ราคาจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ NEW MG MAXUS 9 รถลักชัวรี่ MPV ไฟฟ้า100% แบบ 7 ที่นั่งตัวล่าสุด ของ เอ็มจี พร้อมเปิดราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่2.499 ล้านบาท รุ่น X และ รุ่น V ในราคา 2.699 ล้านบาท เริ่มส่งมอบรถ NEW MG MAXUS 9 ภายในเดือน พฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป
MG MAXUS 9
MG MAXUS 9 ราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU จากจีน)
- MG Maxus 9 X 2,499,000 บาท
- MG Maxus 9 V 2,699,000 บาท
เอ็มจี พร้อมเสิร์ฟอภิสิทธิ์สุดพิเศษในช่วงเปิดตัวด้วยแคมเปญมูลค่า กว่า 120,000 บาท ดังนี้
ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด มูลค่า 42,057 บาท
ฟรี ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER มูลค่า 18,692 บาท
ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
พิเศษ! ขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินไม่จำกัดจำนวนครั้ง และไม่จำกัดระยะทาง พร้อมบริการรถ Limousine Service กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ตลอด 5 ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
Dimension มิติตัวถัง
- ยาว 5,270 มิลลิเมตร
- กว้าง 2,000 มิลลิเมตร
- สูง 1,840 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ wheelbase 3,200 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น ground clearance 140 มิลลิเมตร
การตกแต่งภายใน พรีเมี่ยม หรูหรา โดดเด่นด้วยหลังคาแบบ Dual Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่ ทำให้ห้องโดยสารดูโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด อีกทั้งยังมี Ambient light ที่สามารถเลือกเปลี่ยนได้มากถึง 64 เฉดสี ที่ช่วยเพิ่มความสุนทรีย์ให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ระบบปรับอากาศเป็นแบบ Dual Zone ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สะท้อนการออกแบบที่คำนึงถึงทุกพื้นที่ภายในรถ มาพร้อมกับความสะดวกสบายทุกที่นั่ง ไม่ว่าจะเป็นเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง และเบาะแถวที่สองแบบ VIP Captain Seat ซึ่งรังสรรค์ความพิเศษด้วยประสบการณ์เช่นเดียวกันกับที่นั่ง First Class บนเครื่องบิน โดยมีระบบบันทึก ระบบนวด และสามารถปรับระดับอุณหภูมิได้ตามความต้องการ พร้อมโต๊ะที่สามารถพับเก็บได้ จอกลางแบบสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ใช้งานง่าย รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android ให้พลังเสียงแบบรอบด้านด้วยลำโพงมากถึง 12 จุด และไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อด้วยช่อง USB มากถึง 9 ตำแหน่ง เสริมความพรีเมี่ยมด้วยกระจกมองหลังผ่านกล้อง Streaming Media Rearview Mirror กับมุมมองที่หาไม่ได้จากรถทั่วไป
อุปกรณ์เพิ่มใน MG Maxus 9 รุ่น V เพิ่มเงิน 200,000 บาท
- ยาง RunFlat Tyres
- เบาะนั่งคนขับ พร้อมระบบนวด Massage Seat
- เบาะนั่งคนขับ พร้อมระบบอุ่น และ ระบายอากาศ Heated - Ventilated Seat
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า พร้อมระบบนวด Massage Seat
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า พร้อมระบบอุ่น และ ระบายอากาศ Heated - Ventilated Seat
- เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ VIP Captain Seat
- เบาะนั่งแถวที่ 2 พร้อมระบบนวด Massage Seat
- ระบบกล้องแสดงภาพบนกระจกมองหลัง Streaming Media Rearview Mirror
- ช่องเชื่อมต่อ USB 9 ตำแหน่ง (รุ่น X USB 7 ตำแหน่ง)
- ลำโพง 12 ตำแหน่ง (รุ่น X ลำโพง 8 ตำแหน่ง)
ขุมพลัง MG MAXUS 9
ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor พละกำลังสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่ Lithium-ion แบบ Cell To Pack ขนาดความจุ 90 kWh วิ่งไกล 540 km. ต่อชาร์จ (มาตรฐาน NEDC) ขับเคลื่อนล้อหน้า
Charging การชาร์จไฟ
หัวชาร์จแบบ Type 2 / CCS Combo
- รองรับการชาร์จ กระแสสลับ สูงสุด AC 11 kW จาก 5-100% ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที
- รองรับการชาร์จ กระแสตรง DC 120 kW จาก 30-80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ระบบความปลอดภัย MG MAXUS 9
- ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
- ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto -Vehicle Hold)
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
- ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
- ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
- ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา (LCA/ BSD/ RCTA/ DOW)
- จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX บริเวณที่นั่งแถว 2 และ 3
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
- กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- สัญญาณเตือนระยะเดินหน้า และ ถอยหลัง
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 3 สี
รุ่น X – LUXURY ที่มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และสีขาว จัดจำหน่ายในราคา 2.499 ล้านบาท และ
รุ่น V – SUPER LUXURY ที่มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ และสีขาว จัดจำหน่ายในราคา 2.699 ล้านบาท และสีพิเศษเทาหลังคาดำ แกรนิต เกรย์ เพิ่ม อีก 30,000 บาท
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ ตรวจสอบราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn
ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น