BYD โตไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ TESLA ได้แต่ประกาศลดราคา Share this

BYD โตไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ TESLA ได้แต่ประกาศลดราคา

วรัญญู ยอดพรหม
โพสต์เมื่อ 23 April 2566

BYD ยอดขายอันดับหนึ่ง ในประเทศจีน เติบโตเพิ่มขึ้นในปี 2022 กว่า 56% หลังผลิตรถได้มากถึง 1,860,000 คัน ทำให้ยอดขายรถไฟฟ้าขึ้นเป็นที่หนึ่งในประเทศจีน


BYD โตไม่หยุด

ความเคลื่อนไหวของเทสลา (Tesla) ในการหั่นราคารถยนต์ในจีนกลับมาดุเดือดอีกครั้ง เมื่อบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของอีลอน มัสก์ (Elon Musk)  สูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับ BYD ที่สนับสนุนโดยวอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนมียอดจำหน่ายรถยนต์นั่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่งต่างประเทศเป็นครั้งแรกในปี 2566

เมื่อผู้ผลิตรถไฟฟ้า BYD ขึ้นอันดับ1แทน Tesla ผู้ผลิตรถไฟฟ้าชั้นนำของโลกแดนมะกัน Tesla สูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนอย่างต่อเนื่อง จุดหลักสำคัญสำหรับตลาดประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดรถไฟฟ้าที่ใหญ่มาก การสูญเสียส่วนแบ่งนั้นถือว่าเสียหายมากทำให้  Tesla ประการศรถราคาหลายรอบเพื่อเป็นการแก้เกมในตลาดจีน แต่ก็ยังมิอาจทำให้ยอดขายดีขึ้น เพราะด้วยรูปทรงที่ไม่ดึงดูดใจ รถไฟฟ้าในประเทศจีนมีหลากหลายยี่่ห้อ และเจ้าตลาดอย่าง BYD ที่สามารถผลิตรถยนต์ได้ตอบสนองตลาดได้มากกว่า รถมีให้เลือกหลากหลายพร้อมคุณภาพที่ดีขึ้น จึงไม่แปลกที่ เจ้าตลาดเดิมอย่าง Tesla จะเสียตำแหน่ง

แต่สำหรับประเทศไทยนั้น Tesla ถือเป็นรถใหม่ในตลาด ปัจจุบันยังส่งรถไม่ครบตั้งแต่เปิดตัว จึงไม่มีเหตุผลที่ Tesla จะรถราคาเหมือนในประเทศจีน ถ้าเทียบยอดขายในประเทศไทยและจีน ขายทั้งปีในประเทศไทยยังไม่เท่าเดือนเดียวในจีนเลย จึงไม่ต้องส่งใส่ว่าทำไม่ Tesla ไม่ลดราคาในไทย เติมที่โปรโมชั่นล่าสุดมีการจัดโปรโมชั่นแถมฟรีกระกันภัยชั้น 1 สำหรับ Tesla Model 3 เท่านั้น 

หลังจากที่ปีที่แล้ว Tesla ได้ลดราคารถยนต์ลงเพื่อเรียกคืนส่วนแบ่งตลาดในจีนที่มีการแข่งขันสูง และเป็นการจุดประกายให้เกิดสงครามราคาในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่เป็นที่สนใจของบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ของยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ บรรดาผู้บริโภคชาวจีนได้หันมาสนใจรถยนต์ของ BYD ที่ใหม่กว่าและมีราคาถูกกว่า โดยในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ กลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในเซินเจิ้น มียอดจำหน่ายสูงกว่า Tesla ถึง 5 เท่าในตลาดจีน

Bill Russo ผู้ก่อตั้ง Automobility บริษัทที่ปรึกษาในเซี่ยงไฮ้และอดีตหัวหน้า Chrysler ในจีน กล่าวว่า “การตัดสินใจของผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกาในการลดราคาลงในเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นทางเลือกที่ “อันตราย” ซึ่งกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมพากันทำตาม เห็นได้ชัดว่าแบรนด์รถยนต์ต่างประเทศกำลังสูญเสียส่วนแบ่งตลาด ดังนั้นเราจึงคาดว่าปี 2566 จะเป็นปีแรกที่แบรนด์รถยนต์ของจีน แซงหน้าแบรนด์ต่างประเทศในแง่ของยอดขาย” รัสโซ่กล่าว ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Automobility ปีที่แล้ว บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ของจีนมีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์นั่งรวมทั้งสิ้นประมาณร้อยละ 47

 

ผลประกอบการทางการเงินที่แข็งแกร่งของ BYD เป็นการประกาศศักดาของความน่าเกรงขามของกลุ่มบริษัทของจีน โครงสร้างที่ผนวกรวมในแนวดิ่งของกลุ่มบริษัท (จากเหมืองแร่มาจนถึงแบตเตอรี่และชิป) ทำให้ BYD มีข้อได้เปรียบเนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกกำลังดำเนินการเพื่อเปลี่ยนจากเครื่องยนต์สันดาปไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า โดย หวัง ชวนฟู (Chuanfu) ประธานกรรมการของ BYD กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า “เขาคาดว่ายอดขายในช่วงไตรมาสแรกจะพุ่งขึ้นถึงร้อยละ 80 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และบรรดาคู่แข่งที่อ่อนแอจะ “ถูกกำจัด” ออกจากตลาด หลังจากที่ทางกลุ่มบริษัทรายงานผลกำไรสุทธิที่ทะยานขึ้นมากกว่าร้อยละ 400 ในปี 2565 เป็น 16.6 พันล้านหยวน (2.4 พันล้านดอลลาร์)” โดยในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ปีนี้ ส่วนแบ่งตลาดของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอิน-ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD ในตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 34 ในปีที่แล้ว มาเป็นมากกว่าร้อยละ 40 ขณะที่ยอดขายของ Tesla นั้นลดลงเล็กน้อยเหลือร้อยละ 7.8

ลี เทาเทา (Li Taotao) นักวิจัยสาขาวิศวกรรมวัย 26 ปี ที่ขอใช้นามสมมติ ได้ซื้อรถยนต์ BYD Qin Plus DM-i ซึ่งเป็นรถยนต์ปลั๊กอิน-ไฮบริดในราคาเพียง 99,800 หยวน ในเดือนกุมภาพันธ์ “ฉันรู้สึกว่ารถยนต์ต่างประเทศนั้น มีราคาแพงเมื่อเปรียบเทียบกัน ดังนั้นถ้ารถยนต์ในประเทศมีคุณภาพดี ทำไมเราจะไม่เลือกล่ะ” เธอกล่าว

การตัดราคาของ Tesla และสงครามราคาที่จะเกิดขึ้นตามมาในบรรดาบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำส่วนใหญ่ในจีน คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดียวกันกับที่ปักกิ่งได้ลดเงินอุดหนุนจำนวนมากลง หลังจากที่ได้ใช้จ่ายเงินมากกว่า 120 พันล้านดอลลาร์ มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2552 เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้ โดยประเทศจีนเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์โดยทั่วไปลดลงเนื่องจากจีน เพิ่งฟื้นจากการดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด ซึ่งได้ชะลออัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน

 

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ ประเทศจีน (China Association of Automobile Manufacturers) ได้ออกโรงเตือนว่า ปัจจุบันภาคธุรกิจนี้กำลังเผชิญกับ “จำนวนสินค้าคงคลังที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากและแรงกดดันด้านการดำเนินงาน” โดยมียอดขายดิ่งลงในช่วงเดือนที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ของต่างประเทศเคยประกาศว่า จีนเป็นตลาดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเนื่องจากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าชะลอตัวลง ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2566 ยอดขายรถยนต์นั่งของบริษัทจีนอ่อนตัวลงประมาณร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว กลุ่มบริษัทรถยนต์ของเยอรมันลดลงร้อยละ 21 บริษัทรถยนต์ของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 40 ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีลดลงร้อยละ 25 และผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 13

ความน่าสนใจสำหรับตลาดรถไฟฟ้าจีน คือการพัฒนาอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด ตอบสนองผู้บริโภคได้ทันที ไม่ว่าจะเรื่องเทคโนโลยี สมรรถนะรถที่เทียบเท่ารถฝั่งยุโรป จึงไม่แปลกที่ผู้บริโภคจะให้ความเชื่อถือเพิ่มขึ้น

 

อัปเดตข่าวรถยนต์ ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสอง ทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ