Fuji Motorsports Museum รวมรถแข่งจากสนามมอเตอร์สปอร์ต

เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีโอกาสเข้าชม “Fuji Motorsports Museum” แหล่งรวบรวมข้อมูลการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตของโลกตั้งแต่เริ่มจนมาถึงปัจจุบันนานกว่า 130 ปี พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565

Fuji Motorsports Museum แหล่งรวมรถแข่งสนามมอเตอร์สปอร์ตในตำนาน

Fuji Motorsports Museum อยู่ในพื้นที่ของโรงแรม FUJI Speedway Hotel ใกล้ๆ กับสนามแข่ง FUJI SPEEDWAY โดยพื้นที่การจัดแสดงรถแข่งจากสนามมอเตอร์สปอร์ตในตำนานแบบจัดเต็มถึง 2 ชั้นด้วยกัน สำหรับจุดประสงค์ที่จัดตั้ง “Fuji Motorsports Museum” และเปิดกว้างให้บุคคลทั่วไปเข้าชมนั้น เจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ เล่าให้ฟังว่า หลักๆ ต้องการขยายตลาดของมอเตอร์สปอร์ตไปสู่วัยรุ่น คนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น

TOYOTA 7 5L Turbo

มอเตอร์สปอร์ตเริ่มที่ฝรั่งเศส

พื้นที่แสดงรถยนต์ชั้นหนึ่ง จะเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ทั้งหมดของมอเตอร์สปอร์ต ตั้งแต่เริ่ม ตลอดจนประวัติศาสตร์ของรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่นำมาโชว์ รถยนต์แรกเริ่มเป็นรถที่ใช้เครื่องจักรไอน้ำ น้ำมันเบนซิน และรถที่ใช้พลังงานทางเลือก รวมทั้งพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

การแข่งรถครั้งแรก เริ่มต้นเมื่อปี 1895 ณ กรุงปารีส และมีรถยนต์เบนซินคันแรกที่สร้างขึ้นมาเป็นรถฝรั่งเศสรุ่นแรกของโลก ที่ขับเคลื่อนล้อหลัง ในช่วงนั้นมีชนชั้นสูงชอบการแข่งขันรถ ฝรั่งเศสจึงได้จัดการแข่งขันรถจนเป็นต้นกำเนิดในขณะนั้น

Panhard et Levassor Type B2

ต่อมาในอเมริกามีรถยนต์ “Thomas Flyer” โทมัส ไฟเออร์ เป็นเจ้าแรกที่ทำโฆษณา และทำการแข่งขันแรลลี่รอบโลกขับจากนิวยอร์คไปปารีสใช้เวลาประมาณ 5 เดือนไปตามถนนต่างๆ ทั้งในเมืองและชนบท เพื่อเช็กว่า รถมีประสิทธิภาพอย่างไร และหาข้อดี ข้อเสีย นี่ถือเป็นหลักการขายของอเมริกายุคแรกๆ

Thomas Flyer MODEL L ปี 1909

รถยนต์คันต่อมาเป็นรถของผู้ก่อตั้งฟอร์ด หรือเฮนรี่ ฟอร์ด เรียกว่ารุ่น 999 ขณะนั้นเฮนรี่ ฟอร์ด ต้องการสร้างรถยนต์ที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ โดยเขาต้องการเงินทุนจากการแข่งขันรถ เพื่อนำเงินมาทำการค้า

FORD 999

ในยุคที่มีการแข่งขันกรังปรีซ์ จะใช้สีรถเป็นการบ่งบอกประเทศ เช่น สีเขียวเป็นของอังกฤษ, สีฟ้า ฝรั่งเศส, สีแดง อิตาลี และสีเงิน เยอรมนี ขณะนั้น ในการแข่งขันกรังปรีซ์ รถเมอร์เซเดสเบนส์มีบทบาทมาก ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 270 กม.ต่อชม.

Mercedes-Benz W25

Sun Beam Grandprix 1923

Bugatti Type 35 

นักแข่งชาวไทยในสนาม Coupe de Prince Rainier

มุมหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ Fuji Motorsports Museum เป็นจุดเริ่มต้นการแข่งรถในเอเชีย โดยมีพระวรวงศืเธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช หรือพระองค์เจ้าพีระ เป็นนักแข่งคนไทยที่ไปแข่งขันสนาม Coupe de Prince Rainier  ที่เซอร์กิตเดอโมนาโก (ปัจจุบันคือ โมนาโกกรังด์ปรีซ์) ทรงชนะ และยังแข่งขันจนชนะอีกหลายครั้ง

ในปี พ.ศ. 2482 ทั้งสองพระองค์ทรงเป็นกำลังสำคัญ ในการเตรียมการจัดการแข่งขันกรุงเทพกรังด์ปรีซ์ (Bangkok Grand Prix) โดยเชิญนักแข่งชั้นนำมาแข่งขันบนเส้นทางรอบสนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง ระยะทาง 2 ไมล์ ในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2482 แต่การแข่งขันนี้ต้องยกเลิกไป เพราะเกิดสงครามโลกครั้งที่สองขึ้นเสียก่อน

ส่วนญี่ปุ่นมีการแข่งขัน Japanese Grand Prix รถแข่งหมายเลข 6 เป็นรถที่นำมาแข่งขันช่วงเปิดสนามฟูจิ สปีดเวย์ ขณะที่โตโยต้า 7 ได้เข้าร่วมการแข่งขันกรังปรีซ์ด้วย ในพื้นที่มุมหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ มีลายเซ็นของ AKIO TOYODA อากิโอะ โทโยดะ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Toyota Motor Corporation ซึ่งใช้ชื่อในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตว่า “MORIZO” อยู่ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้นำรถไฮโดรเจนไปแข่งรายการ 24  ชม.

TOYOTA 7

NISSAN 382 R

ไฮไลต์ Toyota 2000GT

บริเวณชั้น 2 จะมีรถแข่งที่ชนะจากหลายรายการแข่งขันจัดแสดง อาทิ Porsche 904 GTS, Pennzoil Nissan GTR R33 GT 500,A73 Lancer 1600 GSR, Toyota 2000GT เป็นต้น เปิดลิฟต์ออกมาจะพบกับ Porsche 904 GTS ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกกับเราว่า สามารถชมได้เฉพาะที่นี่ที่เดียว เป็นรถที่ใช้แข่งขันในรายการ Targa Florio อิตาลี

Porsche 904 GTS

TOYOTA 2000 GT

สำหรับ Toyota 2000GT เป็นรถที่อยู่ในหนัง เจมส์ บอนด์ ตอน You only live twice และเป็นรถที่ทำให้โตโยต้ามีชื่อเสียงมากในญี่ปุ่น เพราะทำลายสถิติโลกได้หลายครั้ง ผลิตเพียง  เพียง 351 คัน ราคาเป็นเงินได้กว่า 20 ล้านบาท

Bentley รถคันนี้เข้าไปแข่งขันรายการ 24 ชั่วโมง เลอม็อง (ฝรั่งเศส: 24 Heures du Mans) ช่วงครบรอบ 100 ปี และเป็นปีแรกที่ Bentley ส่งรถเข้าร่วม ประเด็นหลักๆ ขณะนั้นต้องการดูความทนทานของรถ ว่าจะมีอะไรเสียหาย มีประสิทธิภาพแค่ไหน และเป็นสมัยที่ Bentley เริ่มให้ความสำคัญกับไฟหน้า รถวิ่งตอนกลางคืน ไฟหน้าต้องสว่างขนาดไหน จึงมองเห็นถนนชัดเจนเพียงพอ

Bentley 1927/4.5 Litre

เจ้าหน้าที่เล่าว่า มอเตอร์สปอร์ต เริ่มจากรถยนต์ไอน้ำ รถยนต์สันดาป อนาคตต้องคิดว่าจะใช้อะไรมาแทนน้ำมันหรืออะไรที่ดีกว่าน้ำมัน แม้ว่าจะมีการวิจัยพัฒนารถยนต์ยังไง สปอร์ตคาร์ก็ยังจำเป็น ดังนั้น จะต้องได้รับการสนับสนุนเพื่อพัฒนาเป็นรถในอนาคต โดยเริ่มจากที่นี่

“สาเหตุที่เลือกใช้ Fuji Motorsports Museum เป็นพิพิธภัณฑ์เพราะมีแรงบันดาลใจที่อยากขยายมอเตอร์สปอร์ตไปสู่ตลาดวัยรุ่นคนหนุ่มสาว อยากสร้างประวัติศาสตร์ อยากให้คนหนุ่มสาวเข้าถึง เพราะที่นี่ไม่ไกลจากโตเกียวมาก อีกทั้งยังใกล้ภูเขาไฟฟูจิซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำ คนเดินทางมาง่าย และมีแผนจะสร้างสนามแข่งอีกหลายแห่งในแถบนี้”

TOYOTA SUPRA TURBO A (MA70)

จากการเดินชมพิพิธภัณฑ์ทุกซอกทุกมุม ที่นี่ น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นให้กลุ่มวัยรุ่นญี่ปุ่นหันมาสนใจรถยนต์เพิ่มขึ้นได้ไม่ยาก เพราะด้วยพื้นที่จัดแสดงที่ผสมกลมกลืนระหว่างความทันสมัย เข้ากับรถแข่งในตำนาน ยิ่งปลุกความตื่นตาตื่นใจให้ผู้คนหันมาหลงใหลรถได้อย่างแน่นอน

MAZDA 787 B

สำหรับค่าเข้าชม Fuji Motorsports Museum วันธรรมดาคนละ 1,800 เยน วันหยุดและวันนักขัตฤกษ์ 2,000 เยน ผู้ชื่นชอบรถหายาก รถในตำนาน จากสนามมอเตอร์สปอร์ตต้องได้ไปชมกันสักครั้งหนึ่ง

Mitsubishi Evolution III

TOYOTA TF 109

อัปเดตข่าวรถยนต์ ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสอง ทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car