัง ใช้ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว รัดยางขนาด 150/70 R17 ชนิดไม่มียางใน ส่วนชุดช่วงล่าง ใช้โช๊คอัพคู่ ปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ

เครื่องยนต์ Honda CL300 และ CL500

Honda CL300 และ CL500 ใช้พื้นฐานตัวรถเหมือนกัน แตกต่างกันที่เครื่องยนต์ โดยเครื่องยนต์ของทั้งสองแบบมาพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ และแอสซิส สลิปเปอร์คลัตช์ ตอบสนองทุกการขับขี่อย่างนุ่มนวล ต่างกันที่ขนาดของเครื่องยนต์ ตามตารางด้านล่างนี้

ข้อมูลทางเทคนิค Honda CL300 และ CL500

ตัวรถ Honda CL300 และ CL500

มิติรถ Honda CL300 และ CL500

ทดลองขับ Honda CL300 และ CL500

ในส่วนของการทดสอบขับขี่ Honda CL300 และ CL500 ทาง Autospinn ได้มาทดสอบที่สนามHonda Safety Riding Center รามคำแหง ซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกๆ ท่าน สามารถเข้ามาทดสอบขับขี่ได้ตั้งแต่วันที่ 4-7 เม.ย 66 ตามเวลาดังนี้

- วันที่ 4, 5 และ 7 เม.ย. 66 ตั้งแต่เวลา 17.00-20.00 น.

- วันที่ 6 เม.ย 66 ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น.

พิเศษสุด! สำหรับ 200 ท่านแรก รับไปเลยเสื้อสุดเท่ The Honda Scrambler สามารถลงทะเบียนทดลองขับ : https://bit.ly/3ZNpliN และสำหรับผู้ที่มา Test Ride จะได้รับ ข้อเสนอพิเศษแบบเดียวกับในงาน Motor Show 2023

แผนที่ Honda Safety รามคำแหง คลิก : https://bit.ly/3M2GykW

สำหรับสนามทดสอบ จะเป็นลักษณะแบบ Gymkhana เน้นเรื่องของการควบคุมรถในความเร็วต่ำ มีระยะให้ลองอัตราเร่งบ้าง และมีจุดให้ทดสอบการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง การเบรก และการลุย โดยทางสนามจะมีอุปกรณ์ขับขี่ให้ทุกท่านยืมเพื่อทำการทดสอบในสนาม หรือจะนำอุปกรณ์ของตนเองมาทดลองขับก็สามารถทำได้เช่นกัน

Honda CL300 ขี่เป็นไง

ในส่วนของการขับขี่ Honda CL300 เริ่มต้นตั้งแต่เรื่องของท่านั่ง ที่ควบคุมรถได้ค่อนข้างง่าย จุดศูนย์ถ่วงของรถถือว่าต่ำ กับน้ำหนักตัวรถ 170 กิโลกรัม ถือว่าไม่หนัก และไม่เบาเลยทีเดียว รูปลักษณะของตัวรถมีความเพรียวบางค่อนข้างมาก ทว่าตัวแฮนด์ของรถจะถูกออกแบบมาค่อนข้างกว้าง ทำให้ท่านั่งจัดว่าเท่ไม่เบาเลยทีเดียว

พละกำลัง 25 แรงม้า แรงบิด 25 นิวตันเมตร จากเครื่องยนต์ 1 สูบ 286cc ถือว่าเพียงพอต่อการขับขี่อย่างสนุกสนานในพื้นที่ที่ไม่ได้เยอะมาก ตัวอัตราเร่งถือว่ามาแบบนุ่มนวล ไม่ได้จี้ดจ้าดอะไรมากมายนักตามลักษณะนิสัยของเครื่องยนต์ โดยจุดเด่นของรถคันนี้อยู่ที่ความนุ่มนวลในการทำงานของเครื่องยนต์ที่มอบอัตราเร่งได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีอาการกระโชกโฮกฮากออกมาให้น่าหวาดเสียวแต่อย่างใด

ช่วงล่าง ถือว่าทำมาได้ดีเกินความ มีทั้งความแน่นและความนุ่มอย่างครบครัน ขี่โค้งซับซ้อนก็มอบความมั่นใจได้ดี ซับแรงกระแทกได้เยี่ยม ใช้บนความเร็วสูงถือว่าทำได้ดี จุดศูนย์ถ่วงของรถค่อนข้างต่ำ ทำให้มันเป็นรถที่เลี้ยวได้ง่าย เลี้ยวได้ไว

ระบบเบรก ถือว่าให้มาได้เพียงพอต่อการใช้งาน เบรกเป็นมา สั่งได้ดั่งใจ มอบระยะเบรกที่ค่อนข้างสั้น ให้มาได้ดีเหนือความคาดหมาย เมื่อเปรียบเทียบกับพละกำลังที่เครื่องยนต์ทำได้ ถือว่าระบบเบรกชุดนี้เหลือเฝือสุดๆ

Honda CL500 ขี่เป็นไง

ในส่วนของการทดสอบขับขี่ Honda CL500 พื้นฐานของรถเหมือนกับ CL300 ทุกประการ แตกต่างกันตรงเครื่องยนต์ที่รุ่น 500 จะใช้ 2 สูบเรียง 471cc โดยน้ำหนักตัวรถจะขยับขึ้นไปเป็น 190 กิโลกรัม ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องน้ำหนักของรถที่หนักกว่าอย่างชัดเจน จุดศูนย์ถ่วงของรถที่สูงมากกว่ารุ่น 300 ส่งผลให้รถคันนี้เราจะสัมผัสได้ถึงน้ำหนักของมันมากขึ้น แต่ก็ถือว่าไม่ได้หนักมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนร่วมรุ่นคลาส 500cc เพราะปกติแล้วรถ BigBike มักจะมีน้ำหนักอยู่ราวๆ 200 กก. บวกลบนิดหน่อยอยู่แล้ว

พละกำลังจากเครื่องยนต์ 500cc บนบอดี้เดียวกับรุ่น 300cc บอกเลยว่าบิดเป็นมา สั่งได้ดั่งใจมากยิ่งขึ้น พละกำลังของตัวรถจัดจ้านมากกว่าอย่างชัดเจน อัตราเร่งถือว่าจี้ดจ้าดมากกว่ารุ่น 300 อย่างมหาศาล หากคุณเป็นคนที่ชอบอัตราเร่งหนักๆ แรงบิดเยอะๆ รุ่น CL500 ถือว่าตอบโจทย์กว่ามาก

ทว่าเรื่องของเสียงเครื่องยนต์ ด้วยความที่มันก็คือเครื่องยนต์จากตระกูล CB500 ทำให้เสียงของมันยังคงความสปอร์ตไว้อย่างชัดเจน แตกต่างจากรูปลักษณ์ของรถที่ดูเรโทร ซึ่งอาจจะดูขัดกับหน้าตาของมันไม่น้อย เอาว่าส่วนนี้เป็นเรื่องของอารมณ์ล้วนๆ ว่าอยากได้เสียง 1 สูบคลาสสิก ก็ต้องไปมอง CL300 แต่ถ้าอยากได้เรื่องของรูปทรง พร้อมพละกำลังที่มากกว่า และไม่สนใจเรื่องเสียงต้องเป็นสไตล์รถเรโทร CL500 ตอบโจทย์คุณแน่นอน

ช่วงล่าง จัดว่าทำมาได้ดี มอบทั้งความแน่น และความนุ่มได้ในชุดเดียว นี่ถือว่าเป็นช่วงล่างที่ทำมาได้เหนือความคาดหมายจากรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้า ที่เรามักจะเจออารมณ์ไม่แข็งไปก็ย้วยไป แต่เจ้า CL500 และ CL300 กลับเซ็ตช่วงล่างมาแบบทั้งนุ่มและแน่นในตัวเดียว อันนี้ถือว่าประทับใจมาก

ระบบเบรกของ CL500 ถือว่าเหมาะสมกับพละกำลัง 500cc ของตัวรถ พละกำลังเบรกเป็นมา สั่งได้ดั่งใจ เพียงพอต่อการใช้งานจริงอย่างแน่นอน

สรุป CL300 หรือ CL500

โดยสรุปแล้วสำหรับเจ้า Honda CL300 และ CL500 ถ้าหากถามว่าซื้อรุ่นไหนดี กับราคาที่แตกต่างกัน 80,000 บาท ต้องบอกก่อนว่าความแตกต่างของรถ 2 รุ่นนี้คือเครื่องยนต์ หม้อน้ำ และท่อไอเสียเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ใช้ร่วมกันทั้งหมด เอาว่าถ้าโจทย์ของคุณมาแนวรถ Scrambler อยู่แล้ว ก็อยู่ที่ว่าจะอยากได้รถที่เน้นแรงด้วย ก็ต้องไปมอง CL500 แต่ถ้าเน้นรูปทรง เน้นขี่สนุก เอาเท่ CL300 ถือว่าเพียงพอแล้วครับ

ราคา Honda CL300 และ CL500

New Honda CL300 มีทั้งหมด 3 สี คือ สีส้ม (Candy Energy Orange) สีเทา (Pearl Grey) และสีขาว(Pearl White) ราคาแนะนำที่ 149,900 บาท เปิดจองเป็นครั้งแรกในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2023

New Honda CL500 มีทั้งหมด 3 สี คือ สีเขียว (Mat Laurel Green) สีดำ (Mat Gunpowder Black Metallic) และสีส้ม (Candy Energy Orange) ราคาแนะนำที่ 226,800 บาท เปิดจองเป็นครั้งแรกในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2023

อัปเดตข่าวรถยนต์ ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสอง ทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car