Mclaren เปิดตัวรถสปอร์ตน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์กับ 750S ที่นำมาแทนที่และปรับปรุงใหม่มาจากรุ่น 720S ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดในไลน์อัพที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน V8 กำลัง 720 แรงม้า ก่อนอัพเกรดกำลังเป็น 765 แรงม้าในรุ่นพิเศษ 765LT โดยในรุ่น 750S มีการเปลี่ยนชิ้นส่วนทั้งคันมากกว่า 30% จึงได้สปอร์ตซูเปอร์คาร์ที่เบากว่า ทรงพลังกว่า และน่าดึงดูดยิ่งขึ้น พร้อม 2 ตัวเลือกทั้งแบบหลังคาแข็งสไตล์คูเป้ และเปิดประทุน Spider
ราคาจำหน่าย McLaren 750S
- รุ่น Coupe (หลังคาแข็ง) 324,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 11,090,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า)
- รุ่น Spider (เปิดประทุน) 345,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 11,809,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า)
ขนาดมิติตัวถัง และความจุถังน้ำมัน McLaren 750S
- ความยาว 4,569 มม.
- ความกว้าง 1,930 มม.
- ความสูง 1,196 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,670 มม.
- ความจุถังน้ำมัน 72 ลิตร
ดีไซน์ภายนอกของ McLaren 750S ออกแบบภายใต้แนวคิด “form follows function” ให้ยังคงมีกลิ่นอายของรุ่นก่อนหน้าอย่าง 720S อาทิ กันชนหน้าใหม่รูปทรงเดิมแต่เพิ่มช่องดักลมขนาดใหญ่ ไฟหน้า LED สปอยเลอร์กันชนหน้าที่ออกแบบให้มีขนาดใหญ่ช่วยในเรื่องอากาศพลศาสตร์ มาพร้อมชุดแต่งรอบคันที่ออกแบบให้เข้ากับสปอยเลอร์หลังแบบแอคทีฟที่ใหญ่ขึ้น 20% เพื่อปรับทิศทางลมได้ตามต้องการ
ส่วนด้านหลังนำแรงบันดาลใจจากรถสปอร์ตในตำนาน P1 อย่างท่อไอเสียออกกลางลำ พร้อมการออกแบบตำแหน่งติดตั้งสปอยเลอร์ใหม่ให้สูงขึ้น 2 นิ้ว กันชนหลังออกแบบใหม่และมีตะแกรงซี่รูใหญ่ซึ่งมีแผ่นดิฟฟิวเซอร์ลายใหม่ พร้อมติดตั้งช่องระบายลมขนาดใหญ่บริเวณซุ้มล้อหลัง แถมยังมีขอบล้ออัลลอยขึ้นรูป 10 ซี่ที่ช่วยลดน้ำหนักของรถได้อีก 13.7 กิโลกรัม
ภายในห้องโดยสาร แผงคอนโซลและเบาะนั่งใช้วัสดุหุ้มหนัง Alcantara แต่สามารถเลือกออปชันเพิ่มเติมได้อีก 2 รายการ ได้แก่ TechLux ใช้หนัง Nappa ทั่วทั้งห้องโดสาร และ Performance ที่ผสมผสานระหว่างหนังแท้กับหนัง Alcantara โดยทางค่ายปรับปรุงการตกแต่งภายในเพิ่มเติมด้วยการตกแต่งไฟ Ambient Lighting และวัสดุสีเงิน เช่นเดียวกับแผงคอนโซลหน้าถูกออกแบบใหม่ให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจของรุ่นนี้ คือ McLaren Control Launcher ระบบการจดจำการปรับแต่งการทำงานของตัวรถทั้งรับบแอโรไดนามิก ระบบปรับตัวช่วยการขับขี่ การปรับพละกำลังเครื่องยนต์และการตอบสนองของระบบส่งกำลัง โดยใช้ปุ่ม Shortcut และยังรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay นอกจากนี้ เจ้าของรถสามารถเพิ่มออปชันเบาะนั่งเป็นรูปแบบ Full bucket seat ที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา (ทำให้ตัวรถน้ำหนักเบาราวๆ 17.5 กิโลกรัม) และเพิ่มระบบเครื่องเสียงจาก Bowers & Wilkins ได้อีกด้วย
ขุมพลัง McLaren 750S อัพเกรดใหม่ แรงสะใจยิ่งขึ้น
ขุมพลัง McLaren 750S ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 รหัส M840T ขนาด 4.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จคู่ (Twin-scroll) ให้กำลังสูงสุด 750 แรงม้า แรงบิด 800 นิวตันเมตร จับคู่ผ่านเกียร์คลัทช์คู่ SSG (Seamless Shift Gearbox) 7 สปีด ทำความเร็วสูงสุด 332 กม./ชม. สามารถเบรกหยุดจากความเร็ว 200 กม./ชม. ได้ภายใน 4.6 วินาที กับระยะเบรก 113 ม. อย่างไรก็ตาม ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น ซึ่งจะแยกได้ ดังนี้
- รุ่น Coupe อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.8 วินาที และเร่งจาก 0-200 กม./ชม. ภายใน 7.2 วินาที วิ่งควอเตอร์ไมล์ ภายใน 10.1 วินาที
- รุ่น Spider อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.8 วินาที และเร่งจาก 0-200 กม./ชม. ภายใน 7.3 วินาที วิ่งควอเตอร์ไมล์ ภายใน 10.3 วินาที
ขณะเดียวกัน McLaren 750S ยังมีการขยายความกว้างแทร็คล้อคู่หน้าอีก 6 มม. และรูปทรงช่วงล่างใหม่ ที่มาพร้อมกับระบบควบคุม Proactive Chassis Control III เจเนอเรชันใหม่ล่าสุดของ McLaren ที่เพิ่มความแข็งของสปริงคู่หน้าขึ้น 3% และที่คู่หลัง 4% อีกทั้งยังเพิ่มระบบช่วยยกด้านหน้าให้สามารถขับผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้รวดเร็วกว่า 720S จาก 10 วินาที เหลือเพียง 4 วินาทีเท่านั้น
Mclaren 750S เตรียมวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา แม้จะยังไม่กำหนดเวลาจำหน่ายที่แน่ชัด แต่ราคาเปิดเผยออกมาแล้ว โดยรุ่น Coupe (หลังคาแข็ง) อยู่ที่ 324,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 11,090,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า) ส่วนรุ่น Spider (เปิดประทุน) จะอยู่ที่ 345,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 11,809,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า)
ที่มา: McLaren, Motor1, Carscoops
อัปเดตข่าวรถยนต์ ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสอง ทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น